ทุกวันนี้การมีรถยนต์เป็นเรื่องง่ายมากสำหรับคนไทย ยิ่งค่ายรถยนต์ดังๆ พยายามจะนำเสนอโปรโมชั่นเด็ดเพื่อให้ลูกค้าเกิดความสนใจจนอยากได้เป็นเจ้าของมากที่สุด เช่น เงินดาวน์น้อย, ช่วยผ่อนตามระยะเวลา, ฟรีประกัน เป็นต้น เมื่อมีการใช้รถยนต์อุปกรณ์ร่วมต่างๆ ก็เป็นเรื่องสำคัญไม่น้อย วัตถุประสงค์หลักเวลาเราใช้งานรถยนต์คือการนำพาเราไปยังสถานที่ต่างๆ ตามที่เราต้องการแต่การจะไปที่นั้นๆ ไม่ใช่ว่าทุกคนจะรู้จักไปหมดเลยต้องอาศัยผู้ช่วยที่จะทำให้คุณไปถึงเป้าหมายได้ง่าย สะดวก รวดเร็วมากขึ้น ระบบนำทาง ในรถยนต์จึงเป็นเรื่องสำคัญสุดๆ ที่จะช่วยตอบสนองความต้องการของสิ่งนี้ให้คุณได้ ดังนั้นลองมาทำความรู้จักเรื่อง ระบบ นำทาง ที่เราคุ้นชินกันนี้
หรือ Car navigation system / Automobile navigation system คือส่วนหนึ่งของการใช้งานดาวเทียมสำหรับส่งค่าหรือมีการคำนวณตำแหน่งพิกัดของรถยนต์ มีการใช้ตัวรับสัญญาณ GPS เพื่อทำการบอกตำแหน่งที่อยู่บนพิกัดโลก
หลักการสำคัญคือเพื่อคำนวณระยะทางจากตำแหน่งที่กำลังอยู่ตอนนี้ไปจนถึงจุดหมายปลายทาง ร่วมกับการจับตำแหน่งต่างๆ ที่ได้จาก GPS แล้วต่อไปยังตัวแผนที่ กระนั้นอาจมีการใช้เซนเซอร์อื่นๆ เพื่อช่วยให้การคำนวณระยะทางการเดินทางมีความแม่นยำมากขึ้นด้วย
ภาพรวมน่าสนใจของระบบนำทางในรถยนต์ เริ่มจากระบบแผนที่กันก่อน แผนที่ที่ใช้ใน ระบบ นำทาง รถยนต์ทั่วๆ ไปถือว่าเป็นมาตรฐานแบบไม่เป็นทางการ มาจาก 2 บริษัทใหญ่ คือ แผนที่จากบริษัท แนฟเทค (NavTeq) และบริษัท เทเลแอตลาส (Tele Atlas) ที่บอกว่าส่วนใหญ่มาจาก 2 บริษัทนี้เพราะแม้ว่าจะมีบริษัทอื่นที่ได้ใช้งานกันอยู่บ้างแต่ก็ไม่เป็นที่นิยมเท่า
ด้วยข้อจำกัดจากตัวฟอร์แมตแผนที่ลักษณะเฉพาะตามแต่ละบริษัทจะสร้างขึ้นมา อีกทั้งถ้าเป็นบริษัทเล็กๆ จะไม่สามารถช่วยสนับสนุนพื้นที่ครอบคลุมประเทศในทวีปทั่วโลกได้ บริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งหลายจึงเกิดข้อได้เปรียบตรงนี้
อีกเรื่องคือขั้นตอนที่ส่งผลให้การประมวลผลจะใช้งานกับซอฟต์แวร์ระบบนำทางมีปัญหาสำหรับทำแผนที่เพื่อให้สามารถใช้งานกับซอฟต์แวร์นั้นๆ ได้ เมื่อเป็นเช่นนี้บริษัทที่ทำระบบนำร่องจำนวนมากจึงเลือกใช้งานแผนที่ของ 1 ใน 2 บริษัทนี้เป็นหลักเท่านั้น
เหตุผลคือทำให้การประมวลผลรวดเร็วด้วยข้อมูลแผนที่แต่ละประเทศมันเยอะจนเกินคาดเดา ใช้เนื้อที่ในการเก็บใหญ่ จึงไม่สามารถนำเอาข้อมูลทุกอย่างที่มีใช้กับซอฟต์แวร์ของระบบนำร่องได้ เกิดการเอาข้อมูลแผนที่ต่างๆ มาจัดเรียงกันใหม่จนเหมาะสม อีกนัยหนึ่งคือเป็นเรื่องประโยชน์ของขนาดแผนที่ที่ต้องนำไปใช้ ความรวดเร็วเพื่อเข้ามาอ่านและการประมวลผลข้อมูล
ส่วนประกอบทางซอฟแวร์พื้นฐาน ที่ระบบนำทางส่วนใหญ่มีนั้น มีคร่าวๆดังต่อไปนี้
ซอฟต์แวร์นี้ gps เป็นตัวกำหนดพิกัดโลกด้วยการอาศัยดาวเทียมอย่างน้อยๆ 3 ดวง สำหรับบอกพิกัด ละติจูด ลองจิจูด ของตัวนำร่อง แล้วใช้หาค่าตัวนำร่องในแผนที่
ปกติแล้วแผนที่ที่ปรากฏในตัวนำร่องต้องได้มาจากบริษัทแผนที่ด้วยการกำหนดวัตถุต่างๆ อาศัยเรื่องโครงสร้าง ขนาด พิกัด เช่น ตรงแม่น้ำจะเป็นโพลิกอนสีฟ้า, ภูเขาเป็นโพลิกอนสีเขียว, ถนนตรงไหนเป็นไฮเวย์ มอเตอร์เวย์, ถนนหลัก, ถนนรอง เป็นต้น ทุกอย่างจะมีการกำหนดลักษณะเอาไว้เพื่อให้การวาดถูกต้อง
การค้นหาที่อยู่ และ POI หรือ point of interest นี่คือพื้นฐานอีกเรื่องที่บริษัทแผนที่ได้ทำเอาไว้ ซอฟต์แวร์ส่วนสำหรับการค้นหาที่อยู่และ POI ทำการค้นหาจากระบบดาตาเบสที่ส่วนใหญ่จะประมวลผลขึ้นมาเอง แยกคนละส่วนกับการวาดแผนที่ มีการนำเสนอฟังก์ชั่นบางอย่าง เช่น การค้นหาแบบฉลาด คือ ให้เลือกตัวพยัญชนะที่เป็นไปได้เท่านั้น, การค้นหา POI ประเภทต่างๆ อาจมีการใส่ระยะทางเข้าไปเอง เป็นต้น
ช่วยในเรื่องการตรวจสอบกับประสานงานระบบ เช่น เมื่อมีการขับรถออกนอกเส้นทางระบบจะมีการคำนวณระยะทางจากเส้นทางใหม่ไปจนถึงปลายทางแบบอัตโนมัติ gps มีการบอกพิกัดตำแหน่งปัจจุบัน พอส่วน On board เจอว่าตำแหน่งปัจจุบันไม่ตรงกับที่คำนวณไว้ตอนแรก ก็จะมีเสียงเตือนบอกออกมาพร้อมหาเส้นทางให้ใหม่เรียกว่าการทรีกระบบ แต่การทำงานของ Off board อาจแตกต่างไปเล็กน้อยเนื่องจากระบบนี้มันไม่ได้แป็นแบบเรียลไทม์
TMC (Traffic Message Channeling) เป็นตัวแอปฯ สำหรับการกระจายข้อมูลเรื่องระบบสภาพอากาศ การเกิดการจลาจล เป็นความร่วมมือของหลายๆ ประเทศในยุโรปเพื่อทำให้ผู้ขับขี่เกิดความปลอดภัยมากขึ้น มีการพัฒนาด้านสาธารณูปโภคต่างๆ ให้รองรับกัน ที่เหลือก็ยังมีเทคโนโลยีและระบบการสื่อสารอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น TISA (Traveller Information Services Association), 3-D Reality View, Voice recognition, Text to Speech เป็นต้น
ต้องยอมรับว่าเรื่องนี้กลายเป็นเรื่องสำคัญสุดๆ โดยเฉพาะคนที่ต้องใช้รถยนต์ประจำ ด้วยเส้นทางถนนต่างๆ ที่ถูกตัดเพิ่มมากขึ้น มีสถานที่ที่คนไม่รู้จักเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่ชีวิตประจำวันของเราเองหลายคนใช้ ระบบ นำทาง เหล่านี้เป็นปกติไปแล้ว คือแทบไม่ต้องจดจำว่าตรงนั้นตรงนี้เคยผ่านขอแค่มีตัวนำทางเราก็สามารถไปได้ทุกที่ดังใจต้องการ ถือว่าคุ้มค่ามหาศาลกับการนำมาใช้งานอย่างยิ่งในโลกยุคที่ทุกอย่างดูทันสมัยไปหมด
เทคโนโลยี ระบบนำทาง มีมานานแล้ว แต่เทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นอย่างมากในปัจจุบันทำให้ ระบบนำทาง เพิ่มความสามารถเพื่อตอบสนองการใช้งานได้มากขึ้น