ค่าใช้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงคงเป็นค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ที่ทุกคนต้องเผชิญในแต่ละเดือน หากเป็นการใช้งานรถยนต์ส่วนตัว ผู้ซื้อรถรุ่นใหม่คงพยายามเลือกรถรุ่นประหยัดน้ำมัน รถไฟฟ้า หรือรถไฮบริด เพื่อลดค่าใช้จ่ายส่วนนี้
แต่สำหรับผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจมีรถหรือธุรกิจขนส่ง คงยากที่จะหลีกเลี่ยง เนื่องจากรถบรรทุก หรือรถที่ใช้ระบบน้ำมันยังตอบโจทย์การใช้งานมากกว่า
อย่างไรก็ตาม รถใช้น้ำมันก็มาพร้อมอัตราการกินน้ำมันที่ไม่น้อย หากเราไม่มีระบบจัดการยานพาหนะ ระบบจัดการน้ำมันที่ดี หรืออุปกรณ์ประหยัดน้ำมันติดรถแล้ว ค่าใช้จ่ายอาจจะยิ่งบานปลายได้
บทความคาร์แทรคตอนนี้จึงจะชวนคุยเรื่องอัตราการกินน้ำมันว่าคืออะไร พร้อมเทคนิคที่ช่วยประหยัดน้ำมันรถได้จริง หรือหากใครอยากได้ตัวช่วยที่เห็นผลอย่างระบบจัดการน้ำมัน เราก็มีแนะนำให้คุณตอนท้าย มาติดตามไปพร้อมกันเลย
บทความตอนนี้ชวนคุยเรื่อง:
อัตราการกินน้ำมัน คืออะไร?
รถแต่ละคันมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่เหมือนกันหรือไม่?
ขับรถยังไงไม่ให้เปลืองเงินในกระเป๋าของคุณ?
ระบบจัดการน้ำมันและเซนเซอร์น้ำมัน CARTRACK เพื่อนรู้ใจของธุรกิจมีรถ
อัตราการกินน้ำมัน คืออะไร?
อัตราการกินน้ำมัน เป็นอัตราที่บอกว่ารถแต่ละคันมีการกินน้ำมัน หรือสิ้นเปลืองน้ำมันไปเท่าไหร่ โดยอัตรานี้สามารถบอกได้ว่ารถคันที่คุณขับจะเปลืองน้ำมันหรือไม่
โดยสามารถคำนวณได้ง่าย ๆ จากสูตร ระยะทางที่รถขับได้ (หน่วยเป็นกิโลเมตร) หารด้วยจำนวนน้ำมันที่ลดลงไป (หน่วยเป็นลิตร)
ตัวอย่างเช่น ระยะทาง 100 กิโลเมตร ปริมาณน้ำมันที่ใช้ 5 ลิตร ฉะนั้นรถของคุณจะมีอัตราการกินน้ำมันหรืออัตราสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 20 กิโลเมตรต่อลิตร นั่นเอง
คุณสามารถดูตัวเลขระยะทาง และปริมาณน้ำมันได้จากแผงหน้าจอด้านหน้าคนขับแล้วนำมาคำนวณได้ แต่ปกติแล้วรถแต่ละคันจะมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันบอกเอาไว้ก่อนที่คุณจะซื้อรถเสมอ
รถแต่ละคันมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่เหมือนกันหรือไม่?
รถแต่ละคันมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่ไม่เหมือนกัน โดยรถที่มีเครื่องยนต์ใหญ่และหนักอย่างรถเทรลเลอร์ รถบรรทุก รถขนส่งที่มีตู้คอนเทนเนอร์ จะมีอัตราที่มากกว่ารถที่มีเครื่องยนต์เล็กและเบา เช่น รถยนต์ รถแท็กซี่
โดยเราสามารถเปรียบอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันของรถอีโคคาร์ที่มีน้อยกว่ารถกระบะหรือรถบรรทุก ซึ่งรถคันใหญ่เหล่านี้มีอัตราการกินน้ำมันที่สูง
ไม่เพียงแค่เครื่องยนต์และขนาดของรถเท่านั้นที่มีผลต่อการกินน้ำมัน แต่ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้รถกินน้ำมันเพิ่มมากขึ้นอีกด้วยนั่นคือการบรรทุกของหนัก รวมถึงการขับรถเร็วเกินอัตราการเร่งปกติของรถแต่ละคัน ล้วนมีส่วนในการทำให้การกินน้ำมันเพิ่มมากขึ้นได้
ขับรถยังไงไม่ให้เปลืองเงินในกระเป๋าของคุณ?
- เช็กสภาพรถทุกอย่างก่อนและหลังใช้งานเสมอ
การเช็กสภาพรถจะทำให้คุณทราบว่ามีส่วนไหนของรถที่ควรได้รับการซ่อมแซม และไม่ต้องมีปัญหารถเสียระหว่างทาง หากคุณพบส่วนของรถที่ต้องได้รับการซ่อมแซมควรรีบซ่อมให้เรียบร้อย เพราะสภาพรถที่ไม่พร้อมต่อการใช้งานจะทำให้เครื่องยนต์เสื่อมเร็ว อีกทั้งยางของล้อรถที่มีลมไม่พอย่อมทำให้เครื่องยนต์ต้องทำงานหนักกว่าปกติ ซึ่งเครื่องยนต์ที่เสื่อม หรือต้องทำงานหนักมีผลต่ออัตราการกินน้ำมันที่เพิ่มขึ้นด้วย
- ใส่ใจเรื่องเครื่องยนต์
ถ้าคุณรู้แล้วถ้าคุณรู้แล้วว่าเครื่องยนต์ที่ทำงานหนักเกินไป หรือเครื่องยนต์ที่เสื่อมสภาพทำให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มขึ้นได้ คุณควรหันมาใส่ใจเรื่องเครื่องยนต์เช่นเดียวกับการใส่ใจความเท่จากภายนอกของรถด้วยเช่นกัน
การใส่ใจเครื่องยนต์ไม่ใช่เรื่องยาก แค่ให้คุณมั่นใจว่าก่อนขับรถ เครื่องยนต์อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ ไม่ต้องมีการซ่อมแซมใด ๆ ในขณะขับรถควรสังเกตความร้อนของเครื่องยนต์ไม่ให้ร้อนจนเกินไป และหลังจอดรถอยู่กับที่แล้วให้มั่นใจว่าเครื่องยนต์ของคุณยังอยู่ในสภาพที่ดีเสมอ- อย่าบรรทุกของหนักเยอะ
ของที่บรรทุกอยู่บนรถเป็นปัจจัยมีผลต่ออัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันอย่างมาก ยิ่งรถที่ต้องบรรทุกของที่มีน้ำหนักมาก ก็ยิ่งทำให้รถกินน้ำมันมากขึ้น หากรถของคุณไม่ต้องบรรทุกของหนัก คุณก็ไม่ต้องกังวลเรื่องเปลืองน้ำมันเลย
สำหรับรถที่ใช้ในธุรกิจขนส่ง อาจปรับเปลี่ยนข้อนี้ได้ยาก แต่หากคุณมีการใช้งานระบบจัดการยานพาหนะ วางแผนการใช้งานรถรวมถึงเส้นทางเดินรถที่ดี ก็จะช่วยลดการตีรถเปล่ากลับ หรือจอดติดในเส้นทางที่การจราจรติดขัดได้ เหมือนมีระบบจัดการน้ำมันไปในตัวเลย
- การเปิดแอร์ที่เย็นจัด
อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้รถกินน้ำมันได้อย่างรวดเร็วจนน่าตกใจคือการเปิดแอร์ที่เย็นจัด หรือเปิดแอร์ไปพร้อม ๆ กับการเปิดกระจกรถให้อากาศที่ร้อนกว่าภายนอกรถเข้ามาภายในรถ ถ้าไม่อยากเปลืองค่าน้ำมันแล้วล่ะก็ ควรเปิดแอร์ให้เย็นพอเหมาะ และบรรทุกของเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
- ไม่ควรเร่งเครื่องขณะที่จอดรถนิ่งอยู่
ขณะที่รถจอดอยู่นิ่งอยู่คุณควรให้รถจอดนิ่งจริง ๆ ไม่ใช่เร่งเครื่องหรือเหยียบคันเร่งเล่น เพราะมันเสมือนการเร่งเครื่องตลอดเวลา และมันทำให้เครื่องยนต์ของคุณร้อนง่ายอีกด้วย ซึ่งการเร่งเครื่องโดยไม่จำเป็นนี่แหละทำให้รถกินน้ำมันมากกว่าเดิมโดยที่คุณไม่รู้ตัว
นอกจากจะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันแล้ว ยังทำให้คุณมีโอกาสเผลอเหยียบคันเร่งโดยลืมใส่เกียร์ว่างหรือเบรกมือ ซึ่งอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
- ออกรถช้า ๆ ไม่ต้องรีบ
วิถีนักแข่งหรือนักซิ่งเป็นวิถีที่ต้องแบกรับเรื่องอัตราการกินน้ำมันของรถที่ขับเป็นอย่างมากเลยทีเดียวล่ะ ถ้าคุณเป็นนักซิ่งที่ชอบออกตัวแรง เราขอบอกเลยว่าการออกตัวรถแบบนั้นมันเป็นการเพิ่มอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันโดยเปล่าประโยชน์
เนื่องจากการออกตัวแรงทำให้เครื่องยนต์ต้องคุณต้องสูบน้ำมันออกมาเป็นจำนวนมากเพื่อให้รถพุ่งตัวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วนั่นเอง รวมถึงในขณะขับรถอยู่ คุณควรใช้ความเร็วที่เสมอตลอดทาง ไม่ควรเบรกโดยไม่จำเป็น เพราะการเบรกบ่อย ๆ เป็นอีกหนึ่งต้นเหตุที่ทำให้เปลืองน้ำมัน
- ติดตั้งเซนเซอร์วัดระดับน้ำมันกับรถที่ใช้งาน
แม้โอกาสจะมีน้อย แต่หลายธุรกิจอาจจะเจอกับปัญหาโดนโกงน้ำมัน หรือมีการทุจริตน้ำมันโดยพนักงานขับรถโดยไม่รู้ตัว ซึ่งอาจมีการใช้ช่องโหว่ว่ารถมีอัตราการกินน้ำมันเยอะ ทำให้น้ำมันรถหมดไว แต่แท้จริงแล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้น
เซนเซอร์วัดระดับน้ำมันเชื้อเพลิงจะทำหน้าที่วัดระดับน้ำมันในถัง มีรายงานให้คุณเห็นปริมาณน้ำมันที่ถูกใช้ไปกับรถแต่ละคันในแต่ละการเดินทาง หากมีความผิดปกติเกิดขึ้น คุณก็จะรู้และตรวจสอบได้ทันที
ระบบจัดการน้ำมันและเซนเซอร์น้ำมัน CARTRACK เพื่อนรู้ใจของธุรกิจมีรถ
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องเจอกับปัญหาค่าน้ำมันที่พุ่งขึ้นทุกวัน แล้วมาปวดหัวทีหลังเพราะขับรถแบบเดิม ๆ ให้คุณลองนำเอาวิธีขับรถแบบประหยัดที่เราแนะนำไปปรับใช้กันดู
แต่สำหรับท่านใดที่สนใจคุณสมบัติของระบบจัดการยานพาหนะ และระบบจัดการน้ำมัน CARTRACK เราให้บริการจำหน่ายและติดตั้งเซนเซอร์น้ำมัน ระบบ GPS รถบรรทุก กล้องติดรถบรรทุก ไปจนถึงเซนเซอร์ประตู เซนเซอร์วัดอุณหภูมิ ให้คุณตรวจสอบข้อมูลการใช้งานรถได้รอบด้านในที่เดียว
หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อเข้ามาที่ CARTRACK ด้วยตนเองที่หมายเลข 02-136-2920 , 02-136-2921 วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30 - 17.30 น.หรือกรอกข้อมูลที่ฟอร์มด้านบน หรือคลิกทดลองใช้ฟรี เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบ GPS ติดตามรถ CARTRACK ติดต่อกลับโดยเร็วที่สุด
สุดท้ายนี้ สำหรับลูกค้าคนพิเศษของเรา รับทันที โปรโมชันติดตั้ง GPS ติดตามรถ จ่าย 10 เดือน ใช้ต่อเนื่อง12 เดือน* (* เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด)
ติดตาม CARTRACK (คาร์แทรค) เพิ่มเติมได้ที่
Facebook: Cartrack Thailand
Instagram: @cartrack.thailand
LINE: https://page.line.me/udi4517q?openQrModal=true หรือเข้าแอปฯ LINE เลือกเพิ่มเพื่อน เลือกค้นหา พิมพ์ @udi4517q ที่ ID และแอดเพื่อคุยสอบถามข้อมูลได้ทันที