การใช้งาน GPS ในปัจจุบันมีหลากหลายรูปแบบ ซึ่งจะมีอยู่ 2 อย่างหลักๆ ที่นิยมใช้กันทั่วไป คือ GPS นำทาง และ GPS ติดตาม ซึ่งเทคโนโลยีในยุคปัจจุบันได้นำระบบ GPS ทั้ง 2 ตัวนี้ มาใช้งานกับรถยนต์มากขึ้น เพื่อความสะดวกในการเดินทาง ด้วยฟังก์ชั่นการนำทางภายในรถ และ GPS ติดตามรถ เพื่อใช้ติดตามรถยนต์ ในกรณีที่คุณเป็นเจ้าของธุรกิจที่มีรถต้องดูแลหลายคัน พนักงานเซลในองค์กร หรือต้องการติดตามรถยนต์ของคนในครอบครัว ก็สามารถทำได้ไม่ยาก
นอกจากการติดตามเฉยๆแล้ว การนำการใช้ GPS ติดตามรถ ไปประยุกต์ใช้งานในรูปแบบต่างๆ กลายมาเป็นสิ่งสำคัญให้กับธุรกิจได้มากมาย เช่น ธุรกิจขนส่ง ธุรกิจที่ใช้รถยนต์จำนวนมาก ซึ่งการนำมาใช้งานนั้นไม่ใช่เพื่อติดตามอย่างเดียว แต่เพื่อการติดตามงาน การประเมินคุณภาพ การดำเนินงานภายในเวลาที่กำหนดไว้ เพื่อการบริการที่ได้คุณภาพเป็นต้น
คำว่า “ติดตาม” ในที่นี้ หมายถึง การที่เราสามารถรู้ได้ว่า ผู้ขับขี่ขับไปไหน จอดรถตรงไหน ใช้เวลาเดินทางเท่าไหร่ แต่นั้นยังไม่เพียงพอกับการใช้งานเพื่อธุรกิจ ดังนั้นจึงมีการนำเอาเทคโนโลยีต่างๆเข้ามาใช้งานร่วมกับ GPS ติดตามรถ เพื่อให้สามารถครอบคลุมการใช้งานได้อย่างครบวงจร ซึ่งเราจะเรียกการจัดการนี้ว่า ฟลีท เมเนจเมนท์ (Fleet Management) หรือ การจัดการกองยานพาหนะ นั้นเอง
เทคโนโลยีที่กล่าวมาข้างต้น จะถูกนำมาใช้งานพร้อมกับการติดตาม โดยผู้ให้บริการ GPS ติดตามรถ อย่าง คาร์แทรค ก็สามารถตอบโจทย์ต่างๆเหล่านี้ได้ครอบคลุม ยกตัวอย่างเช่น
การติดตามตำแหน่งของรถที่แม่นยำ ถูกต้อง ทำให้เราสามารถมั่นใจว่า รถยนต์ของเรานั้นอยู่ที่นั้นจริงๆ ไม่มีคลาดเคลื่อน เพราะการคลาดเคลื่อนเพียง 500 เมตร นั้นหมายถึง การติดตามที่ล้มเหลว อีกทั้งยังสามารถดูการเดินทางแบบย้อนหลังได้
เรียกว่าเป็นระบบที่มาพร้อมกับการติดตามรถ ที่ทำงานร่วมกันได้อย่างดีเยี่ยม เพราะการติดตามการเดินรถย้อนหลัง และการกราฟน้ำมัน ที่รถยนต์คันนั้นใช้งาน ทำเราทราบถึงค่าใช้จ่าย การใช้เชื้อเพลิง และยังป้องกันการลักลอบดูดหรือ ขโมยน้ำมัน ของพนักงานขับรถ
เราสามารถกำหนดความเร็วของผู้ขับขี่ได้ โดยการตั้งนโยบายหรือข้อกำหนดภายในองค์กร หรือหากไม่มี เราสามารถตรวจเช็คได้ ผ่านจากมอนิเตอร์ (จอคอม, สมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต) ว่าผู้ขับขี่รถยนต์นั้นๆ ใช้ความเร็วในขณะนี้เท่าไหร่ เพราะหากใช้ความเร็วเกินกำหนด นั้นคือความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดอุบัติเหตุ หรือผิดกฏหมายได้ ซึ่งนั้นจะทำให้เราต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มแน่นอน
ระบบนี้จะช่วยให้เราทราบถึงเซนเซอร์ต่างๆที่รถยนต์คันนั้นจะแสดงผล เช่น อุณหภูมิ ระดับน้ำมัน ความเร็ว ประตูสินค้าเปิดหรือปิด (กรณีรถบรรทุกสินค้าที่มีประตูหลัง) และการแสดงผลต่างๆภายในรถ จะทำให้เราสามารถทราบถึงสถานะของรถคันนั้นได้
นี่เป็นเพียงตัวอย่างเบื้องต้นที่ระบบการจัดการ กองยานพาหนะควรจะมี ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจดำเนินได้อย่างราบรื่นมากขึ้น
อย่างที่กล่าวไป หากเราสามารถควบคุมการใช้ความเร็ว การทราบในทุกๆการเบรคแบบกระชั้นชิด การเร่งความเร็ว การหักโค้งด้วยความเร็วสูง การขับรถแบบไม่ทะนุทะนอนเหล่านี้ จะทำให้รถยนต์เสื่อมสภาพเร็วขึ้น และจะต้องจ่ายค่าซ่อมบำรุงมากขึ้น
หากเราสามารถทราบการใช้งานรถยนต์แล้ว อีกอย่างที่ต้องทราบคือการใช้เชื้อเพลิง เชื้อเพลิงเป็นสิ่งที่ใช้แล้วหมดไป ต้องเติมเต็มตลอด ซึ่งการตรวจวัดระดับน้ำมันได้ นั้นหมายถึง เราจะทราบว่าในการเดินทางแต่ละครั้งนั้นใช้เชื้อเพลิงเท่าไร และเส้นทางไหนจะประหยัดได้มากกว่า การติดเครื่องยนต์โดยไม่จำเป็น การใช้งานรถยนต์นอกเหนือจากที่ได้รับมอบหมาย เป็นต้น
การติดเครื่องยนต์ การใช้ความเร็ว การจอดรถโดยไม่ดับเครื่อง การติดเครื่องยนต์โดยไม่ได้รับอนุญาต การเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง การเบรคกระทันหัน เหล่านั้นจะถูกส่งด้วยระบบแจ้งเตือน ผ่านทาง อีเมล์, SMS, หรือ Line แล้วแต่ผู้ให้บริการ GPS นั้นๆ
GPS ติดตามรถ จะทำให้เราทราบถึงตำแหน่งของรถที่จะเดินทางไปถึงจุดหมายที่เรากำหนดไว้ นั้นคือการที่ลูกค้าสามารถจะติดตามความเคลื่อนไหว ของสินค้าที่พวกเขาสั่งไว้ได้เช่นกัน ทำให้เพิ่มความมั่นใจและมาตรฐานในการทำงานหรือการบริการมากยิ่งขึ้น
การติดตามจะไม่มีประสิทธิภาพมากนัก หากเราต้องคอยนั่งติดตามด้วยตัวเองตลอดเวลา ระบบ GeoFences จะช่วยกำหนดขอบเขตพื้นที่ ภายในแผนที่ เพื่อให้แจ้งเตือนทันทีหากรถยนต์เข้าพื้นที่ที่กำหนด หรือจุดนัดพบต่างๆ ทำให้คุณมีเวลาที่จัดการส่วนอื่นได้ โดยไม่ต้องกังวลว่ารถจะที่หมายตอนไหน
ระบบ GeoFences คุณสามารถวางกรอบพื้นที่ในรูปทรงต่างๆได้อย่างอิสระ จะครอบคลุมทั้งพื้นที่เขต หรือเพียงช่วงระยะถนน ก็ไม่ใช่เรื่องยาก นั้นทำให้คุณสามารถวางแผนการดำเนินงานได้อย่างราบรื่นมากขึ้น
เปอร์เซ็นต์การโจรกรรมรถยนต์มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆในปัจจุบัน และหัวขโมยก็มีวิธีการในการขโมยมากขึ้น ซึ่งทำให้สัญญาณกันขโมยแทบช่วยอะไรคุณไม่ได้เลย ยิ่งโดยเฉพาะหากคุณไม่ได้อยู่ใกล้กับตัวรถ เช่น คุณจอดรถไว้ที่ลานจอดรถแล้วไปดูหนัง กินข้าว หรือต้องจอดรถไว้อีกที่ และต้องเดินเท้า หรือเข้าตึกรามบ้านช่อง ซึ่งทำให้คุณแทบจะไม่ได้ยินเสียงกันขโมยนั้นได้เลย
วิธีเดียวสำหรับการจัดการสิ่งนี้คือการมี GPS ติดรถยนต์ไว้ เพราะมันจะทำให้สามารถติดตามรถของคุณทุกที่ ไม่ว่าจะไกลแค่ไหนและได้ตลอดเวลา เพียงแค่เข้าแอพพลิเคชั่นเท่านั้น กล่อง GPS ที่ถูกติดตั้งในรถ ก็มีขนาดเล็ก และอยู่ในจุดที่ไม่สามารถมองเห็นได้ แต่หากถูกถอดออก สัญญาณก็จะเตือนเข้าในระบบทันทีและจะแจ้งเตือนเข้ามือถือคุณให้ทราบ เพื่อจัดการได้ทันถ่วงที
หากคุณโชคร้ายถูกขโมยรถยนต์ไป แต่ถ้าคุณมี GPS ติดตามรถ สิ่งที่คุณต้องทำคือ เข้าไปติดตามรถยนต์ของคุณผ่านระบบของผู้ให้บริการ บอกให้เราทราบว่ารถของคุณถูกขับออกไปโดยผู้ไม่พึงประสงค์ เราจะทำการติดตามรถยนต์คันนั้นทันที ตลอด 24 ชม. หากรถยนต์มีการดับเครื่องจะมี การตัดสตาร์ท เพื่อหยุดการเคลื่อนที่ของรถยนต์ และเจ้าที่หน้าที่ตำรวจที่ประสานงานร่วม จะเข้าทำหน้าที่จับกุมและนำรถยนต์กลับคืนสู่คุณอย่างปลอดภัย
ระบบที่จะช่วยกู้ภัยในยามเกิดอุบัติเหตุ ระบบ GPS จาก คาร์แทรค จะสามารถตรวจจับได้ว่า คุณประสบอุบัติเหตุด้วยกลไกการคำนวณการเกิดอุบัติเหตุ พนักงาน คาร์แทรค จะโทรติดต่อคุณทันที และหากคุณไม่สามารถตอบรับสาย พนักงานจะติดต่อเจ้าหน้าที่กู้ภัย เพื่อเร่งเข้าช่วยเหลือตามตำแหน่งที่คุณประสบอุบัติเหตุ
คาร์แทรค ให้บริการ GPS ในหลายทวีป มากกว่า 20 ประเทศทั่วโลก พัฒนาและผลิตอุปกรณ์ GPS ด้วยตัวเอง มีทีมวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี รวมไปถึงทีมโปรแกรมเมอร์ที่พัฒนาระบบอยู่เสมอ ทำให้ GPS จาก คาร์แทรค อยู่ในที่ยอมรับในระดับสากลและได้รับมาตรฐานระบบ GPS จากกรมการขนส่งทางบก ในประเทศไทย
ดังนั้นคุณสามารถมั่นใจในคุณภาพ และประสิทธิภาพในการติดตามรถยนต์ที่ได้มาตรฐาน ด้วยทีมบริการตลอด 24 ชม. จะคอยให้บริการลูกค้าได้ทันที ทีมช่างที่สามารถเดินทางไปดำเนินงานได้ทั่วประเทศ จะช่วยให้คุณได้รับความสะดวกสบายจากการบริการมากขึ้น นั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่คุณจะได้รับ นอกจากการจัดการกลุ่มยานพาหนะ ความปลอดภัยในทรัพย์สินด้วยระบบติดตาม GPS
GPS ติดตามรถ ให้ประโยชน์มากกว่าที่เราคิดไว้ ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของธุรกิจที่มีรถยน์หลายคัน หรือจะติดตามรถยนต์ของคนภายในครอบครัวก็มีประโยชน์ได้ไม่แพ้กัน
