ธุรกิจก่อสร้าง ในประเทศไทย แม้จะดูเหมือนว่าเป็นธุรกิจที่มีความต้องการในตลาดอยู่ตลอดเวลา ช่างที่เชี่ยวชาญด้านการก่อสร้างก็เป็นที่ต้องการ จนดูเหมือนดีมานด์ (Demand) มากกว่าซัพพลาย (Supply)
แต่จากผลการวิจัยกรุงศรีเรื่องแนวโน้มธุรกิจก่อสร้าง หรือธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ล่าสุดพบว่า ช่วงปีพ.ศ. 2565 - 2567 ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ได้รับผลกระทบจากต้นทุนที่ปรับสูงขึ้นมาก เช่น ค่าขนส่งและราคาวัสดุก่อสร้าง ราคาน้ำมันและวัสดุก่อสร้างที่สำคัญโดยเฉพาะเหล็กและปูนซีเมนต์ปรับเพิ่มขึ้น ฯลฯ
จากมุมมองธนาคาร ถึงแนวโน้มธุรกิจก่อสร้าง
อย่างไรก็ดี ในเวลาเดียวกัน ปี 2566-2567 ธุรกิจก็มีแนวโน้มเติบโตตามมูลค่าการลงทุนก่อสร้างโดยรวมที่คาดว่าจะขยายตัวเฉลี่ย 4.5-5.5% ต่อปี โดยแบ่งออกตามประเภทของโครงการก่อสร้าง ได้แก่
- งานก่อสร้างโครงการวิศวกรรมโยธาขนาดใหญ่ ที่คาดว่า รายได้จากงานกลุ่มนี้จะฟื้นตัวตามการเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ โดยผู้รับเหมารายใหญ่และกลางที่รับงานนี้ จะมีรายได้ที่ขยายตัวต่อเนื่อง
- งานก่อสร้างภาคเอกชนในกลุ่มที่อยู่อาศัยอาคารทั่วไป กลุ่มอาคารสูง และอาคารขนาดใหญ่ รายได้จากงานกลุ่มนี้ จะมีแนวโน้มทยอยฟื้นตัวในปี 2566-2567 โดยคาดว่ารายได้ของกลุ่มผู้รับเหมารายใหญ่และรายกลางจะฟื้นตัวได้ก่อน โดยเฉพาะกลุ่มที่เน้นรับงานโครงการ Mixed-use น่าจะมีออเดอร์การว่าจ้างงานเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ผู้รับเหมารายใหญ่มีโอกาสรับงานก่อสร้างภาคเอกชนในประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะโครงการที่อยู่อาศัย อาคารพาณิชยกรรม และโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งจะขยายการลงทุนเพิ่มขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มฟื้นตัว
แต่สำหรับกลุ่มผู้รับเหมารายเล็กจะมีทิศทางชะลอตัว เนื่องจากงานก่อสร้างโครงการขนาดเล็กมีแนวโน้มฟื้นตัวช้า ประกอบกับข้อจำกัดด้านการบริหารจัดการต้นทุน และการขาดแคลนแรงงาน อาจส่งผลให้ผู้รับเหมากลุ่มนี้ยังมีความเสี่ยงด้านผลประกอบการและปัญหาสภาพคล่องทางการเงินได้
การบริหารจัดการต้นทุน ช่วยหรือถ่วง?
หากอ้างอิงจากงานวิจัยข้างต้น ไม่ว่าธุรกิจก่อสร้างจะมีขนาดเท่าไร ทุกเจ้าล้วนมีทรัพยากร คน วัสดุ และรถที่ต้องบริหารจัดการต้นทุนให้ดีแน่นอน เพราะหากไม่แล้ว การทำงานที่ส่งเสริมให้ธุรกิจเดินก้าวไปข้างหน้า อาจกลายเป็นข้อจำกัด ที่ส่งผลให้ธุรกิจไม่เติบโต หรือฟื้นตัวช้าเมื่อเกิดวิกฤติต่างๆ
หากคุณเป็นธุรกิจก่อสร้างที่กำลังประสบปัญหานี้อยู่ บทความคาร์แทรคตอนนี้ ชวนทำความรู้จักระบบหรือวิธีบริหารจัดการต้นทุน ที่ช่วยให้ธุรกิจหลีกเลี่ยงปัญหาสภาพคล่องทางการเงินได้อย่างชัดเจนและยั่งยืนระยะยาว
ระบบบริหารจัดการต้นทุนของธุรกิจก่อสร้าง หน้าตาเป็นอย่างไร?
ระบบบริหารจัดการต้นทุนธุรกิจก่อสร้าง คือ ระบบที่บันทึกข้อมูลและประมวลผลทรัพยากรทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจก่อสร้าง ได้แก่ รถประเภทต่างๆ หรือเครื่องจักร คนขับรถ และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อวางแผนและดูแลการใช้ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดจากประสิทธิภาพที่มากขึ้น ได้แก่ ใช้งานรถ คน และเครื่องมือ ได้คุ้มค่ามากขึ้นแต่ไม่เพิ่มความสึกหรอ เพราะสามารถกระจายการใช้งานได้อย่างทั่วถึง ทำงานได้มากขึ้นด้วยต้นทุนเครื่องมือ คน และเวลาเท่าเดิม
รวมถึงมีการแจ้งเตือนเพื่อการซ่อมบำรุงเชิงรุกที่เห็นสัญญาณความเสียหายตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ที่แก้ไขได้ก่อนก็ไม่ลุกลามกลายเป็นค่าใช้จ่ายมูลค่าสูง เป็นต้น
4 คุณประโยชน์หลัก ที่ธุรกิจก่อสร้างได้จากการใช้ระบบบริหารจัดการต้นทุน
- ใช้งานรถหรือเครื่องจักรได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ระบบบริหารจัดการต้นทุนจะเก็บและวิเคราะห์รถและเครื่องจักรในเรื่องการใช้น้ำมัน ระยะทางที่รถวิ่ง สภาพเครื่องยนต์ การบำรุงรักษา ไปจนถึงพฤติกรรมของคนขับหรือผู้บังคับเครื่องจักร
โดยการเก็บและวิเคราะห์จะเกิดขึ้นตลอดเวลา ทั้งเวลาที่ใช้งานและไม่ได้ใช้ ที่จะคำนวณการใช้งานอย่างคุ้มค่าของรถและเครื่องจักรได้แม่นยำมากยิ่งขึ้นด้วย
ตัวอย่างเช่น เครื่องเจาะพื้นของบริษัท มีค่าซ่อมแซมแต่ละครั้งที่สูงมาก ผู้บริหารสามารถนำข้อมูลบันทึกการใช้เครื่องเจาะพื้นที่ได้จากระบบบริหารจัดการต้นทุน มาตรวจสอบการใช้งานและวางแผนการซ่อมบำรุงที่เหมาะสม รวมถึงปรับปรุงวิธีการขับขี่หรือใช้เครื่องจักรที่ถนอมเครื่องยนต์มากขึ้น
เพื่อลดการซ่อมเพราะเสียหาย ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่าย ลดการขาดโอกาสการใช้งาน และยืดอายุการใช้งานได้นานมากขึ้นด้วย
- เพิ่มผลลัพธ์การทำงาน และการทำงานคล่องตัวขึ้น
ระบบบริหารจัดการต้นทุนช่วยจัดการการใช้ทรัพยากรต่างๆ จึงช่วยลดความผิดพลาด ความล่าช้า และความเสียหาย ที่จะกระทบต่อการทำงาน จึงช่วยให้งานเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง
เช่น หัวหน้างานสามารถใช้ระบบจัดสรรเครื่องจักรที่พร้อมใช้งานในงานก่อสร้างต่างๆ และวางแผนการใช้ที่เหมาะสม ตามระยะเวลาการทำงานจริง ซึ่งในระบบเดียวกันใช้จัดสรรคนและอุปกรณ์ได้ด้วย ทำให้ข้อมูลทั้งหมดอยู่ในที่เดียว เห็นภาพรวมของงานทั้งหมด
เมื่องานเดินหน้าอย่างต่อเนื่องไม่สะดุด การทำงานก็คล่องตัวมากขึ้น และกลายเป็นผลลัพธ์การทำงานที่เป็นปกติอย่างที่ควรจะเป็น ไม่ลดลงจากปัญหาต่างๆ
- ระบบจ่ายค่าจ้างงานถูกต้อง ชัดเจน และเป็นอัตโนมัติ
ระบบบริหารจัดการต้นทุนที่บันทึกข้อมูลการทำงานหรือใช้งานของคน เครื่องจักร และอุปกรณ์ ช่วยให้ฝ่ายการเงินคำนวณค่าตอบแทนและค่าใช้จ่ายได้อย่างถูกต้อง ชัดเจนแบบมีหลักฐาน และเป็นไปอย่างอัตโนมัติ
ไม่ต้องนั่งจดบันทึก กรอกข้อมูล คำนวณข้อมูล จัดทำเป็นรายงานด้วยตัวเอง เจ้าหน้าที่สามารถเพียงแค่กดพิมพ์รายงาน ระบบจะสรุปข้อมูลออกมาให้ทั้งหมดตามที่ต้องการ ช่วยให้การทำงานมีความประหยัดเวลาและแม่นยำมากขึ้น
- จัดสรรงบประมาณต้นทุนได้ถูกต้องตามสถานการณ์
ระบบบริหารจัดการต้นทุนช่วยวางแผนและใช้งบประมาณต้นทุนค่าก่อสร้างได้ถูกต้องตามสถานการณ์มากขึ้น เนื่องจากระบบจะเก็บข้อมูลการใช้งานและค่าใช้จ่ายทั้งหมดในที่เดียว ช่วยให้ธุรกิจเห็นภาพชัดเจน
เช่น เดือนนี้ทั้งเดือน ค่าน้ำมันเชื้อเพลิงเท่าไหร่ รถหรือเครื่องจักรคันไหนใช้น้ำมันมากที่สุด ใช้งานโดยใคร ใช้งานเรื่องอะไร
ซึ่งนอกจากจัดสรรการใช้งาน ยังสามารถจัดสรรงบประมาณได้อย่างถูกต้อง เพื่อเปิดโอกาสทางธุรกิจให้ตัวเองและปูรากฐานสภาพคล่องทางการเงินของธุรกิจตัวเองให้แข็งแรงด้วย
ระบบบริหารจัดการต้นทุนธุรกิจก่อสร้าง ที่เข้ากับทุกขนาดธุรกิจ
ระบบบริหารจัดการต้นทุน Cartrack ตอบโจทย์ธุรกิจก่อสร้างทุกขนาด ไม่ว่าจะมีรถ เครื่องจักร คน หรืออุปกรณ์ใช้งานมากแค่ไหน ด้วยระบบที่ออกแบบมาอย่างครอบคลุม และใช้ระบบ Cloud เก็บข้อมูล ที่จุข้อมูลได้มากกว่าและปลอดภัยสูง
ระบบ Cartrack ประกอบด้วย:
- ระบบติดตามรถและเครื่องจักร หรือ GPS ติดตาม: ติดตามรถก่อสร้างและเครื่องจักรได้ง่าย แจ้งเตือนเมื่อใช้งานนอกเวลาหรือออกนอกพื้นที่ ช่วยให้ทรัพย์สินปลอดภัย และมีข้อมูลสภาพเครื่องจักรแบบเรียลไทม์ ช่วยให้จัดสรรการใช้งานได้ไวขึ้นและคุ้มค่ามากขึ้น
- ระบบบำรุงรักษาเครื่องยนต์: แจ้งเตือนการซ่อมบำรุงหรือสัญญาณความเสียหายของเครื่องติดตามข้อมูลสภาพและการใช้เครื่องยนต์แบบเรียลไทม์
- ระบบรักษาความปลอดภัย: เพิ่มความปลอดภัยทั้งในการใช้งานและขั้นตอนการดำเนินงาน ด้วยกล้อง DVR หรือกล้องวงจรปิดที่เชื่อมต่อออนไลน์ ให้ดูภาพการทำงานได้แบบสดและดูย้อนหลังได้ พร้อมแจ้งเตือนความเสี่ยงอุบัติเหตุต่างๆ เช่น หาว อ่อนเพลีย หลับตา สูบบุหรี่ ใช้โทรศัพท์ ขับจี้คันหน้าหรือชิดวัตถุที่อยู่ข้างหน้ามากเกินไป
- ระบบบริหารผู้ใช้เครื่องจักรหรือคนขับ: ติดตามและบันทึกข้อมูลการใช้เครื่องจักรหรือการขับขี่รถก่อสร้างตลอดเวลา และสรุปออกมาเป็นข้อมูลที่น่าสนใจ เช่น การจอดแช่ติดเครื่องยนต์ การใช้น้ำมัน เทียบกับผู้ใช้คนอื่นหรือรถคันอื่นๆ ได้ ข้อมูลที่ชัดเจนใช้เป็นหลักฐานที่เที่ยงตรงและช่วยให้ตัดสินใจบริหารงานได้ง่ายและถูกต้องเหมาะสมมากขึ้น
นอกจากการมีเงินทุนสำรอง เฟ้นหาคนที่ใช่มาร่วมงาน การสร้างเครือข่ายลูกค้าคนรู้จัก ระบบบริหารจัดการต้นทุนเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจก่อสร้างตั้งตัว เติบโต และฟื้นตัวในวันที่มรสุมธุรกิจรุนแรงได้อย่างไม่ยากเย็น
สอบถามข้อมูลระบบหรือขอใบเสนอราคาระบบ Cartrack คลิกเพื่อกรอกข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับได้ที่นี่ หรือโทร 021362920 หรือ 021362921 ในวันจันทร์ถึงศุกร์ เวลาทำการ เพื่อปรึกษาเจ้าหน้าที่แบบตัวต่อตัวฟรี