แผนที่นำทาง ที่เราใช้อยู่ในปัจจุบันเป็นส่วนช่วยในการอำนวยความสะดวกให้กับการเดินทางของเราเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากที่เราจะมีระบบ GPS นำทาง เเล้วนั้น เราจำเป็นจะต้องมีแผนที่ไว้เพื่อดูด้วย ซึ่งแผนที่นำทางนั้น โดยส่วนมากจะเป็นในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ทั้ง 2D และ 3D ซึ่งในสมัยนี้แผนที่นำทางดังกล่าวถูกสร้างและจำลองขึ้นผ่านทางแอปพลิเคชั่น หรือโปรเเกรมจำลอง แผนที่ ภูมิประเทศ ถนน เส้นทางการเดินรถหรือเดินเรือ เป็นต้น
การใช้งานแผนที่นำทางใช้งานได้ไม่ยาก ซึ่งลักษณะและรูปแบบการดูแผนที่นำทางนั้น จะเหมือนกับการดูหรืออ่านแผนที่ทั่วไป โดยจะมีสัญลักษณ์ต่างๆปรากฏอยู่เพื่อช่วยในการหาพื้นที่ หรือจุดที่ต้องการได้ง่ายขึ้น เเต่จะมีรูปเเบบที่ง่ายกว่า เข้าใจได้ง่ายกว่าแผนที่นำทางนั้นอาจจะมีรายละเอียดทางภูมิศาสตร์ที่น้อยกว่าแผนที่ทั่วไป แต่จะมีลูกเล่นหรือการบอกตำแหน่งที่มากกว่าเช่น บอกตำแหน่งของ โรงเเรม สถานที่ราชการ จุดพักรถ เป็นต้น
โดยที่แผนที่นำทางจะใช้ในการบอกทางเป็นส่วนมาก ใช้ในการเดินทางไปยังสถานที่หนึ่งจากอีกที่หนึ่ง และยังสามารถ คำนวณระยะทาง หรือระยะเวลาที่ต้องใช้ทั้งหมด นับเป็นตัวช่วยให้เราสามารถวางแผนการเดินทางหรือใช้เพื่อให้ทราบระยะทางทั้งหมดที่จะใช้ในการเดินทางแต่ละครั้ง
ในปัจจุบันการบ่งบอกจุดตำแหน่งบนพื้นผิวโลก สามารถทราบได้ง่ายและถูกต้องผ่านอุปกรณ์ที่เรียกว่า GPS (Global Positioning System) ซึ่งเจ้าอุปกรณ์ตัวนี้จะทำงานควบคู่ไปกับระบบแผนที่นำทางหรือที่เรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า GPS Navigator โดยจะใช้ดาวเทียมในการส่งค่าเพื่อคำนวณพิกัดโดยใช้ตัวรับสัญญาณ GPS เพื่อเป็นการบอกตำแหน่งที่อยู่บนพิกัดโลกแผนที่นำทางมีที่มาอย่างไร?
แผนที่นำทางมีที่มาจากการที่ GPS จะต้องมีเครื่องรับสัญญาณ GPS หน่วยประมวลผล โปรแกรมแผนที่และข้อมูลแผนที่นั้นขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละบุคคล และแต่ละวัตถุประสงค์ของการใช้งานในรูปแบบต่าง ๆ การรับสัญญาณดาวเทียมนั้นไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย โดยรูปแบบการเเสดงผลของแต่แผนที่ในเเต่ละเเอปพลิเคชั่นหรือจากเครื่องมือ GPS ต่างๆ จะเเตกต่างกันไปแล้วเเต่รุ่นหรือการพัฒนาของยี่ห้อและเจ้าของนั้นๆแผนที่นำทางในบางอุปกรณ์อาจจะเข้าใจได้ยากเป็นรูปแบบเชิงลึกที่ไม่เหมาะสำหรับบุคคลทั่วไป
ซึ่งจะบอกเเค่เส้นทางและพิกัดต่างๆที่เราอาจจะไม่ต้องทราบก็ได้ เเต่โดยทั่วไปการเเสดงแผนที่นำทางในเครื่องมืออื่นๆเช่น มือถือ หรือจอ GPS ที่ติดตั้งในรถยนต์ อุปกรณ์เสริม GPS ที่สามารถแสดงแผนที่นำทางได้ จะมีรูปแบบที่ไม่ซับซ้อนและสามารถเข้าใจได้ง่าย เป็นมิตรกับผู้ใช้อย่างมาก
ส่วนการใช้งานในรูปแบบที่ใช้ประกอบกับแผนที่นำทางจะมีค่าใช้จ่ายในเรื่องของ แผนที่ที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับบริษัทที่จัดทำแผนที่นำทางขึ้น ในประเทศไทยมีบริษัทที่จัดทำแผนที่นำทางขึ้นเพื่อใช้กับ GPS รายใหญ่ ๆ ได้แก่ Google Map, Garmin, Abel ITS, Bangkok Guide, Mapking, SpeedNavi เป็นต้น นอกจากนี้แผนที่นำทางยังมีข้อจำกัดเฉพาะ คือไม่สามารถนำมาใช้ต่างบริษัทและแผนที่นำทางยังมีความเฉพาะในเรื่องของการใช้สำหรับเครื่องแต่ละเครื่องอีกด้วย
กล่าวคือ ไม่สามารถนำแผนที่นำทางจากเครื่องหนึ่งไปใช้กับอีกเครื่องหนึ่ง จะต้องมีการป้อนรหัส ซึ่งทางบริษัทผู้ให้บริการจะเป็นผู้จัดการให้เท่านั้นถึงจะสามารถใช้งานได้ เป็นเรื่องของลิขสิทธิ์และการจัดทำขึ้นโดยเเต่ละยี่ห้อหรือเจ้าของ โดยจะมีการพัฒนาแผนที่นำทางอยู่เสมอเพื่อให้เส้นทางนั้นถูกอัพเดทให้เข้ากับเส้นทางในปัจจุบันมากที่สุด ความสมจริงหรือมาตราส่วนที่ตรงกับความจริงที่สุดจะสามารถคำนวณระยะทางที่ถูกต้องและเเม่นยำ
และในปัจจุบันแผนที่นำทางจะมีลักษณะรูปแบบเป็นแบบออนไลน์ เป็นส่วนใหญ่ โดยทำงานผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ตหรือไวฟาย ซึ่งจะทำให้สามารถระบุเส้นทางที่เร็วที่สุด หรือเเม้เเต่เส้นทางที่มีการจราจรติดขัดและเเจ้งเตือนให้เปลี่ยนเส้นทางได้
การสร้างแผนที่นำทางเริ่มจากการใช้ภาพถ่ายทางอากาศจากดาวเทียมมาต่อซ้อนกันเหมือนการปูกระเบื้องเพื่อให้เห็นภาพรวมของภูมิประเทศ แล้วจึงไปกำหนดจุดอ้างอิงทางภูมิศาสตร์ (Calibrate) เป็นค่าพิกัดดาวเทียม แล้วจึงทำการสร้างข้อมูลต่าง ๆ เช่น ถนน สถานที่สำคัญ ห้างสรรพสิค้า จุดสนใจเป็นชั้น แล้วนำมาประกอบกันเป็นแผนที่นำทางหารสร้างข้อมูลทางภูมิศาสตร์จะต้องมีการสำรวจข้อมูลภาคสนามซึ่งต้องใช้ทรัพยากรบุคคลและทรัพยากรทางเครื่องมือจำนวนมาก และต้องทำอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากแผนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เนื่องด้วยสภาพแวดล้อมทางภูมิศาสตร์ที่เปลี่ยนไป ดังนั้นในการสร้างแผนที่แต่ละครั้งจึงการใช้งบประมาณต้นทุนที่ค่อนข้างสูง
แผนที่นำทาง ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ จะช่วยให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่นและง่ายดาย ทำงานควบคู่กับระบบ GPS แสดงผลออกมาได้อย่างแม่นยำและถูกต้อง