BLOGS

ทำไมธุรกิจมีรถถึงควรมี “ระบบจัดการน้ำมันดีเซล” โดยเฉพาะ?

คุณต้องการให้ คาร์แทรค ช่วยเหลือเรื่องอะไร?

ฉันเป็น / ...
จำนวนยานพาหนะของคุณ
ขอบคุณค่ะ เจ้าหน้าที่คาร์แทรคจะติดต่อกลับหาคุณโดยเร็วที่สุด
Oops! Something went wrong while submitting the form.

รถใช้งานในธุรกิจในแต่ละวัน เจ้าของธุรกิจหรือผู้จัดการรู้หรือไม่ว่า รถแต่ละคันใช้น้ำมันไปเท่าไหร่ แบบตัวเลขชัดเจน? ธุรกิจจำเป็นต้องรู้ข้อมูลนี้ เพราะการใช้น้ำมันเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งถ้าคุณไม่รู้ คุณสามารถใช้ “ระบบจัดการน้ำมัน” ช่วยติดตามข้อมูลนี้ให้คุณได้

มารู้จัก ระบบจัดการน้ำมันดีเซล ว่าทำงานอย่างไร มีส่วนประกอบอะไรบ้าง และที่สำคัญคือมีประโยชน์อย่างไร คุ้มค่าแค่ไหนที่ธุรกิจต้องลงทุนด้วย

การจัดการน้ำมันดีเซล คืออะไร?

การจัดการน้ำมันดีเซล คือ การดูแลและควบคุมการใช้น้ำมันดีเซลของรถแต่ละคัน โดยน้ำมันดีเซล เป็นประเภทน้ำมันเชื้อเพลิงที่ถูกใช้มากที่สุดในภาคธุรกิจและงานเชิงอุตสาหกรรม

ความแตกต่างในแง่ลักษณะของน้ำมันดีเซลเทียบกับเบนซินคือ น้ำมันดีเซลจะมีมวลหนาแน่นกว่าน้ำมันเบนซิน ระเหยช้ากว่าเบนซิน และมีพลังขับเคลื่อนเครื่องยนต์ได้มากกว่าเบนซินถึง 20% จึงเป็นสาเหตุสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้น้ำมันดีเซลถูกวางให้ใช้กับรถบรรทุกหรือรถใช้งานมากกว่า

ตัวอย่างงานการจัดการน้ำมัน มีอะไรบ้าง?

  • ติดตามระดับน้ำมัน ช่วยให้ธุรกิจพบจุดรั่วไหลของน้ำมัน เช่น ถังน้ำมันรั่ว หรือการถูกขโมยน้ำมัน ได้ง่ายมากขึ้น
  • ควบคุมประสิทธิภาพการใช้น้ำมัน เช่น ลดพฤติกรรมการขับขี่ที่สิ้นเปลืองน้ำมัน บำรุงรักษารถและเครื่องยนต์อย่างเหมาะสม ปรับเส้นทางการขับขี่ให้ประหยัดการใช้น้ำมัน ฯลฯ
  • วิเคราะห์ข้อมูลการใช้รถและจัดทำรายงาน การจัดการน้ำมันจะต้องรวบรวมข้อมูลการใช้น้ำมันอย่างครบถ้วน ก่อนจะวิเคราะห์และสรุปเป็นรายงาน ซึ่งข้อมูลที่ครบถ้วนเหล่านี้จะช่วยให้ธุรกิจหรือผู้ดูแลรถสามารถตัดสินใจงานใช้รถหรือขนส่งได้อย่างถูกต้อง โดยอ้างอิงจากข้อมูลจริงๆ

ทำไมการจัดการน้ำมันดีเซลถึงสำคัญ?

การจัดการน้ำมันดีเซล ที่สมบูรณ์ครบถ้วน ประกอบด้วยการวางแผนกลยุทธ์ต่างๆ และการลงมือปฏิบัติ นี่คือ 5 เหตุผลถึงความสำคัญของการจัดการน้ำมันดีเซล

  • การจัดการน้ำมันช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่าย
  • การจัดการน้ำมันช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพและความคุ้มค่าของการใช้รถ
  • การจัดการน้ำมันช่วยให้งานบำรุงรักษาเครื่องยนต์ดีขึ้น
  • การจัดการน้ำมันช่วยบันทึกข้อมูลการใช้งานรถและน้ำมันตลอดเวลาและทันที (Real-time)
  • การจัดการน้ำมันช่วยพัฒนาพฤติกรรมการขับขี่ได้ดีขึ้น

ทั้งนี้ในปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่สามารถจัดการน้ำมันได้อย่างอัตโนมัติแล้ว เรียกว่า ระบบจัดการน้ำมัน (Fuel Management System) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ธุรกิจขนส่ง โลจิสติกส์ หรือธุรกิจมีรถใช้งานทั่วไปนิยมใช้กัน

ระบบจัดการน้ำมัน คืออะไร?

ระบบจัดการน้ำมัน คือ ชุดเทคโนโลยี ขั้นตอน และเครื่องมือ ที่ออกแบบมาเพื่อจัดการและปรับปรุงการใช้น้ำมันและต้นทุนค่าใช้จ่ายของยานพาหนะ

ระบบฯ จะช่วยให้ธุรกิจมีข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการใช้น้ำมัน ปรับปรุงการใช้น้ำมันได้อย่างถูกจุด และลดต้นทุนค่าใช้จ่ายได้อย่างยั่งยืน

ระบบฯ นี้ยังถูกใช้เพื่อจัดการต้นทุนค่าน้ำมัน ควบคุมค่าใช้จ่ายโดยรวม วางแผนซ่อมบำรุงยานพาหนะ และพัฒนาการดำเนินงานของธุรกิจโดยรวมทั้งหมด

องค์ประกอบหลักของระบบจัดการน้ำมัน มีอะไรบ้าง?

อุปกรณ์ (Hardware)

  • เซนเซอร์ติดตามน้ำมัน ใช้วัดระดับน้ำมันในถังน้ำมัน และการใช้งาน
  • อุปกรณ์ติดตามพิกัดจีพีเอส
  • การเชื่อมต่อ CANBus ใช้ดาวน์โหลดข้อมูลยานพาหนะแบบ Real-time เช่น มาตรวัดระยะทาง วัดของเหลว วัดน้ำมัน ฯลฯ

ระบบ (Software)

  • ระบบจัดการข้อมูล ซึ่งรวบรวมจากเซนเซอร์และอุปกรณ์ติดตามต่างๆ
  • แอปพลิเคชันจัดการน้ำมัน

ระบบจัดการน้ำมันทำงานอย่างไร?

ระบบจัดการน้ำมัน ทำงานหลักๆ อยู่ 3 ขั้นตอน คือ เก็บ - วิเคราะห์ - แผนปฏิบัติ มาเริ่มดูกันทีละขั้นตอน

  1. เก็บ คือ การเก็บข้อมูลความเคลื่อนไหวของน้ำมันและเครื่องยนต์ ได้แก่ ระดับน้ำมัน การใช้น้ำมัน สมรรถนะเครื่องยนต์ ฯลฯ ข้อมูลเหล่านี้ถูกส่งจากอุปกรณ์ไปยังระบบจัดการข้อมูลส่วนกลางผ่านสัญญาณไร้สาย
  2. วิเคราะห์ คือ การที่ระบบจะวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้ เพื่อดูแนวโน้มหรือรูปแบบการใช้น้ำมัน (สำหรับรถใช้ในธุรกิจส่วนใหญ่คือ น้ำมันดีเซล) คำนวนความคุ้มค่าการใช้น้ำมัน จุดบกพร่องเพื่อดูว่าจะแก้ไขอะไรได้บ้างหรือต้องทำอย่างไรต่อไป
  3. แผนปฏิบัติ คือ การนำข้อมูลวิเคราะห์ที่ได้ มาสร้างแผนการทำงานต่อไป เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้รถหรือเครื่องจักร และการใช้น้ำมัน แผนการทำงานก็เช่น การปรับปรุงเส้นทาง การลดเวลาจอดแช่ การบำรุงรักษารถเชิงป้องกัน

ประโยชน์ของการใช้ระบบจัดการน้ำมัน สำหรับรถใช้น้ำมันดีเซล มีอะไรบ้าง?

  • ลดต้นทุนค่าน้ำมัน เนื่องจากระบบจัดการน้ำมันจะแสดงข้อมูลการใช้น้ำมัน ที่มีแนวโน้มและรูปแบบของน้ำมัน ช่วยให้เห็นจุดบกพร่องในการใช้งาน ทำให้ปรับปรุงแก้ไขได้เร็ว และลดค่าน้ำมันได้ 20-40% ตั้งแต่เดือนแรกๆ ที่ใช้งาน
  • ให้ข้อมูลการใช้น้ำมันที่แม่นยำมากขึ้น จากเดิมที่การติดตามการใช้น้ำมันมักวัดจากการเติมน้ำมันเข้ามาใหม่ ทุกๆ สัปดาห์ ทุกๆ 5 วัน หรือทุกๆ วัน ซึ่งเป็นการวัดแบบหลวมๆ ไม่มีประสิทธิภาพและไม่สามารถควบคุมการใช้น้ำมันได้
    ระบบจัดการน้ำมันจะบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับน้ำมัน ด้วยระบบเทเลเมติกส์ ซึ่งเก็บข้อมูลระดับน้ำมัน การใช้น้ำมัน ได้อย่างชัดเจน อัตโนมัติ และตลอดเวลาด้วย
  • ลดเหตุขโมยน้ำมัน การขโมยน้ำมันหรือการทุจริตน้ำมัน สามารถเกิดขึ้นได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการใช้บัตรเติมน้ำมันเติมรถส่วนตัว การสกิมบัตรเติมน้ำมันไว้ใช้รูดเองอีกใบ การคิดเงินเกินจากค่าน้ำมันจริง การดูดน้ำมันออกจากถัง ฯลฯ
    แต่เหตุการณ์แบบนี้จะลดลงได้หากใช้ระบบจัดการน้ำมัน เนื่องจากระบบจัดการน้ำมันจะติดตามและบันทึกข้อมูลความเคลื่อนไหวของน้ำมันตลอดเวลาและอย่างละเอียด จนปิดช่องทางการโกงได้ครบทุกความเสี่ยง
  • ตัดสินใจงานธุรกิจด้วยข้อมูลข้อเท็จจริงได้มากขึ้น เช่น ข้อมูลการใช้น้ำมัน ต้นทุน ความคุ้มค่า แนวโน้มเกี่ยวกับน้ำมัน เมื่อรวบรวมรายงานเหล่านี้ในช่วงเวลาต่างๆ ยังสามารถพยากรณ์แนวโน้มการใช้งานหรือสภาพยานพาหนะได้อย่างแม่นยำแบบมีข้อมูลมารองรับด้วย

ใช้ระบบจัดการน้ำมันดีเซล ที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณ ตั้งแต่ตอนนี้

ระบบจัดการน้ำมัน Cartrack 

ติดตามความเคลื่อนไหวของน้ำมันตลอดเวลาและอัตโนมัติ ด้วยเทคโนโลยีเทเลเมติกส์ พร้อมทั้งระบบแจ้งเตือนเมื่อพบความเคลื่อนไหวที่ต้องติดตามเร่งด่วน เช่น น้ำมันลดลงอย่างรวดเร็ว ที่ส่อเค้าการขโมยน้ำมัน

การติดตามยังสามารถติดตามเฉพาะเจาะจงที่คนขับหรือที่ยานพาหนะ หรือทั้งสองแบบ ติดตามได้รายคนและรายคัน ช่วยให้ธุรกิจได้ข้อมูลที่ชัดเจนและเจาะจงที่สุด

ระบบติดตามพฤติกรรมคนขับรถ

นอกจากระบบจัดการน้ำมัน Cartrack ยังมีระบบติดตามพฤติกรรมคนขับรถ ที่ช่วยให้เข้าใจลักษณะการขับขี่ของคนขับแต่ละคน มีระบบให้คะแนนการขับขี่ ที่นำไปใช้ประเมินผลเพื่อปรับปรุงการขับขี่ได้อย่างถูกจุดด้วย 

ซึ่งปัญหาของคนขับรถที่มักพบได้คือ จอดแช่ติดเครื่องอย่างไม่จำเป็น ขับซิ่ง ขับรถออกนอกเส้นทางแบบไม่ตั้งใจ (เช่น ไม่รู้เส้นทาง) หรือขับรถออกนอกเส้นทางแบบตั้งใจ (เช่น ขับไปทำธุระส่วนตัว) ซึ่งเรื่องเหล่านี้กระทบกับสภาพยานพาหนะและการใช้ยานพาหนะทั้งสิ้น

ระบบบำรุงรักษายานพาหนะ แบบเรียลไทม์และตลอดเวลา

การดูแลยานพาหนะก็เป็นเรื่องสำคัญที่ Cartrack ใส่ใจ ด้วยการพัฒนาระบบบำรุงรักษายานพาหนะ ที่ติดตามสภาพยานพาหนะแบบเรียลไทม์และตลอดเวลา 

ระบบจะแจ้งเตือนการบำรุงรักษาที่เหมาะสมที่สุดกับยานพาหนะ คือวิเคราะห์จากสภาพเครื่องยนต์ของยานพาหนะ ไม่ใช่ดูจากระยะเวลา ซึ่งไม่แม่นยำและอาจพลาดหากเครื่องยนต์เสียหายกะทันหัน ซึ่งอยู่นอกเหนือจากเงื่อนไขการติดตามโดยดูจากช่วงเวลา

ระบบปรับปรุงเส้นทางการขับขี่อัตโนมัติ

และระบบปรับปรุงเส้นทางการขับขี่อัตโนมัติ ที่ Cartrack ทำเป็นระบบอัตโนมัติ ที่ธุรกิจสามารถกรอกข้อมูลจุดหมายปลายทางที่ต้องการไปในแต่ละวัน กี่จุด กี่เที่ยวก็ได้ และคลิกเดียว ระบบจะเรียงลำดับเส้นทางให้อัตโนมัติ ซึ่งเป็นเส้นทางที่ใช้ระยะทางหรือเวลาน้อยที่สุด
นอกจากนี้ยังสามารถกำหนดคนขับ ให้คนขับใส่รายละเอียดการขนส่งสินค้าเข้าสู่ระบบได้ทันที เป็นระบบที่เหมาะกับธุรกิจขนส่งที่ต้องส่งของให้ลูกค้าตามพื้นที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าประจำหรือลูกค้าใหม่ๆ ระบบนี้ก็รองรับ และสามารถเก็บหลักฐานการขนส่งได้ในระบบเดียวด้วย

สัมผัสการประหยัดน้ำมันดีเซลแบบระยะยาว ที่ธุรกิจฝันถึง ด้วย Cartrack

หากธุรกิจสงสัยหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพื่อพิจารณาว่า ระบบ Cartrack เหมาะสมกับรถใช้งานในธุรกิจของคุณหรือไม่ โทรสอบถามได้ในวันจันทร์-ศุกร์ที่เบอร์ 021362920 , 021362921 ในเวลาทำการ 

หรือคลิกทักไลน์ที่นี่เพื่อแจ้งชื่อ จำนวนรถที่ต้องการติดตั้ง และหมายเลขติดต่อกลับ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบติดต่อกลับโดยเร็วที่สุด

รถใช้งานในธุรกิจในแต่ละวัน ธุรกิจหรือผู้จัดการรู้หรือไม่ว่า รถแต่ละคันใช้น้ำมันไปเท่าไหร่ แบบเป็นตัวเลขชัดเจน? ถ้าคุณไม่รู้ “ระบบจัดการน้ำมัน” บอกคุณได้