โดยเจ้าอุปกรณ์จีพีเอสติดรถยนต์และยานพาหนะต่างๆที่เรากำลังพูดถึงนี้ คือ GPS Tracking Offline หรือ GPS Offline เป็นอุปกรณ์ GPS ที่สามารถเก็บข้อมูลพื้นฐานขั้นต้นของยานพาหนะตามปกติทั่วไป เช่น ตำแหน่งที่รถวิ่งผ่าน ระยะเวลาที่ใช้ในการขับขี่ ความเร็วที่ใช้ในการขับขี่ เป็นต้น แต่ข้อมูลเหล่านั้นจะถูกเก็บบันทึกไว้ใน “ตัวเครื่อง” ซึ่งจะสามารถดูข้อมูลต่างๆของยานพาหนะ หรือนำข้อมูลเข้าระบบคอมพิวเตอร์ ได้ก็ต่อเมื่อ..รถคันดังกล่าวต้องกลับมาถึงที่ทำการ บ้าน สำนักงาน หรือบริษัท เท่านั้น! ไม่สามารถที่จะดูข้อมูลได้ตลอดเวลา ผู้ใช้งานทำได้แค่ต้องรอย้อนดูข้อมูลในภายหลัง
อุปกรณ์จีพีเอสติดตามชนิดนี้เรียกว่า GPS Tracking Real Time หรือ GPS real time ที่จะมีการรับส่งข้อมูลไปยังเซิฟเวอร์ (Server) ในทันที ซึ่งผู้ใช้งานจะสามารถเข้ามาดูข้อมูลต่างๆได้ ‘ตลอดเวลา’ ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนก็ตาม โดยนอกเหนือจากข้อมูลขั้นต้นพวก การตรวจสอบตำแหน่ง ผู้ใช้งานจะสามารถเลือกเพิ่มฟังก์ชันการรายงานข้อมูลขั้นสูงได้ (ฟังก์ชันจะแตกต่างกันออกตามแต่ละผู้พัฒนาสินค้า) ได้ เช่น จำนวนครั้งที่เบรกรุนแรง หรือเลี้ยวกระทันหัน ตรวจสอบข้อมูลการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ระยะเวลาการจอดรถโดยไม่ดับเครื่องยนต์ เป็นต้น
นอกจากนี้เหล่าบรรดาผู้ให้บริการชั้นนำด้านเทคโนโลยี GPS Real Time อาจมีบริการอื่นๆให้ลูกค้าเลือกใช้งานเพิ่มเติม ตามจุดประสงค์และความต้องการที่แตกต่างกันออกไปอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น บริการเฝ้าระวังรถหาย บริการติดตามค้นหารถที่ถูกขโมย บริการแจ้งเตือนและให้ความช่วยเหลือเมื่อเกิดอุบัติเหตุแบบ24ชั่วโมง หรือบริการอื่นๆอีกมากมาย
ซึ่งแน่นอนว่า GPS Real Time นั้นจะมีการเรียก “เก็บค่าบริการรายเดือน” กับผู้ใช้งาน เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการเช่าเซิฟเวอร์ และระบบดาวเทียม โดยในปัจจุบันยุคดิจิทัล 4.0 อะไรๆก็ต้อง ‘ออนไลน์’ และมีการใช้เทคโนโลยีกันอย่างเต็มรูปแบบ ดังนั้นราคาค่าบริการจึงถูกลงกว่าสมัยก่อนเยอะมาก แถมยังมีบริการเสริมต่างๆที่ตอบรับความต้องการของผู้ใช้งานอีกด้วย ต้องบอกเลยว่าในยุคนี้ ไม่ว่าจะเป็น บุคคล หรือ บริษัท ต่างก็นิยมใช้งาน GPS Real Time กันซะส่วนใหญ่ทั้งนั้น
เราจะมาพูดถึงประเด็นนี้ให้ทุกคนหายสงสัยกันเลยครับว่า GPS offline คืออะไร? มีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง? ต่างกับ GPS real time อย่างไร? ไปดูกันเลย