BLOGS

CAN Bus คืออะไร? ธุรกิจมีรถจะได้อะไรเมื่อใช้ CAN Bus?

สนใจใช้งาน GPS ติดรถ Cartrack วันนี้ ปรึกษาฟรี!

ฉันเป็น / ...
จำนวนยานพาหนะของคุณ
ขอบคุณค่ะ เจ้าหน้าที่คาร์แทรคจะติดต่อกลับหาคุณโดยเร็วที่สุด
Oops! Something went wrong while submitting the form.

คงจะดีมาก หากรถหรือเครื่องจักรที่ใช้งานของคุณ พูดออกมาได้เองว่า มันต้องการอะไร ต้องการเมื่อไหร่ และต้องการที่ไหน โดยที่ไม่ต้องให้คุณมานั่งตรวจเช็กสภาพรถหรือเครื่องจักรด้วยตัวเอง

หากแต่ว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นได้จริงแล้ว ด้วยการใช้สิ่งที่เรียกว่า CAN Bus ว่าแต่ CAN Bus คืออะไร และมีประโยชน์อย่างไรบ้างกับผู้ใช้งาน โดยเฉพาะผู้ใช้รถเพื่อการทำงานหรือธุรกิจ บทความคาร์แทรคตอนนี้พาไปหาคำตอบพร้อมๆ กัน

บทความตอนนี้ชวนคุยเรื่อง:

  • CAN Bus คืออะไร?
  • CAN Bus ทำงานอย่างไร?
  • โครงสร้างข้อความของโปรโตคอล CAN
  • ประโยชน์ของเครือข่าย CAN Bus คืออะไร?
  • ยานพาหนะประเภทใดที่ใช้ CAN Bus ได้?
  • ทำไมเราถึงควรใช้ CAN Bus กับรถที่ใช้งานอยู่?
  • CAN Bus ติดตามการทำงานของเครื่องยนต์ได้สมบูรณ์แบบ

CAN Bus คืออะไร?

CAN Bus ย่อมาจาก Controller Area Network Bus คือ ตัวเชื่อมเครือข่ายของรถหรือเครื่องจักร ที่อนุญาตให้ส่วนประกอบทั้งหมดในยานพาหนะของคุณ ตั้งแต่เครื่องยนต์จนถึงเบรก เชื่อมต่อและแบ่งปันข้อมูลกันได้อย่างไร้รอยต่อ 

การ 'สื่อสาร' นี้ทำให้ส่วนประกอบต่างๆ ในรถหรือ Electric Control Units (ECUs) เช่น เครื่องยนต์, เกียร์, ระบบที่ปัดน้ำฝน ไปจนถึงเซนเซอร์ต่าง ให้สามารถแบ่งปันข้อมูลกันได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งเป็นการสื่อสารกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

CAN Bus ทำงานอย่างไร?

CAN Bus ทำให้แต่ละ ECU สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้โดยตรง เพื่อให้ทุกอย่างทำงานได้อย่างราบรื่น

การสื่อสารร่วมกันนี้ทำได้ผ่านการเดินสายพิเศษ โดยแต่ละส่วนประกอบจะมีไมโครคอนโทรลเลอร์ หรือคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก ที่จัดการการประมวลผลข้อความขาเข้าและขาออก

กระบวนการสื่อสารของ CAN Bus มีขั้นตอนหลักดังนี้:

1. โปรโตคอลการสื่อสารที่มีเอกภาพ

CAN Bus ทำหน้าที่เหมือนเครื่องแปลภาษา ทำให้ทุกส่วนสามารถเข้าใจและสื่อสารกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้เกิดการสนทนาที่มีความเป็นหนึ่งเดียว

2. การจัดกรอบข้อความ

ข้อมูลจะอยู่ในรูปแบบของ "เฟรม" หรือแพ็กเก็ตข้อมูล แต่ละเฟรมมีรายละเอียด เช่น ตัวตนของผู้ส่ง ลักษณะของข้อความ และข้อมูลที่เป็นเนื้อหา 

หรือเปรียบเทียบได้ว่า เฟรมคือตัวจดหมาย ตัวตนของผู้ส่งคือตราประทับที่อยู่ส่งคืน ลักษณะของข้อความคือหัวเรื่อง และข้อมูลที่เป็นเนื้อหาคือข้อความในจดหมาย

3. ระบบความสำคัญ

บางข้อความมีความเร่งด่วนมากกว่าข้อความอื่น CAN Bus จะจัดลำดับความสำคัญ ให้ข้อความที่สำคัญที่สุดถูกส่งผ่านไปก่อน

4. เครือข่ายการเข้าถึงหลายจุด

CAN Bus ทำให้อุปกรณ์ส่วนต่างๆ สื่อสารพร้อมกันได้ ไม่จำเป็นต้องสื่อสารทีละอย่าง ทำให้ทุกส่วนได้รับข้อมูล และไม่เสียเวลา

5. การจัดการการชนกันของข้อมูล

ด้วยทุกส่วนที่ “พูด” พร้อมกัน บางครั้งข้อความอาจชนกัน หากสิ่งนี้เกิดขึ้น CAN Bus จะทำให้ส่วนประกอบต่างๆ ผลัดกันและส่งข้อมูลอีกครั้ง

เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น มาดู 4 ขั้นตอนข้างต้นในรูปแบบของ CAN Frame:

  • เฟรมข้อมูล – เฟรมเดียวสำหรับการส่งข้อมูลจริง
  • เฟรมข้อผิดพลาด – มีโหนด (node) ตรวจจับข้อผิดพลาด
  • เฟรมโอเวอร์โหลด – ทำงานเมื่อมีการหน่วงเวลาระหว่างเฟรมข้อมูลและเฟรมระยะไกล
  • เฟรมระยะไกล – เฟรมที่ร้องขอข้อมูลจากตัวระบุเฉพาะ

can bus คืออะไร

ทำความรู้จักโครงสร้างข้อความของโปรโตคอล CAN

มาดูว่าระบบ CAN Bus สื่อสารอะไรกันบ้างและโครงสร้างเฉพาะของการสื่อสารของพวกเขาเป็นอย่างไร

ในระบบ CAN Bus การจัดโครงสร้างของข้อความมีบทบาทสำคัญในการทำให้การสื่อสารระหว่างอุปกรณ์มีประสิทธิภาพ โปรโตคอลนี้ใช้รูปแบบเฟรมข้อมูลที่มีหลายฟิลด์ เช่น ตัวระบุ ฟิลด์ควบคุม ฟิลด์ข้อมูล และกลไกการตรวจจับข้อผิดพลาด

ตัวระบุ: ข้อความแต่ละข้อความมีความสำคัญเพียงใดในเครือข่าย มีความสำคัญถึง 2048 ระดับ และแต่ละข้อความจะได้รับป้ายบอกความสำคัญที่ไม่ซ้ำกัน

ฟิลด์ข้อมูล: นี่คือที่ที่ข้อมูลจริงถูกส่งผ่าน เคลื่อนย้ายระหว่างโหนดในขนาดย่อแบบเข้าใจง่าย

การตรวจสอบความซ้ำซ้อนแบบเป็นกิจวัตร: ทำหน้าที่เป็นตัวตรวจจับข้อผิดพลาดภายในตัว เพื่อให้การสื่อสารมีความน่าเชื่อถือ โดยการตรวจหาข้อผิดพลาดในการส่งและขอให้ส่งใหม่หากจำเป็น

ช่องการรับทราบ: บิตเดียวที่รับโหนด เพื่อยืนยันว่าพวกเขาได้รับข้อความเรียบร้อยแล้วหรือชี้ให้เห็นข้อผิดพลาดที่ต้องการให้ส่งใหม่

เฟรมข้อผิดพลาด: วิธีส่งข้อความ CAN อีกวิธีหนึ่ง ที่ช่วยให้โหนดส่งสัญญาณ หากพบปัญหาเกี่ยวกับข้อความของตนเอง หรือข้อความที่ได้รับจากอุปกรณ์อื่นในเครือข่าย

ปัจจุบันยังมี CAN FD ที่ใช้ส่งและประมวลผลข้อมูลจากเซนเซอร์ สำหรับระบบควบคุมความเร็วแบบปรับตัวอัตโนมัติหรือระบบจอดรถอัตโนมัติด้วย

ประโยชน์หลักที่โดดเด่นของเทคโนโลยีนี้ คือ การส่งข้อมูลปริมาณมากได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อเทียบกับ CAN แบบดั้งเดิม เหมาะสมกับยานพาหนะสมัยใหม่ที่มีระบบอิเล็กทรอนิกส์ซับซ้อนหรือมีคุณสมบัติด้านความปลอดภัยขั้นสูง

ทั้งนี้ทั้งนั้น การเลือกประเภท CAN เพื่อใช้งาน ขึ้นอยู่กับความต้องการเฉพาะของแต่ละแอปพลิเคชัน เพื่อให้มั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือสูงสุดในทั้งบริบทของยานพาหนะและอุตสาหกรรม

ประโยชน์ของเครือข่าย CAN Bus คืออะไร?

ประโยชน์ที่ทำให้ผู้ใช้ยานพาหนะใช้ CAN Bus ได้แก่

1. การเข้าถึงง่าย

CAN Bus ให้การ “เข้าถึง” เพื่อสื่อสารกับ ECU ทำให้การวินิจฉัยส่วนกลาง การบันทึกข้อมูล และการกำหนดค่าทำได้ง่ายขึ้น

2. การเดินสายที่ง่ายขึ้น

CAN Bus แทนที่การเดินสายแบบจุดต่อจุดที่ซับซ้อนด้วยสายเคเบิลบิดคู่เดียว สิ่งนี้ช่วยประหยัดพื้นที่และน้ำหนัก และง่ายต่อการบำรุงรักษา ทำให้ยานพาหนะเบาลงและประกอบได้ง่ายขึ้น

3. ความน่าเชื่อถือที่เพิ่มขึ้น 

CAN Bus ถูกสร้างขึ้นให้มีความแข็งแรง ตรวจจับและแก้ไขข้อผิดพลาด ทำให้แน่ใจว่าข้อความถึงปลายทางได้อย่างถูกต้อง มีปัญหาทางไฟฟ้าที่น้อยลงและประสิทธิภาพที่เชื่อถือได้มากขึ้น

4. ความสามารถในการขยายตัวและความปรับตัว 

การเพิ่มคุณสมบัติใหม่กลายเป็นเรื่องง่ายด้วย CAN Bus โหนดสามารถเชื่อมต่อหรือถอดออกได้โดยไม่ต้องเดินสายใหม่ครั้งใหญ่ เหมาะกับการผสมผสานเทคโนโลยีใหม่และการปรับตัวให้เข้ากับการพัฒนาในอนาคต

5. ความคุ้มค่า

การใช้สายไฟที่น้อยลง การออกแบบที่ง่ายขึ้น และการประกอบที่ง่าย แปลว่า การใช้ต้นทุนการผลิตที่ลดลง นอกจากนี้ ระบบยังลดความเสี่ยงการขาดโอกาสการใช้งาน และลดค่าซ่อมแซมยานพาหนะให้น้อยลง ซึ่งเป็นประโยชน์ทั้งผู้ผลิตและเจ้าของรถ

6. การแบ่งปันข้อมูลที่ดีขึ้น

CAN Bus ช่วยให้การสื่อสารระหว่างระบบต่างๆ ในรถมีประสิทธิภาพ เช่น พารามิเตอร์ของเครื่องยนต์ การอ่านค่าจากเซนเซอร์ และคำสั่งควบคุมไหลเวียนอย่างอิสระ หรือแม้แต่การบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์

7. ความปลอดภัย

การสื่อสารที่รวดเร็วและเชื่อถือได้ของ CAN Bus ช่วยได้หลายประการ เช่น ถุงลมนิรภัยทำงานได้เร็วขึ้นตามข้อมูลการเบรกแบบเรียลไทม์ และระบบควบคุมเสถียรภาพสามารถตอบสนองได้ทันทีเพื่อป้องกันการลื่นไถล

8. การใช้พลังงานน้อยลง 

การสื่อสารที่เป็นระเบียบและการแบ่งปันข้อมูลที่มีประสิทธิภาพของ CAN Bus ช่วยลดการใช้พลังงาน ทำให้มีประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงที่ดีขึ้นและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

นอกเหนือจากนี้ ข้อดีของ CAN Bus ยังขยายไปไกลกว่ารถหรือยานพาหนะที่ใช้บนภาคพื้นดิน แต่ใช้งานในหลายๆ ด้านได้ด้วย เช่น การบิน อุปกรณ์ทางการแพทย์ ระบบอัตโนมัติในอุตสาหกรรม และแม้แต่ระบบการจัดการอาคาร ก็สามารถใช้ CAN Bus ได้

ยานพาหนะประเภทใดที่ใช้ CAN Bus ได้?

CAN Bus ไม่ได้ใช้ได้เฉพาะในรถยนต์เท่านั้น แต่ยังสามารถใช้ CAN Bus ในรถบรรทุก รถโดยสาร เรือ แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า เครื่องจักร และอื่นๆ อีกมากมาย

คุณจะทราบได้อย่างไรว่า รถของคุณมี CAN Bus หรือไม่? มีวิธีตรวจสอบดังนี้

1. ตรวจสอบคู่มือเจ้าของรถหรือเว็บไซต์ของผู้ผลิต: โดยปกติจะมีข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีและคุณสมบัติของรุ่นยานพาหนะของคุณ

2. ตรวจสอบตัวเชื่อมต่อ OBD II: หากรถของคุณมีพอร์ตนี้ ก็เป็นไปได้มากว่ามันรองรับโปรโตคอล CAN (J1979) 

รถส่วนใหญ่ที่ผลิตหลังปี 2008 มีพอร์ตนี้ โดยปกติจะอยู่ใต้แผงหน้าปัดใกล้กับที่นั่งคนขับ หากรถของคุณมีพอร์ตนี้ ก็เป็นไปได้ว่ามันมีเทคโนโลยี CAN Bus

can bus รถยนต์ รถบรรทุก

ทำไมเราถึงควรใช้ CAN Bus กับรถที่ใช้งานอยู่?

CAN Bus เป็นระบบจัดการงานหลายอย่างพร้อมกัน ที่ทนทานและมีโปรโตคอลที่ทนต่อข้อผิดพลาด ซึ่งช่วยให้ซอฟต์แวร์ตอบสนองต่อความต้องการของการใช้งานยานยนต์ได้อย่างแม่นยำ

นอกจากนี้ CAN Bus ยังมีความเรียบง่าย ความคุ้มค่า ความน่าเชื่อถือ และความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่รุนแรง ส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงานของยานพาหนะ ความปลอดภัย และการจัดการโดยรวมของยานพาหนะได้เป็นอย่างดี

ขณะที่เหตุผลด้านการใช้งานที่ชัดเจนของ CAN Bus มีดังต่อไปนี้ 

1. ตรวจสอบยานพาหนะแบบเรียลไทม์ได้

CAN Bus ช่วยสื่อสารแบบเรียลไทม์ระหว่างส่วนประกอบต่างๆ ของรถยนต์ เข้าถึงข้อมูลสำคัญ เช่น ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ การใช้เชื้อเพลิง และการวินิจฉัย

การมองเห็นฟลีทรถที่เพิ่มขึ้น สามารถตรวจสอบสถานะของรถ พฤติกรรมของผู้ขับขี่ และพารามิเตอร์การทำงานแบบเรียลไทม์ ทำให้สามารถตัดสินใจเชิงรุกและตอบสนองต่อปัญหาได้ทันที

2. วินิจฉัยสภาพยานพาหนะตามจริงได้อย่างครอบคลุม

การตรวจพบปัญหาล่วงหน้า CAN Bus ช่วยให้การวินิจฉัยอย่างต่อเนื่อง ทำให้สามารถตรวจพบปัญหาทางกลไกหรือไฟฟ้าในรถหรือเครื่องจักรได้ล่วงหน้า

การบำรุงรักษาเชิงรุก คุณสามารถกำหนดตารางการบำรุงรักษาเชิงป้องกันตามสภาพจริงของรถหรือเครื่องจักร ลดความเสี่ยงของการเกิดปัญหาที่ไม่คาดคิดและลดเวลาหยุดทำงาน

3. ติดตามการใช้เชื้อเพลิงและการปล่อยมลพิษได้

ข้อมูลจาก CAN Bus ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับรูปแบบการใช้เชื้อเพลิง จัดการเชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้คุณสามารถระบุจุดที่สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงได้

การตรวจสอบข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการปล่อยมลพิษช่วยให้มั่นใจได้ว่ารถหรือเครื่องจักรเป็นไปตามข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมเป้าหมายด้านความยั่งยืนในองค์กรหรือตามกฎหมายสิ่งแวดล้อม

4. วิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ขับขี่ได้

CAN Bus มีข้อมูลเกี่ยวกับการเร่งความเร็ว การเบรก และความเร็ว ทำให้คุณสามารถประเมินและแก้ไขพฤติกรรมการขับขี่ที่เสี่ยงได้

โดยการวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ขับขี่ คุณสามารถสร้างโปรแกรมการฝึกอบรมที่เหมาะสมตรงตามเป้าหมายมาใช้เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุ

5. ประหยัดต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การบำรุงรักษาเชิงพยากรณ์ CAN Bus ลดโอกาสในการซ่อมแซมใหญ่ๆ ประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม

นอกจากนี้ยังปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิง ด้วยการปรับปรุงเส้นทางและการแก้ไขพฤติกรรมการขับขี่ที่ไม่ประหยัดเชื้อเพลิงสามารถนำไปสู่การประหยัดค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิงอย่างมาก

6. เพิ่มประสิทธิภาพของยานพาหนะ

การวางแผนเส้นทางและการขนส่ง CAN Bus ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการวางแผนเส้นทางและการขนส่ง เพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมของยานพาหนะ

การติดตามทรัพย์สิน คุณสามารถติดตามตำแหน่งและสถานะของรถหรือเครื่องจักร เพิ่มระดับการติดตามอย่างใกล้ชิดและความปลอดภัยของทรัพย์สิน

7. ความปลอดภัยและความถูกต้องของข้อมูล

โปรโตคอล CAN Bus ออกแบบให้สื่อสารอย่างปลอดภัย จึงมั่นใจได้ถึงความสมบูรณ์และความลับของข้อมูล

นอกจากนี้ CAN Bus  ยังให้ข้อมูลที่เชื่อถือได้ ทั้งเรื่องการปฏิบัติตามข้อกำหนดกฎหมาย การตรวจสอบ และการประเมินผลประสิทธิภาพ

CAN Bus ติดตามการทำงานของเครื่องยนต์ได้สมบูรณ์แบบด้วย Cartrack

Cartrack ให้บริการระบบจัดการยานพาหนะและเทเลเมติกส์ชั้นนำ ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงที่สามารถดึงความสามารถขั้นสูงของ CAN Bus เพื่อเสริมศักยภาพให้ยานพาหนะใช้งานในธุรกิจได้หลายสาขา

บางปัญหายานพาหนะที่ CAN Bus สามารถช่วยธุรกิจคุณหลีกเลี่ยงได้ เช่น:

เข้าถึงข้อมูลยานพาหนะได้ไม่ครบถ้วน: ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของการไม่มีระบบ CAN Bus ในยานพาหนะ คือ ยานพาหนะถูกจำกัดความสามารถในการส่งข้อมูลระหว่างระบบและอุปกรณ์ต่างๆ อย่างแม่นยำ 

Cartrack สามารถผสานรวมกับเทคโนโลยี CAN Bus ได้อย่างรวดเร็ว นำข้อมูลรถยนต์แบบเรียลไทม์มาให้คุณ ทีมงานและบริษัท และสามารถบันทึกข้อมูล CAN ไปยังระบบคลาวด์ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อการเข้าถึงที่ง่ายดาย

การขับขี่ไม่ปลอดภัย: CAN Bus ช่วยให้ธุรกิจตรวจสอบพฤติกรรมการขับขี่ได้ เช่น การขับเร็วเกินกำหนด การเบรกอย่างรุนแรง และการขับขี่ที่ผิดปกติ 

ข้อมูลจะถูกติดตามและแสดงอย่างแม่นยำบนแดชบอร์ด เช่น ความเร็วของรถ มาตรวัดระยะทาง รอบเครื่องยนต์ ฯลฯ ที่สามารถดาวน์โหลดได้แบบเรียลไทม์เพื่อการวิเคราะห์ ธุรกิจสามารถลดความเสี่ยงของอุบัติเหตุและรับประกันความปลอดภัยของพนักงานและทรัพย์สินได้

เชื่อมต่อยานพาหนะและข้อมูลไม่สม่ำเสมอ: เทคโนโลยีของ Cartrack ยังทำงานได้ในพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณ GPS เช่น การขับผ่านอุโมงค์และที่จอดรถใต้ดิน จนธุรกิจสามารถใช้งานได้อย่างสบายใจในพื้นที่ที่ห่างไกล

หรือแม้แต่การตรวจสอบสินค้าที่ต้องการควบคุมเรื่องบางอย่างเป็นพิเศษ เช่น ควบคุมอุณหภูมิ การหมุนรอบของเครื่องยนต์ หรือการรับรองการปฏิบัติตามข้อกำหนด Cartrack จัดการการใช้งาน CAN Bus ได้อย่างสมบูรณ์แบบและหลากหลาย

เปิดศักยภาพ CAN Bus ของยานพาหนะคุณได้เต็มที่ด้วย Cartrack

CAN Bus มอบประโยชน์หลายอย่างให้กับยานพาหนะและเจ้าของหรือผู้ใช้งาน โดยเทคโนโลยีของ Cartrack สามารถมอบประสบการณ์การใช้งาน CAN Bus ที่ดีที่สุดให้กับคุณได้

หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องระบบ และขอรับปรึกษาเจ้าหน้าที่ฟรี 10 นาที โทรได้ที่เบอร์ 021362920, 021362921 ในวันจันทร์-ศุกร์ เวลาทำการ

หรือคลิกทักไลน์ที่นี่เพื่อแจ้งชื่อ จำนวนรถที่ต้องการติดตั้ง และหมายเลขติดต่อกลับ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบติดต่อกลับโดยเร็วที่สุด

หากรถหรือเครื่องจักร พูดได้ว่ามันต้องการอะไร เมื่อไหร่ และที่ไหน โดยไม่ต้องเช็กเอง สิ่งนี้ทำได้ด้วย CAN Bus ระบบนี้มีประโยชน์อย่างไรกับผู้ใช้ที่เป็นธุรกิจ