GPS อุปกรณ์เครื่องเล็ก ๆ ที่กำลังผูกติดกับชีวิตการเดินทางของเราอย่างแยกไม่ออก ไม่ว่าเราจะเดินทางไปไหน จะเดินทางยังไง ใช้เส้นทางไหน ยิ่งโดยเฉพาะเส้นทางที่เราไม่เคยไปด้วยแล้ว ก็มีอันต้องเปิด GPS หรือแผนที่นำทางในโทรศัพท์มือถือเพื่อดูข้อมูลอยู่เสมอ
แต่เคยสงสัยกันไหมว่า GPS บอกทางเราได้อย่างไร มันรู้ได้อย่างไรว่าเรากำลังจะเดินทางไปไหน และรู้สภาพการจราจรบนพื้นถนนได้ยังไง วันนี้เรามาหาคำตอบไปพร้อมกับคาร์แทรค (CARTRACK) กัน
ในความเป็นจริงแล้ว GPS นั้นไม่สามารถช่วยบอกทางให้กับเราได้ เพราะ GPS เป็นระบบระบุพิกัดที่จะบอกเราว่ากำลังอยู่ในตำแหน่งไหน และตรวจจับการเคลื่อนที่ว่าเรากำลังจะไปทิศทางไหน ด้วยความเร็วเท่าไหร่ จากการรับส่งสัญญาณของดาวเทียม GPS 4 ดวงขึ้นไป กับตัวเครื่อง GPS บนโลก ซึ่งจะทำให้ทราบว่าตอนนี้ตัวเครื่องมีระยะห่างจากดาวเทียมเท่าไหร่ แล้วคำนวณประมวลผลออกมากลายเป็นพิกัดในปัจจุบันของเรา
นั่นหมายความว่าในทุก ๆ วินาทีที่เราขับรถ ดาวเทียมจะสามารถจับได้ว่าเรากำลังเคลื่อนห่างออกไปเรื่อย ๆ และไปเข้าใกล้ดาวเทียมดวงอื่นแทน ซึ่งทำให้สามารถคำนวณได้ว่าเรากำลังเดินทางไปในทิศทางไหนและใช้ความเร็วเท่าไหร่นั่นเอง
ส่วนที่แอปพลิเคชันต่าง ๆ เช่น Google Maps หรือเครื่อง GPS บอกทางเราได้เพราะเกิดจากการทำงานร่วมกับระบบของแผนที่ โดย GPS จะบอกพิกัดว่าอยู่บริเวณใด อยู่ตรงช่องการจราจรไหน กำลังไปทิศทางไหน และความเร็วของรถเป็นยังไง
ส่วนตัวแผนที่จะคอยกำหนดเส้นให้เราว่าต้องเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา กลับรถ หรือเปลี่ยนช่องการจราจร เพราะหากลองสังเกตดูจะพบว่าเมื่อเราขับรถไปบนถนนที่เส้นทางยกระดับอยู่ ก็สามารถทำให้ GPS บอกทางผิดพลาดได้เช่นกัน
ทั้งนี้เพราะตัว GPS นั้นไม่ได้นำความสูงมาใช้คำนวณด้วย แต่ใช้ข้อมูลจากระบบแผนที่ในการคำนวณเท่านั้น ซึ่งบางครั้งเส้นถนนที่ทับกัน หรือรถเคลื่อนที่ไปอยู่ในที่ที่สัญญาณ GPS ส่งไม่ถึง อาจทำให้เกิดการคำนวณเส้นทางที่ผิดพลาดได้
สำหรับการตรวจเส้นทางจราจรนั้น เครื่อง GPS สามารถระบุได้เนื่องจากการใช้ข้อมูลจากที่ต่าง ๆ ดังนี้
เมื่อเราเปิด Google Maps หรือแอปพลิเคชันนำทางอื่น ๆ และได้ยินยอมแชร์ตำแหน่งของเรา จะทำให้โทรศัพท์ของเราส่งข้อมูลแบบไม่ระบุตัวตนกลับไปบอกทางผู้พัฒนาเพื่อรวบรวมข้อมูลว่าเรากำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเท่าไหร่ แล้วนำไปเปรียบเทียบกับโทรศัพท์มือถือเครื่องอื่นๆ ที่อยู่บนถนนเส้นเดียวกัน
เมื่อนำข้อมูลทั้งหมดรวมเข้าด้วยกันและประมวลผลออกมาก็ทำให้ทราบสภาพการจราจรว่าจุดไหนที่มีคนหนาแน่น รถเคลื่อนไหวได้ช้า แล้วส่งข้อมูลกลับมาแสดงให้เราเห็นนั่นเอง
หลายคนเมื่อทราบว่ามีการส่งข้อมูลผู้ใช้ไปหาผู้พัฒนาอาจจะมีความกังวลเรื่องของการเสียค่าอินเทอร์เน็ต และในด้านความเป็นส่วนตัว รวมถึงความปลอดภัยของข้อมูล แต่ในความจริงแล้วข้อมูลที่ส่งไปให้ระบบประมวลผลมีขนาดไม่กี่ไบท์เท่านั้นจึงไม่เปลืองดาต้ามือถือ
นอกจากนี้ข้อมูลที่ระบบได้รับจากเราไปนั้น จะไม่มีการดึงเอาข้อมูลส่วนตัว ไม่ว่าเป็นชื่อจริง นามสกุลจริง เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ หรือรหัสต่าง ๆ ไปใช้อย่างแน่นอน จึงเปิดใช้และร่วมส่งข้อมูลให้ระบบทำการคำนวณ เพื่อช่วยเพิ่มความแม่นยำกันได้อย่างสบายใจ
นอกจากการใช้การตรวจจับจากอุปกรณ์ที่ใช้ GPS แล้ว ทางผู้พัฒนาระบบยังสามารถเก็บข้อมูลจากผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือในประเทศนั้น ๆ ได้ด้วย โดยจะใช้เสาสัญญาณโทรศัพท์หลาย ๆ ต้น มาคำนวณหาพิกัดของโทรศัพท์เครื่องนั้น ๆ ว่าอยู่ตรงไปและมีการเคลื่อนที่หรือไม่นั่นเอง
Waze เป็นแอพคอมมูนิตี้ที่มีลักษณะแผนที่พร้อมระบบนำทาง มีจุดแข็งที่มีผู้ใช้ที่แข็งแกร่งเหนียวแน่น ซึ่งคอยช่วยกันรายงานสภาพจราจรอยู่เสมอ ไม่ว่าเป็นการเกิดอุบัติเหตุ การจราจรติดขัด หรือปัญหาอื่น ๆ เกี่ยวกับสภาพการจราจรบนท้องถนน
เมื่อ Google ได้ซื้อ Waze มาก็ได้รวมเอาข้อมูลจากผู้ใช้ใน Waze มาแสดงขึ้นบน Google Maps ด้วย ทำให้ผู้ใช้สามารถทราบปัญหาที่เกิดขึ้นบนท้องถนนได้ทันที
ในบางประเทศผู้ให้บริการ GPS บอกทางได้มีการทำข้อตกลงและเซ็นสัญญากับหน่วยงานต่าง ๆ ของประเทศนั้น ๆ ที่ดูแลเรื่องสภาพการจราจรอยู่ เพื่อขอแลกเปลี่ยนหรือซื้อขายข้อมูลสภาพการจราจร แล้วนำมาใช้ประกอบการประมวลผลของระบบ
ตัวอย่างเช่น หากลองสังเกตบนถนนเส้นหลัก ๆ ในกรุงเทพฯ มักจะมีป้ายจราจรอัจฉริยะที่คอยบอกสภาพการจราจรในปัจจุบันให้ผู้ใช้รถใช้ถนนได้สภาพการจราจรข้างหน้าเช่นกัน
ระบบ GPS บอกทางนั้นได้ถูกพัฒนามากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเทียบกับในยุคแรก ที่ผู้ใช้มักประสบปัญหาแผนที่ไม่ตรงกับสถานที่จริง การพาหลง การตรวจจับสัญญาณที่ไม่เสถียรทำให้ตำแหน่งปัจจุบันคลาดเคลื่อน ถือว่าปัจจุบัน GPS บอก ทางได้อย่างแม่นยำขึ้นอย่างมาก แม้ว่าอาจจะมีข้อผิดพลาดบ้างหากการส่งสัญญาณจากดาวเทียมถูกรบกวน
แต่ผู้พัฒนาระบบหลาย ๆ แห่งก็คอยพัฒนาให้ระบบ GPS นั้นมีความแม่นยำมากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อให้เราสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบายนั่นเอง
สำหรับ CARTRACK เราเป็นบริษัท GPS สำหรับติดตามรถ ที่ได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางบก หรือ DLT เหมาะกับรถขนาดเล็กไปจนถึงรถขนาดใหญ่ รถยนต์ รถบรรทุก รถตู้ รถให้เช่า รถกระบะตู้ทึบ สำหรับรถใช้ส่วนบุคคล รถใช้ในธุรกิจ ไปจนถึงรถที่ติด GPS ตามที่กฎหมายกำหนด
GPS ติดตามรถ CARTRACK มาพร้อมระบบจัดการยานพาหนะ และบริการหลังการขายที่ครบครัน ติดตั้งฟรีถึงที่ ไม่ต้องนำรถมาหาเรา แต่ทีมช่างผู้เชี่ยวชาญจาก CARTRACK จะเดินทางไปหาคุณ ให้บริการทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย
นอกจากนี้เรายังมีบริการติดตั้งเซนเซอร์น้ำมัน เพื่อใช้งานร่วมกับกล่อง GPS ติดตามรถ หรือกล้อง AI ซึ่งเป็นกล้อง GPS ติดรถแบบ CCTV ใช้งานกับรถยนต์หรือรถบรรทุกได้ ราคาคุ้มค่า พร้อมยกระดับการทำงานให้ธุรกิจมีรถของคุณด้วยข้อมูลที่ชัดเจนและเป็นประโยชน์
หากสนใจสอบถามข้อมูล GPS รถเพิ่มเติมหรือขอใบเสนอราคา กรอกข้อมูลการติดต่อของคุณที่นี่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับโดยเร็วที่สุด ในช่วงวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30 - 17.30 น.
สำหรับลูกค้าใหม่ CARTRACK! ติดตั้งวันนี้ ฟรีค่าติดตั้งและค่าอุปกรณ์กล่อง GPS จ่ายเพียงค่าบริการ พร้อมโปรโมชันพิเศษ รับเลยทันที โปรโมชันติดตั้ง GPS ติดรถยนต์ รถตู้ รถกระบะ GPS ติดตามรถบรรทุก จ่าย 10 เดือน ใช้ต่อเนื่อง 12 เดือน* (* เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด)
ติดตาม CARTRACK (คาร์แทรค) เพิ่มเติมได้ที่
Facebook: Cartrack Thailand
Instagram: @cartrack.thailand
LINE: CARTRACK GPS หรือเข้าแอปฯ LINE เลือกเพิ่มเพื่อน เลือกค้นหา พิมพ์ @udi4517q ที่ ID และแอดเพื่อคุยสอบถามข้อมูลได้ทันที

เคยสงสัยไหมว่า GPS บอกทางได้อย่างไร รู้ว่าเรากำลังจะเดินทางไปไหน รู้สภาพการจราจรบนพื้นถนนได้ยังไง และ GPS บอกทางได้จริงหรือไม่ หรือใช้ติดตามได้อย่างเดียว