เจ้าของกิจการรถให้เช่า หรือ “เต้นท์รถ” แต่ละที่ก็มีกำหนดพื้นที่ให้รถเช่าวิ่งได้แตกต่างกัน บางเจ้ากำหนดแค่ในจังหวัดนั้น บ้างก็ให้วิ่งข้ามจังหวัดได้ แต่ไม่ว่าจะกำหนดขอบเขตพื้นที่วิ่งรถไว้อย่างไร เต็นท์รถต่างก็มีโอกาสที่จะเจอกับมิจฉาชีพลักรถ และอาจเคยต้อง ตามหารถหาย กันมาแล้วบ้าง
และสุดท้ายพบรถบ้าง ไม่พบบ้าง แล้วแต่สถานการณ์และปัจจัยของแต่ละคน
วันนี้ Cartrack มีประสบการณ์จริงจากลูกค้าคาร์แทรค ที่เป็นเจ้าของเต็นท์รถให้เช่า ที่เจอมิจฉาชีพมาหลอกลักรถข้ามประเทศไปขาย อ่านเพื่อเป็นอุทาหรณ์ไว้ให้ระวังโจรรูปแบบนี้กัน
คุณ เจ (นามสมมติ) ผู้เสียหายเป็นร้านเต๊นท์รถมือสองแห่งหนึ่งใน จ.สกลนคร ซึ่งเป็นหนึ่งในลูกค้า Cartrack จีพีเอสติดรถยนต์
การพบเหตุลักรถเช่า เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 27 ก.พ. 2563 ทีมงานคาร์แทรคที่คอยดูแลความปลอดภัยให้ลูกค้า ได้สังเกตเห็นความผิดปกติของการใช้งานรถยนต์ยี่ห้อ Toyota Hilux Vigo ของคุณเจ จึงได้โทรสอบถามคุณเจโดยตรง ณ เวลานั้น
ลักษณะที่พบคือ รถคันดังกล่าวจอดนิ่งที่ลานจอดรถแห่งหนึ่งใกล้สะพานมิตรภาพไทย-ลาว จ.นครพนม เป็นเวลานานถึง 9 วันติดต่อกัน จึงสอบถามว่า เกิดเหตุอะไรขึ้นหรือไม่
คำตอบที่ได้จากคุณเจ คือ ตัวเองไม่ทราบว่า รถของตัวเองถูกจอดทิ้งไว้ เพราะตัวเองให้ “เช่าซื้อ” รถคันดังกล่าวไป โดยเมื่อเดือน ก.พ. ในปีเดียวกัน รถคันนั้นถูกเช่าซื้อไปในราคา 1 แสนบาท จากมูลค่ารถกว่า 5 แสนบาท โดยมีการทำสัญญาไว้อย่างดิบดี มีผู้ค้ำประกันร่วมด้วย
เมื่อทราบเหตุการณ์ คุณเจเจ้าของเต็นท์รถจึงติดต่อกับทั้งทางผู้เช่าซื้อและผู้ค้ำประกัน เพื่อถามว่ารถเช่าซื้อคันนี้อยู่ที่ไหน และพบว่าทั้งสองคนให้คำตอบที่ไม่ตรงกันจนผิดสังเกต
ลูกค้าจึงตัดสินใจแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและขอความช่วยเหลือมายังทีมกู้คืนยานพาหนะ (SVR) ของคาร์แทรค ซึ่งประสานงานกับตำรวจให้ทันที
จนวันที่ 4 มี.ค.63 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปถึงจุดที่รถจอดดังกล่าว แต่เมื่อไปถึง GPS คาร์แทรคได้แสดงข้อมูลเส้นทางของรถคันนี้พบว่า รถมีการเคลื่อนที่ไปอยู่ฝั่งชายแดนประเทศลาวแล้ว ผ่านเส้นทางข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว
กรณีนี้ แม้รถจะถูกพาข้ามไปฝั่งลาวแล้ว แต่สัญญาณ GPS ของ Cartrack ที่ยังสามารถรายงานตำแหน่งได้อย่างแม่นยำ
ทางทีมกู้คืนรถของคาร์แทรค จึงประสานงานกับตำรวจ สภ.สกลนคร และ สภ.นครพนม ในการตามรถคืนกลับมายังฝั่งประเทศไทยได้สำเร็จ
จากการสืบสวนของตำรวจพบว่า ผู้ที่มาขอเช่ารถนั้นเป็น “โจรนกต่อ” ที่มี ขบวนการซื้อขายรถผิดกฎหมายข้ามชาติ อยู่เบื้องหลัง
นอกจากนี้ยังพบว่า รถที่ถูกขโมย ผ่านขั้นตอนการตรวจออกนอกประเทศได้อย่างง่ายดาย ทั้งที่ไม่มีเอกสารสำคัญใดๆ จึงสันนิษฐานว่า มีแนวโน้มเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นกับ “คนใน” ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังรีบสืบหาพยานหลักฐานและตามจับกุมขบวนการนี้ต่อไป
หลังจาก ตามหารถหาย กลับมาได้ คุณเจ ลูกค้าคาร์แทรค เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ ร้านเต็นท์ขายรถมือสองของตัวเอง เคยประสบเหตุทำนองนี้มาก่อน แต่ตอนนั้นไม่ได้ติด GPS กันขโมยรถ ไว้ที่รถทุกคัน จึงทำให้ธุรกิจเสียหายอย่างมาก
ต่อมาจึงตัดสินใจติด GPS คาร์แทรค กับรถทุกคันของทางร้านเพื่อป้องกัน รถยนต์หาย โดยเฉพาะ
เหตุผลที่เลือก คุณเจ ใช้จีพีเอสติดตามรถของ Cartrack ก็เพราะมีทีมงานคอยดูแลความปลอดภัย 24 ช.ม. ทีมงานห่วงใยลูกค้าจริงโดยดูได้จากเหตุลักรถครั้งนี้ที่ทางทีมคาร์แทรคตรวจตราจนเจอความผิดปกติของรถและโทรแจ้งให้รู้ตัว จนเจ้าของรถสามารถติดตามรถคืนได้ในที่สุด
ปัจจุบัน โจรขโมยรถ ไม่ได้มาในมาดโจรไอ้โม่ง ปิดหน้าปล้นแบบดื้อๆ กันเพียงอย่างเดียว
แต่มาในรูปแบบของลูกค้าธรรมดา หน้าตาใสๆ ที่ทำทีติดต่อเช่ารถหรือเช่าซื้อรถ แบบกรณีที่เกิดขึ้นจริงบ่อยครั้งจากลูกค้าของเรา
เต็นท์รถเช่าจะรู้เท่าทันโจรได้อย่างไร Cartrack รวบรวมวิธีน่าสนใจที่ใช้ได้จริงมาฝาก
ระบบ GPS ของ Cartrack เป็นมากกว่าระบบ GPS ติดรถ ให้กับรถเช่า เพราะ Cartrack GPS คือ ระบบ Telematics ที่สามารถ:
กรณีรถของ คุณเจ ลูกค้าของคาร์แทรค เป็นเพียงหนึ่งในหลายพันเคสที่คาร์แทรค ช่วยดูแลและติดตามรถหายกลับมาได้สำเร็จ
หากบริษัทรถเช่าท่านใดสนใจ อยากทราบรายละเอียดบริการ GPS รถ ของคาร์แทรค เฉพาะสำหรับธุรกิจคุณ ติดต่อได้เลยตอนนี้ที่ 02-136-2921 หรือกรอกข้อมูลติดต่อสั้นๆ ที่ปุ่มด้านล่างนี้
เรื่องจริงจากเต๊นท์ขายรถมือสอง เจอโจรขโมยรถในมาดลูกค้า “เช่าซื้อรถ” ใช้เหยื่อล่อเป็นเงินหลักแสน ตามหารถหาย เจอออกนอกประเทศแล้ว