รถใช้งานในธุรกิจในแต่ละวัน เจ้าของธุรกิจหรือผู้จัดการรู้หรือไม่ว่า รถแต่ละคันใช้น้ำมันไปเท่าไหร่ แบบตัวเลขชัดเจน? ธุรกิจจำเป็นต้องรู้ข้อมูลนี้ เพราะการใช้น้ำมันเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งถ้าคุณไม่รู้ คุณสามารถใช้ “ระบบจัดการน้ำมัน” ช่วยติดตามข้อมูลนี้ให้คุณได้
มารู้จัก ระบบจัดการน้ำมันดีเซล ว่าทำงานอย่างไร มีส่วนประกอบอะไรบ้าง และที่สำคัญคือมีประโยชน์อย่างไร คุ้มค่าแค่ไหนที่ธุรกิจต้องลงทุนด้วย
การจัดการน้ำมันดีเซล คือ การดูแลและควบคุมการใช้น้ำมันดีเซลของรถแต่ละคัน โดยน้ำมันดีเซล เป็นประเภทน้ำมันเชื้อเพลิงที่ถูกใช้มากที่สุดในภาคธุรกิจและงานเชิงอุตสาหกรรม
ความแตกต่างในแง่ลักษณะของน้ำมันดีเซลเทียบกับเบนซินคือ น้ำมันดีเซลจะมีมวลหนาแน่นกว่าน้ำมันเบนซิน ระเหยช้ากว่าเบนซิน และมีพลังขับเคลื่อนเครื่องยนต์ได้มากกว่าเบนซินถึง 20% จึงเป็นสาเหตุสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้น้ำมันดีเซลถูกวางให้ใช้กับรถบรรทุกหรือรถใช้งานมากกว่า
การจัดการน้ำมันดีเซล ที่สมบูรณ์ครบถ้วน ประกอบด้วยการวางแผนกลยุทธ์ต่างๆ และการลงมือปฏิบัติ นี่คือ 5 เหตุผลถึงความสำคัญของการจัดการน้ำมันดีเซล
ทั้งนี้ในปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่สามารถจัดการน้ำมันได้อย่างอัตโนมัติแล้ว เรียกว่า ระบบจัดการน้ำมัน (Fuel Management System) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ธุรกิจขนส่ง โลจิสติกส์ หรือธุรกิจมีรถใช้งานทั่วไปนิยมใช้กัน
ระบบจัดการน้ำมัน คือ ชุดเทคโนโลยี ขั้นตอน และเครื่องมือ ที่ออกแบบมาเพื่อจัดการและปรับปรุงการใช้น้ำมันและต้นทุนค่าใช้จ่ายของยานพาหนะ
ระบบฯ จะช่วยให้ธุรกิจมีข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการใช้น้ำมัน ปรับปรุงการใช้น้ำมันได้อย่างถูกจุด และลดต้นทุนค่าใช้จ่ายได้อย่างยั่งยืน
ระบบฯ นี้ยังถูกใช้เพื่อจัดการต้นทุนค่าน้ำมัน ควบคุมค่าใช้จ่ายโดยรวม วางแผนซ่อมบำรุงยานพาหนะ และพัฒนาการดำเนินงานของธุรกิจโดยรวมทั้งหมด
ระบบจัดการน้ำมัน ทำงานหลักๆ อยู่ 3 ขั้นตอน คือ เก็บ - วิเคราะห์ - แผนปฏิบัติ มาเริ่มดูกันทีละขั้นตอน
ติดตามความเคลื่อนไหวของน้ำมันตลอดเวลาและอัตโนมัติ ด้วยเทคโนโลยีเทเลเมติกส์ พร้อมทั้งระบบแจ้งเตือนเมื่อพบความเคลื่อนไหวที่ต้องติดตามเร่งด่วน เช่น น้ำมันลดลงอย่างรวดเร็ว ที่ส่อเค้าการขโมยน้ำมัน
การติดตามยังสามารถติดตามเฉพาะเจาะจงที่คนขับหรือที่ยานพาหนะ หรือทั้งสองแบบ ติดตามได้รายคนและรายคัน ช่วยให้ธุรกิจได้ข้อมูลที่ชัดเจนและเจาะจงที่สุด
นอกจากระบบจัดการน้ำมัน Cartrack ยังมีระบบติดตามพฤติกรรมคนขับรถ ที่ช่วยให้เข้าใจลักษณะการขับขี่ของคนขับแต่ละคน มีระบบให้คะแนนการขับขี่ ที่นำไปใช้ประเมินผลเพื่อปรับปรุงการขับขี่ได้อย่างถูกจุดด้วย
ซึ่งปัญหาของคนขับรถที่มักพบได้คือ จอดแช่ติดเครื่องอย่างไม่จำเป็น ขับซิ่ง ขับรถออกนอกเส้นทางแบบไม่ตั้งใจ (เช่น ไม่รู้เส้นทาง) หรือขับรถออกนอกเส้นทางแบบตั้งใจ (เช่น ขับไปทำธุระส่วนตัว) ซึ่งเรื่องเหล่านี้กระทบกับสภาพยานพาหนะและการใช้ยานพาหนะทั้งสิ้น
การดูแลยานพาหนะก็เป็นเรื่องสำคัญที่ Cartrack ใส่ใจ ด้วยการพัฒนาระบบบำรุงรักษายานพาหนะ ที่ติดตามสภาพยานพาหนะแบบเรียลไทม์และตลอดเวลา
ระบบจะแจ้งเตือนการบำรุงรักษาที่เหมาะสมที่สุดกับยานพาหนะ คือวิเคราะห์จากสภาพเครื่องยนต์ของยานพาหนะ ไม่ใช่ดูจากระยะเวลา ซึ่งไม่แม่นยำและอาจพลาดหากเครื่องยนต์เสียหายกะทันหัน ซึ่งอยู่นอกเหนือจากเงื่อนไขการติดตามโดยดูจากช่วงเวลา
และระบบปรับปรุงเส้นทางการขับขี่อัตโนมัติ ที่ Cartrack ทำเป็นระบบอัตโนมัติ ที่ธุรกิจสามารถกรอกข้อมูลจุดหมายปลายทางที่ต้องการไปในแต่ละวัน กี่จุด กี่เที่ยวก็ได้ และคลิกเดียว ระบบจะเรียงลำดับเส้นทางให้อัตโนมัติ ซึ่งเป็นเส้นทางที่ใช้ระยะทางหรือเวลาน้อยที่สุด
นอกจากนี้ยังสามารถกำหนดคนขับ ให้คนขับใส่รายละเอียดการขนส่งสินค้าเข้าสู่ระบบได้ทันที เป็นระบบที่เหมาะกับธุรกิจขนส่งที่ต้องส่งของให้ลูกค้าตามพื้นที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าประจำหรือลูกค้าใหม่ๆ ระบบนี้ก็รองรับ และสามารถเก็บหลักฐานการขนส่งได้ในระบบเดียวด้วย
หากธุรกิจสงสัยหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพื่อพิจารณาว่า ระบบ Cartrack เหมาะสมกับรถใช้งานในธุรกิจของคุณหรือไม่ โทรสอบถามได้ในวันจันทร์-ศุกร์ที่เบอร์ 021362920 , 021362921 ในเวลาทำการ
หรือคลิกทักไลน์ที่นี่เพื่อแจ้งชื่อ จำนวนรถที่ต้องการติดตั้ง และหมายเลขติดต่อกลับ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบติดต่อกลับโดยเร็วที่สุด
รถใช้งานในธุรกิจในแต่ละวัน ธุรกิจหรือผู้จัดการรู้หรือไม่ว่า รถแต่ละคันใช้น้ำมันไปเท่าไหร่ แบบเป็นตัวเลขชัดเจน? ถ้าคุณไม่รู้ “ระบบจัดการน้ำมัน” บอกคุณได้