กว่าจะมาเป็นระบบ GPS ติดตามรถ ให้เราใช้กันในทุกวันนี้ GPS เริ่มต้นมาจากการเป็นเครื่องมือสมัยใหม่ทางวิทยาศาสตร์ที่นักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกันประดิษฐ์คิดค้นขึ้น ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1957 และใช้งานได้จริงใน 25 ปีต่อมา หรือช่วงปี ค.ศ. 1983 นั่นเอง
ในช่วงต้นของการพัฒนา ระบบ GPS จะถูกใช้งานอยู่แต่เฉพาะในวงการทหารเท่านั้น จนกระทั่งมีเหตุระทึกขวัญเนื่องจากระบบการนำทางบกพร่อง เป็นเหตุให้รัสเซียยิงเครื่องบินพาณิชย์ของเกาหลีใต้ตก ทำให้ผู้โดยสารทั้งลำเสียชีวิตทั้งหมด จากนั้นระบบการทำงานของ GPS จึงได้ถูกพัฒนาให้ใช้ได้กับภาคเอกชนมาจนถึงทุกวันนี้
โดยหลักการทำงานของ GPS เป็นอย่างไรนั้น บทความคาร์แทรคตอนนี้จะชวนมาติดตาม มีประโยชน์สำหรับผู้ที่ใช้งานติดตั้ง GPS ติดตามรถเพื่อใช้ส่วนบุคคลหรือธุรกิจมีรถอย่างแน่นอน รวมถึงเราจะอธิบายให้เข้าใจความต่างของ GPS Tracking และ GPS นำทางว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร ทำไมถึงใช้ระบบจีพีเอสทั้ง 2 รูปแบบนี้แทนกันไม่ได้
ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจให้ตรงกันก่อนว่า ประเภทของ GPS มีอยู่ 2 รูปแบบด้วยกันที่เป็นที่รู้จัก และมีการใช้งานกันอย่างแพร่หลายอยู่ทุกวันนี้ ได้แก่
มาเริ่มต้นเข้าใจหลักการทำงานของระบบ GPS ติดตามรถกัน
GPS คืออุปกรณ์สำหรับระบุตำแหน่ง ต้องทำงานคู่กับดาวเทียมที่โคจรอยู่ในระบบของ GPS เองโดยเฉพาะเพื่อการระบุตำแหน่งของคน สัตว์ หรือสิ่งของบนพื้นโลก รวมถึง GPS เพื่อการติดตามยานพาหนะ คน สิ่งของ ฯลฯ โดยต้องมีตัวรับสัญญาณหรือเครื่องรับสัญญาณอย่างใดอย่างหนึ่ง
ซึ่งอุปกรณ์ GPS ที่ติดตั้งอยู่ที่ตัวรถจะทำหน้าที่คำนวณผลความแตกต่างของเวลากับสัญญาณจริงหรือเวลาที่ได้รับจริงเพื่อทำการเปรียบเทียบ และสามารถระบุตำแหน่งที่เป็นจริงบนผิวโลกได้อย่างชัดเจน
ระบบการทำงานของ GPS จะทำงานผ่านดาวเทียม ซึ่งจะโคจรเอียงทำมุม 55 องศากับเส้นศูนย์สูตร (Equator) ประกอบด้วยดาวเทียม 24 ดวง โดยจะแบ่งเป็น 6 รอบวงโคจร การโคจรจะสวนทางหรือสานกันคล้ายลูกตะกร้อ แต่ละวงจะประสานกับดาวเทียมจำนวน 4 ดวง
โดยดาวเทียมแต่ละดวงจะต้องใช้เวลาในการโคจรรอบโลกดวงละประมาณ 12 ชั่วโมง และจะอยู่ห่างหรือสูงขึ้นไปในอวกาศถึง 12,600 ไมล์ ซึ่งการทำงาน GPS จะรับสัญญาณจากดาวเทียมแต่ละดวง ซึ่งเป็นสัญญาณที่ประกอบด้วยการระบุตำแหน่งและเวลาในการส่งสัญญาณ
ในขณะเดียวกันตัวรับสัญญาณ GPS ติดตามรถจะต้องประมวลผลในความแตกต่างของเวลาเพื่อเปรียบเทียบกับเวลาจริง ในการแปลงเป็นระยะทางกับดาวเทียมแต่ละดวง ซึ่งได้ระบุตำแหน่งมาแล้วกับสัญญาณ เพื่อให้การค้นหาและติดตามตำแหน่งเป็นไปได้อย่างแม่นยำ การทำงานของ GPS ติดรถ จำเป็นต้องอาศัยดาวเทียม 4 ดวง เพื่อบอกตำแหน่งบนผิวโลก
โดยดาวเทียม 3 ดวงจะระบุตำแหน่งในพื้นราบของผิวโลก แต่ในความเป็นจริงพื้นผิวโลกมีความโค้ง เนื่องจากโลกมีสัณฐานทรงกลม จึงต้องเป็นหน้าที่ของดาวเทียมดวงที่ 4 ซึ่งจะทำให้การคำนวณตำแหน่งของวัตถุถูกต้องมากขึ้น ดาวเทียมแต่ละดวงจะสามารถทำงานได้อย่างแม่นยำในการระบุตำแหน่ง ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของดาวเทียมนั้น ๆ
กล่าวคือถ้าดาวเทียมที่กำลังใช้งาน และอยู่ในระยะที่ห่างกันจะบอกตำแหน่งได้ดีและแม่นยำกว่าดาวเทียมที่อยู่ใกล้กัน และถ้ามีจำนวนดาวเทียมมากก็จะทำให้ความแม่นยำยิ่งขึ้นนั่นเอง
ในชั้นบรรยากาศตามธรรมชาติจะมีความแปรปรวนซึ่งเมื่อสัญญาณตกกระทบจะมีการหักเห อาจทำให้สัญญาณอ่อนลงหรือเพี้ยนไปได้ ยิ่งถ้ามีการบดบังของวัตถุอื่นก็ยิ่งจะทำให้สัญญาณไม่แน่นอน ทั้งนี้ก็ต้องประกอบด้วยประสิทธิภาพของเครื่องรับสัญญาณด้วยว่ามีความไวต่อการรับสัญญาณเพียงไร และการประมวลผลด้วย
สูตรการคำนวณการวัดระยะห่างระหว่างดาวเทียมและเครื่องรับสัญญาณจะคำนวณโดยการใช้สูตร ระยะทาง = ความเร็ว x ระยะเวลา ซึ่งการแทนค่าจะเป็นในรูปนี้
ระยะทาง คือ เวลาที่คลื่นวิทยุส่งจากดาวเทียมมายังเครื่องรับสัญญาณ (เครื่อง GPS)
ความเร็ว ได้แก่ ระยะทางที่เครื่องรับอยู่ห่างจากดาวเทียม โดยวัดจากนาฬิกาของดาวเทียมซึ่งมีความแม่นยำสูง ตำแหน่งของดาวเทียมแต่ละดวงได้ถูกกำหนดไว้แล้วล่วงหน้าก่อนถูกส่งขึ้นสู่อวกาศ สถานีควบคุมจะคอยตรวจสอบความถูกต้องทุกอย่างอยู่ตลอดเวลา
นอกจากนี้ เนื่องจาก GPS ติดตามรถ ทำงานผ่านสัญญาณที่ส่งจากดาวเทียมมายังพื้นโลก ดังนั้นหากรถมีสิ่งกีดขวางบดบัง เช่น ขับรถเข้าไปในอุโมงค์ ชั้นจอดรถใต้ดิน หรือขับตามเส้นถนนใต้ทางด่วน ก็อาจทำให้สัญญาณการรับ-ส่งข้อมูลเกิดหยุดชะงักได้ แต่หากรถเคลื่อนที่พ้นสิ่งกีดขวางแล้ว สัญญาณก็จะกลับมาทำงานตามปกตินั่นเอง
สำหรับระบบ GPS ที่ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบและติดตามตำแหน่ง เช่น GPS ติดรถ ไม่ว่าจะเป็นรถบรรทุก รถในธุรกิจโลจิสติกส์ รถเช่า รถตู้ หรือแม้แต่รถยนต์ที่ใช้ส่วนบุคคลก็ตาม จะมีการเก็บข้อมูลโดยอาศัยตำแหน่งของดาวเทียมมาใช้ในการอ้างอิง ผ่านอุปกรณ์ที่เป็นกล่อง GPS ขนาดเล็กและมีเสาสัญญาณ
โดยกล่องนี้มีไว้สำหรับเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตเพื่อรับและส่งข้อมูลพิกัด ตำแหน่งของวัตถุ ไปจนถึงข้อมูลอื่น ๆ ที่สามารถเก็บบันทึกได้ โดยเงื่อนไขในการบันทึกข้อมูลนั้นอาจแตกต่างกันออกไปตามแต่คุณสมบัติของผู้ให้บริการแต่ละราย
ข้อมูลเรียลไทม์เหล่านี้จะถูกส่งไปรวบรวมไว้ที่ Server ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเรียกดูข้อมูลได้ตามต้องการตลอดเวลาอีกด้วย
ข้อมูลที่แจ้งเตือนจาก GPS Tracking หรือ GPS ติดตามรถ จะถูกบันทึกไว้ในระบบ ซึ่งมักจะเป็นข้อมูลการใช้รถของผู้ขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งระยะทาง ความเร็วที่ใช้ การเปลี่ยนแปลงทิศทางรถกะทันหัน การเบรก การเร่งเครื่อง หรือการเข้าโค้งกะทันหัน การวัดระดับน้ำมันว่าสัมพันธ์กับการใช้งานหรือไม่ ไปจนถึงการจอดแช่ติดเครื่องนานเกินไป ซึ่งอาจทำให้เกิดการเผาผลาญน้ำมัน สิ้นเปลืองต้นทุนของธุรกิจได้
ซึ่งข้อมูลทั้งหมดนี้ GPS ติดตามรถจะสามารถเก็บบันทึกข้อมูลให้เราทราบได้ เพื่อนำไปใช้ประเมิน KPI ของพนักงานขับรถ หรือปรับปรุงแก้ไขการทำงานของพนักงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเฉพาะธุรกิจที่มีการใช้งานรถและมีผู้ขับขี่หลายคน
หลักการทำงานของ GPS ระบบการนำทางใช้รูปแบบการทำงานเช่นเดียวกับ GPS ติดตามรถเลย แต่จะมีข้อแตกต่างที่เห็นได้ชัดคือ จุดประสงค์ในการใช้งาน
โดย GPS รูปแบบนี้จะต้องมีการติดตั้งอุปกรณ์ที่มีจอ เพื่อให้ตัวรับสัญญาณแสดงตำแหน่งปัจจุบัน จุดหมายปลายทาง ซึ่งกำหนดไว้จุดเดียว หรือมากกว่า 1 จุดก็ได้ ตามความต้องการของผู้ใช้งาน หรือแม้แต่ความหนาแน่นในการจราจรปรากฏให้เห็นบนหน้าจอ ในรูปแบบของแผนที่ระบุตำแหน่ง พร้อมคำนวณระยะเวลาที่น่าจะใช้ในการเดินทาง
รวมถึงเสียงที่ทำงานอย่างสอดคล้องกับการเลือกเส้นทาง เช่น ถ้ามีการเลือกเส้นทางที่จะต้องไปทางด้านขวา เสียงก็จะบอกเตือนให้เลี้ยวขวา เป็นต้น
CARTRACK ในฐานะผู้ให้บริการการจัดการยานพาหนะและ GPS ติดตามรถ ซึ่งใช้เทคโนโลยีมาตรฐานสูงสุด เพื่อให้ทราบผู้ใช้งานเข้าถึงตำแหน่งของยานพาหนะต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นทั้งรถบรรทุก รถตู้ รถขนส่ง รถส่งของ รถที่ใช้ในธุรกิจโลจิสติกส์ รถเช่า รถยนต์ ฯลฯ ได้อย่างแม่นยำ มีความละเอียดสูงด้วยการแจ้งเตือนแบบ Event Based สามารถใช้งานบนโทรศัพท์มือถือผ่านทางแอปพลิเคชันได้ รองรับทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และ Android
นอกจากนี้ยังเพิ่มความอุ่นใจในการใช้งาน GPS Tracking อีกระดับ ด้วยระบบแจ้งเตือนหากเกิดการโจรกรรม เจ้าหน้าที่ของ CARTRACK มีบริการสายด่วนบริการตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปยังที่เกิดเหตุช่วยในการกู้รถของคุณได้
รวมถึงสามารถติดตั้งอุปกรณ์เสริม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของ GPS ติดตามรถ ช่วยเก็บข้อมูลภาพการขับขี่และดูแลพฤติกรรมระหว่างการขับขี่ของคนขับรถได้ด้วยกล้องติดรถ ระบบ AI หรือติดกล้องนอกรถและเซนเซอร์น้ำมัน เพื่อดูความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นกับถังน้ำมัน ป้องกันการทุจริตได้อย่างไม่คลาดสายตา
โปรโมชันพิเศษวันนี้! หากคุณสนใจติดตั้ง หรือกำลังหาซื้อ GPS ติดรถ รับเลยโปรโมชัน จ่าย 10 เดือน ใช้งานอุปกรณ์ GPS ติดรถต่อเนื่องถึง 12 เดือน* (* เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด) ที่หมายเลข 02-136-2920 , 02-136-2921 ในวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30 - 17.30 น. หรือกรอกฟอร์มด้านบน หรือแจ้งต้องการทดลองใช้ฟรี
ติดตาม CARTRACK (คาร์แทรค) เพิ่มเติมได้ที่
Facebook: Cartrack Thailand
Instagram: @cartrack.thailand
LINE: https://page.line.me/udi4517q?openQrModal=true หรือเข้าแอปฯ LINE เลือกเพิ่มเพื่อน เลือกค้นหา พิมพ์ @udi4517q ที่ ID และแอดเพื่อคุยสอบถามข้อมูลได้ทันที
GPS ติดตามรถ หนึ่งในรูปแบบ GPS Tracking ที่ได้รับความนิยมในธุรกิจมีรถ มีหลักการทำงานอย่างไร ระบบติดตามรถมีรูปแบบการทำงานแตกต่างจาก GPS ระบบนำทางอย่างไร