บริเวณหน้าปัดรถยนต์ทุกรุ่นทุกยี่ห้อนั้นจะมีสัญลักษณ์ไฟเตือนเอาไว้ ซึ่งผู้ขับขี่ทุกคนควรเรียนรู้จากคู่มือการใช้รถก่อนนำมาขับขี่ว่าไฟเตือนสัญญาณหน้ารถเหล่านี้นั้นมีความหมาย หรือความสำคัญอย่างไรบ้าง ซึ่งอาจสรุปความสำคัญของ ไฟเตือนหน้าปัดรถยนต์ ตามรายละเอียดต่อไปนี้
หากสังเกตให้ดีไฟเตือนหน้าปัดรถยนต์จะมี 3 ประเภทได้แก่ สีเขียวหรือสีน้ำเงิน สีเหลือง และสีแดง ซึ่งการนำสีที่แตกต่างกันมาใช้เป็นสัญลักษณ์ไฟเตือนนั้นก็เนื่องมาจากการสื่อความหมายที่แตกต่างกัน อย่างในกรณีสีเขียวหรือสีน้ำเงิน มักใช้สิ่งที่ไม่อันตรายแต่ควรปฏิบัติอย่างไฟตัดหมอก หรือระบบแสงสว่าง
ส่วน สีเหลือง เป็นการเตือนให้ปฏิบัติตาม อาทิ สัญญาณเตือนน้ำมันในกรณีที่น้ำมันใกล้หมด รูปเครื่องยนต์ที่เตือนให้ผู้ขับขี่รู้ตัวว่าเครื่องยนต์มีอาการผิดปกติ หรือรูปพวงมาลัยที่เตือนว่าระบบพาวเวอร์ของพวงมาลัยมีอาการผิดปกติ และสีสุดท้ายอย่าง สีแดง มีขึ้นเพื่อเตือนให้ผู้ขับขี่ปฏิบัติตามอย่างสัญญาณเตือนให้คาดเข็มขัด สัญญาณเตือนมาตรวัดความร้อนที่บอกให้รู้ว่าเครื่องยนต์กำลังทำงานผิดปกติ หรือรูปถุงลมหน้ารถเพื่อเตือนให้รีบนำรถเข้าศูนย์ไปตรวจสอระบบถุงลม เป็นต้น
การแสดงผลบนหน้าปัดรถยนต์จะมี 2 แบบคือแบบเข็มและแบบดิจิทัล บางรุ่นอาจบอกเป็น % หรือปริมาณน้ำมันในถัง อาจคำนวณด้วยว่าเหลือน้ำมันให้วิ่งไปได้อีกไกลแค่ไหน ซึ่งในรถแต่ละรุ่นมักไม่มีสัญลักษณ์หรือแสงสว่างพิเศษในขณะที่ระดับน้ำมันยังเป็นปกติ
แต่หากเกิดสัญลักษณ์ไฟเตือนหน้าปัดรถยนต์สีแดง หรือสัญลักษณ์ถูกเปลี่ยนเป็นไฟกระพริบ แสดงว่าน้ำมันในถังอยู่ในระดับต่ำเกินมาตรฐานแล้ว ผู้ขับขี่ควรรีบเติมน้ำมันก่อนที่น้ำมันจะหมดจริง ๆ โดยมากสัญญาณนี้จะเตือนเมื่อน้ำมันเหลืออยู่ในถังประมาณ 10-15% ของความจุถังแล้ว โดยมากรถยนต์จะยังสามารถวิ่งต่อได้แม้เกิดสัญญาณเตือนแล้วประมาณ 40-100 กิโลเมตร
สังเกตที่ไฟเตือนหน้าปัดรถยนต์จะเป็นรูปรถยนต์ที่มีประตูเปิดค้างเอาไว้ หรือรถบางรุ่นอาจเป็นสัญลักษณ์ไฟกระพริบ เป็นการเตือนผู้ขับขี่ว่ามีประตูบานใดบานหนึ่งยังไม่ปิดหรือปิดไม่สนิท เจ้าของรถควรตรวจสอบประตูทั้งหมด รวมทั้งประตูกระโปรงหลังว่าปิดสนิทหรือไม่ ก่อนขับเคลื่อนยานยนต์ เพราะหากประตูปิดไม่สนิทก็ส่งผลต่ออันตรายของผู้ที่นั่งอยู่ภายในได้ ยิ่งในกรณีที่ขับขี่ด้วยความเร็วแล้วเกิดเหตุประตูเปิดออกเพราะปิดไม่สนิท ย่อมส่งผลร้ายต่อคนในรถได้ถึงแก่ชีวิต
สัญลักษณ์มักเป็นเครื่องหมายตกใจ ไฟเตือนหน้าปัดรถยนต์นี้จะแสดงขึ้นใน 2 กรณีคือเมื่อดึงเบรกมือค้างเอาไว้ หรือปลดเบรกมือยังไม่สุด เพราะการเปิดเบรกมือทิ้งเอาไว้จะทำให้รถเกิดแรงเสียดสีได้มาก ทั้งยังทำให้เบรกมือเกิดความเสียหายได้ แต่หากเจ้าของรถตรวจสอบจนแน่ใจว่าไฟเตือนที่ขึ้นมานั้นไม่เกี่ยวข้องกับการใช้เบรกมือ อาจต้องตรวจสอบระบบเบรกมือว่าระดับน้ำมันเบรกผิดปกติหรือไม่
แม้ว่าไฟเตือนนี้จะขึ้นเป็นรูป แบตเตอรี่ แต่ก็ไม่ได้ขึ้นเตือนเพื่อบ่งบอกถึงอาการแบตเตอรี่เสื่อม หรือปัญหาจากตัวแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียว โดยสัญลักษณ์บนไฟเตือนหน้าปัดรถยนต์นี้จะแสดงขึ้นมาเมื่อระบบจ่ายไฟในเครื่องยนต์ทำงานผิดปกติ อาจมาจากการทำงานของไดชาร์จผิดปกติ ไม่จ่ายไฟเข้าไปเก็บที่แบตเตอรี่ หรือไม่มีการจ่ายไฟเข้าระบบเครื่องยนต์ เป็นปัญหาที่เจ้าของรถควรเร่งแก้ไขโดยด่วนเพราะสามารถส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์ได้
ABS คือระบบเบรกที่มีชื่อเต็มว่า Anti-lock Brake System คือระบบป้องกันล็อกของล้อในขณะที่เหยียบเบรก เมื่อล้อตายก็จะทำให้รถไถลไปกับพื้นถนนในขณะเบรก จนผู้ขับขี่ไม่สามารถบังคับรถได้ จนนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุที่รุนแรงมากขึ้นได้
หากรถยนต์ขึ้นรถคันนั้นขึ้นไฟเตือนหน้าปัดรถยนต์เป็นตัวอักษร ABS อาจหมายถึงระบบเบรกดังกล่าวมีการทำงานที่ผิดปกติ ผู้ขับขี่ควรนำรถเข้าตรวจสอบกับศูนย์บริการ หรืออู่ที่ให้บริการทันที อย่ารอให้ระบบเบรกไม่ทำงาน เพราะการขึ้นสัญลักษณ์นี้ระบบเบรกจะยังคงทำงานได้อยู่ เพราะส่วนที่ผิดปกติหรือไม่ทำงานคือระบบ ABS เท่านั้น
สัญลักษณ์เตือนบนไฟเตือนหน้าปัดรถยนต์นี้จะมีลักษณะเป็นรูปกรวยน้ำมัน แสดงขึ้นเมื่อระดับน้ำมันเครื่องต่ำเกินมาตรฐาน ผู้ขับขี่ควรรีบตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่อง และควรเติมให้อยู่ในระดับปกติทันที แต่หากตรวจพบว่าระดับน้ำมันเครื่องเป็นปกติ ก็อาจสันนิษฐานได้ว่าสัญลักษณ์นี้แสดงขึ้นมาเมื่อเครื่องปั๊มน้ำมันเครื่องเกิดปัญหา ไม่สามารถสร้างแรงดันเพื่อส่งน้ำมันเครื่องไปหล่อเลี้ยงตามส่วนต่าง ๆ ของเครื่องยนต์ได้
เมื่อเครื่องไม่สามารถตรวจพบน้ำมันเครื่องจึงขึ้นสัญลักษณ์แจ้งเตือนให้ผู้ขับขี่รู้ตัว น้ำมันเครื่องคือส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้เครื่องยนต์ต่าง ๆ ของรถยนต์ทำงานเป็นปกติ ไม่เกิดความร้อนสะสมจนเป็นอันตราย จึงเป็นสัญญาณเตือนที่ห้ามละเลยโดยเด็ดขาด
สัญลักษณ์เตือน โดยส่วนมากจะเป็นลักษณะรูปเทอร์โมมิเตอร์ หรืออาจเป็นรูปหม้อน้ำ หากมีไฟขึ้นในสัญลักษณ์ตัวนี้ หมายถึงความร้อนภายในหรือภายนอก รวมไปถึงความร้อนของเครื่องยนต์ หม้อน้ำ เกิดความร้อนมากเกินไป อาจทำความเสียหายกับเครื่องยนต์ได้ ในบางกรณีหากเกิดอุณหภูมิที่สูงเกินไปอาจทำให้เกิดการรั่วของของเหลวได้ ในกรณีนี้ควรดับเครื่องยนต์ทันที
แต่หากไม่มีอาการผิดปกติ เช่น มีควันหรือไอระเหยออกมาจากใต้ฝากระโปรง หรือการรั่วไหลจากของเหลวใต้ท้องรถ ให้จอดรถใส่เกียร์ว่างไว้ และอย่าเพิ่งดับเครื่องในทันที รอดูอาการก่อนแล้วจึงค่อยดับเครื่อง อย่าฝืนขับต่อ เพราะจะทำให้เกิดความเสียหายตามมาอย่างมากกับตัวเครื่องยนต์
สัญลักษณ์ที่กล่าวมาข้างต้นนั้น เป็นเพียงส่วนหนึ่งของระบบแจ้งเตือนไฟหน้าปัดรถยนต์เท่านั้น อาจยังมีไฟแจ้งเตือนสัญลักษณ์อื่นๆ อาจแล้วแต่รุ่นและยี่ห้อ แต่หลักๆนั้นจะมีสัญลักษณ์ที่เป็นมาตรฐานเช่นที่กล่าวมาทั้งสิ้น ดังนั้นเราควรศึกษาและทำความเข้าใจถึงความหมายของสัญลักษณ์ต่างๆ เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับรถยนต์ และความปลอดภัยต่อทั้งผู้ขับขี่รวมไปถึงผู้ร่วมถนนทุกคน และมั่นตรวจเช็คสภาพรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ
บริเวณหน้าปัดรถยนต์ทุกรุ่นทุกยี่ห้อจะมีสัญลักษณ์ไฟเตือน ซึ่งผู้ขับขี่ทุกคนควรเรียนรู้ว่าไฟเตือนหน้าปัดรถมีความหมาย หรือความสำคัญอย่างไรบ้าง