BLOGS

สูตรลับธุรกิจ! ต่อภาษีรถ 2568 ง่ายขึ้น แค่ใช้ GPS Tracking

สนใจใช้งาน GPS ติดรถ Cartrack วันนี้ ปรึกษาฟรี!

ฉันเป็น / ...
จำนวนยานพาหนะของคุณ
ขอบคุณค่ะ เจ้าหน้าที่คาร์แทรคจะติดต่อกลับหาคุณโดยเร็วที่สุด
Oops! Something went wrong while submitting the form.

การต่อภาษีรถประจำปี เป็นภารกิจสำคัญที่ผู้ประกอบการขนส่งและธุรกิจที่มีการใช้ยานพาหนะต้องจัดการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยสำหรับรถใช้งานในธุรกิจจำนวนหนึ่ง กรมการขนส่งทางบกได้เพิ่มความเข้มงวดโดยการกำหนดให้ ผู้ประกอบการต้องติดตั้งระบบ GPS Tracking หรือ GPS ติดตามในรถด้วย

การไม่มีข้อมูล GPS Tracking ที่เชื่อมต่อกับระบบขนส่ง อาจทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถต่อภาษีได้อย่างราบรื่น และที่จริงแล้ว การใช้ GPS Tracking ทำให้ธุรกิจต่อภาษีรถ “ง่ายขึ้นและไม่พลาด” ด้วย 

บทความคาร์แทรคจะพาไปรู้จักการต่อภาษีรถ ขั้นตอนต่าง ๆ พร้อมเคล็ดลับการใช้ GPS Tracking ว่าการทำงานของมันจะช่วยธุรกิจจัดการต่อภาษีรถได้ง่ายและมีประสิทธิภาพด้วยได้อย่างไร

บทความตอนนี้ชวนคุยเรื่อง:

  • เข้าใจเรื่องการต่อภาษีรถและความสำคัญ
  • พ.ร.บ. รถ มีความสำคัญยังไง ซื้อที่ไหน?
  • จะเกิดอะไรขึ้น หากลืมต่อภาษีรถ? พร้อมวิธีแก้ไข
  • ต่อภาษีรถต่อเนื่อง ต่อรวดเร็ว ไม่โดนปรับ ใช้รถไม่สะดุด ด้วย GPS Tracking
  • ขั้นตอนต่อภาษีรถแบบออนไลน์ 2568

ทำความเข้าใจเรื่องการต่อภาษีและความสำคัญ

การต่อภาษีรถ เป็นหน้าที่ที่เจ้าของรถจะต้องทำทุกปี โดยจะมาพร้อมกับ การต่อ พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ซึ่งถ้าไม่มี พ.ร.บ. จะไม่สามารถชำระภาษีรถหรือต่อภาษีรถได้ และอาจเจอค่าปรับไม่เกิน 10,000 บาทด้วย

พ.ร.บ. รถ มีความสำคัญยังไง ซื้อที่ไหน?

พ.ร.บ. มีประโยชน์หรือความสำคัญยังไง? พ.ร.บ. ย่อมาจาก พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ เป็นประกันภัยภาคบังคับที่รถทุกคันต้องมี 

พ.ร.บ. รถ มีเพื่อคุ้มครองผู้ประสบภัยจากอุบัติเหตุทางรถ ไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร หรือผู้เดินเท้า ที่ได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุ แต่ไม่คุ้มครองค่าเสียหายของรถหรือสิ่งของที่เสียหายจากอุบัติเหตุ

ความคุ้มครอง ของ พ.ร.บ. รถ มีดังนี้: 

  1. ค่ารักษาพยาบาล
    คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ประสบภัยที่ได้รับบาดเจ็บ วงเงินสูงสุดไม่เกิน 80,000 บาทต่อคน
  2. ค่าชดเชยรายวัน ในกรณีพักรักษาตัวในโรงพยาบาล
    วันละ 200 บาท สูงสุดไม่เกิน 20 วัน รวมเป็นเงิน 4,000 บาท
  3. ค่าสินไหม กรณีเสียชีวิต/สูญเสียอวัยวะ/ทุพพลภาพถาวร
    วงเงินคุ้มครองสูงสุด 500,000 บาทต่อคน
  4. ความคุ้มครองเบื้องต้นไม่ต้องรอพิสูจน์ความผิด หรือเราเป็นฝ่ายผิด
    วงเงินค่ารักษาพยาบาล 30,000 บาทต่อคน และค่าสินไหมกรณีเสียชีวิตหรือสูญเสียอวัยวะ 35,000 บาทต่อคน

เพราะชีวิตคนต้องมาก่อน เจ้าของรถจึงต้องจัดการเรื่อง พ.ร.บ. รถ ให้เสร็จเรียบร้อยก่อนแล้วค่อยต่อภาษี โดยเราสามารถซื้อ พ.ร.บ. รถ ได้ที่กรมการขนส่งทางบกโดยตรงได้เลย 

หรือซื้อตามร้านสะดวกซื้อดัง หรือซื้อจากบริษัทประกันที่สำนักงานหรือผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งพ.ร.บ. มีราคาตั้งแต่หลักร้อยเป็นต้นไป ขึ้นอยู่กับประเภทของรถ 

จะเกิดอะไรขึ้น หากลืมต่อภาษีรถ?

การต่อภาษีรถจะต้องทำปีต่อปี หากลืมต่ออายุจะเกิดผลกระทบทั้งทางกฎหมายและค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ดังนี้

  1. เจอค่าปรับจากกรมการขนส่งทางบก  
    หากเกินกำหนดชำระภาษี เจ้าของรถจะถูกปรับ 1% ของค่าภาษีต่อเดือน นับจากวันที่หมดอายุ และยิ่งนานเข้า ค่าปรับจะยิ่งสะสมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
  2. ผิดกฎหมายจราจร
    แน่นอนว่า ผิดกฎของกรมขนส่ง ฯ แล้ว ก็จะผิดกฎหมายจราจรด้วย หากนำรถที่ไม่ได้ต่อภาษีออกมาขับขี่ เพราะถือเป็นการขับขี่รถที่ไม่ได้จดทะเบียนหรือไม่สมบูรณ์ จับได้มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท
  3. รถของคุณจะถูกระงับทะเบียน
    ทะเบียนรถจะถูกระงับโดยอัตโนมัติ หากไม่ชำระภาษีติดต่อกันเกิน 3 ปี และต้องดำเนินการขอจดทะเบียนใหม่ ซึ่งมีขั้นตอนยุ่งยากและค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
  4. พ.ร.บ. จะสิ้นสุดผลบังคับ
    หากภาษีรถหมดอายุ พ.ร.บ. รถที่เป็นประกันภาคบังคับก็จะหมดอายุไปด้วย ดังนั้น หากเกิดอุบัติเหตุจะไม่สามารถเรียกร้องค่ารักษาพยาบาลจาก พ.ร.บ. ได้
  5. มีแนวโน้มที่ประกันเอกชนหรือภาคสมัครใจจะปฏิเสธความคุ้มครอง
    บางบริษัทประกันภัยที่เป็นประกันที่เจ้าของรถซื้อเองเพิ่มเติมอาจปฏิเสธการจ่ายค่าสินไหม หากพบว่ารถไม่ได้ต่อภาษีหรือ พ.ร.บ. รถสิ้นสุดอายุ
Cartrack GPS Tracking ที่เชื่อมต่อกับระบบขนส่ง

วิธีแก้ หากลืมหรือขาดการต่อภาษีรถ

  1. นำรถไปตรวจสภาพรถที่สถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) โดยเป็นข้อบังคับของรถที่ขาดต่อภาษีเกิน 1 ปี
  2. ต่อ พ.ร.บ. ใหม่ เพื่อสามารถดำเนินการต่อภาษีต่อไปได้
  3. รีบชำระภาษีทันทีเมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนข้างต้น ที่กรมการขนส่งทางบก สำนักงานขนส่งทั่วประเทศ หรือช่องทางออนไลน์ 

ต่อภาษีรถต่อเนื่อง ต่อรวดเร็ว ไม่โดนปรับ ใช้รถไม่สะดุด ด้วย GPS Tracking 

GPS Tracking ทำงานอย่างไรในการต่อภาษีรถ? ระบบติดตามรถและจัดการยานพาหนะแบบอัจฉริยะ Cartrack มี “ผู้ดูแลระบบ” ฟีเจอร์ผู้ช่วยอัตโนมัติในระบบติดตามรถ โดยผู้ใช้งาน Cartrack เข้าไปที่หน้าฟลีทจัดการยานพาหนะ แล้วเลือก “ผู้ดูแลระบบ” และเลือก “การเตือนความจำ”

เจ้าของรถสามารถตั้งค่าแจ้งเตือนตัวเองให้ต่อภาษีรถสำหรับยานพาหนะทั้งหมด ยานพาหนะเฉพาะกลุ่ม หรือยานพาหนะคันใดคันหนึ่งก็ได้ ต้องต่อวันไหน แจ้งเตือนก่อนกี่วัน หรือหยุดแจ้งเตือนเมื่อถึงวันไหน แค่นี้เจ้าของรถหรือผู้จัดการยานพาหนะ ก็ไม่พลาดการต่อภาษีรถ ไม่ว่าจะมีรถมากมายแค่ไหน

GPS Tracking ของ Cartrack ติดตามข้อมูลรถเรื่องอะไรบ้างให้ผู้ใช้งาน?

1. ตำแหน่งและการติดตามเส้นทาง (Real-time Location & Route Monitoring) 

  • แสดงตำแหน่งปัจจุบันของรถบนแผนที่ เวลาจอดรถและระยะเวลาเดินทาง  
  • บันทึกและแสดงเส้นทางการเดินรถย้อนหลัง  
  • แจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกเส้นทางที่กำหนด เข้าหรือออกพื้นที่ที่ติดตามเป็นพิเศษ (Geofence)

2. ความเร็วและพฤติกรรมการขับขี่ (Speed & Driving Behavior Monitoring)

  • ตรวจจับความเร็วที่รถวิ่ง  
  • แจ้งเตือนเมื่อขับเร็วเกินกำหนด  
  • วิเคราะห์พฤติกรรมการขับขี่ เช่น การเบรกกะทันหัน หรือการเลี้ยวกะทันหัน  
  • ปรับปรุงประสิทธิภาพการจัดการเส้นทางแบบอัตโนมัติ

3. การใช้เครื่องยนต์และข้อมูลสถานะรถ (Vehicle Diagnostics & Status)

  • ตรวจสอบระดับน้ำมันเชื้อเพลิง  
  • แจ้งเตือนเมื่อเครื่องยนต์มีปัญหา หรือเริ่มมีสภาวะไม่สมบูรณ์ตามเกณฑ์ที่เจ้าของรถกำหนด 
  • ตรวจสอบอุณหภูมิและสถานะระบบต่าง ๆ ของรถ  

4. การป้องกันการโจรกรรม (Anti-theft & Security)  

  • แจ้งเตือนเมื่อมีการเคลื่อนย้ายรถโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งแบบติดและไม่ติดเครื่องยนต์
  • ระบบสั่งดับเครื่องยนต์ ตัดสตาร์ทรถได้จากระยะไกล 
  • ประสานงานเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือกู้ภัย

5. การจัดการด้านการบำรุงรักษา (Maintenance Scheduling)

  • เตือนการซ่อมบำรุงตามรอบปี เดือน ตามระยะเวลาที่กำหนดเอง หรือตามการใช้งาน
  • บันทึกประวัติการบำรุงรักษารถ  
  • เตือนการต่อภาษี ประกัน หรือการดำเนินงานทางกฎหมายต่าง ๆ

6. การรายงานและวิเคราะห์ (Reporting & Analytics) 

  • สรุปรายงานการเดินทางของรถ การใช้งานน้ำมัน และพฤติกรรมขับขี่  
  • วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการขนส่ง ให้ทำงานได้เร็วขึ้น ลดข้อผิดพลาด และลดต้นทุนการทำงาน

ขั้นตอนต่อภาษีรถแบบออนไลน์ 2568

การต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ในปี 2568 สามารถทำได้สะดวกผ่านหลายช่องทาง ดังนี้

ผ่านเว็บไซต์กรมการขนส่งทางบก (e-Service)

  1. เข้าสู่เว็บไซต์: https://eservice.dlt.go.th/ โดยต้องเข้าสู่ระบบผ่าน Digital ID หรือแอปพลิเคชัน Thai D เท่านั้น
  2. ลงทะเบียนสมาชิกใหม่: กรอกข้อมูลส่วนตัวและบันทึก
  3. เข้าสู่ระบบ: ด้วยบัญชีที่ลงทะเบียน
  4. เลือกเมนู "ชำระภาษีรถประจำปี" จากนั้นเลือก "ชำระภาษีรถประจำปีผ่านอินเทอร์เน็ต"
  5. ลงทะเบียนรถ: กรอกข้อมูลรถและบันทึก
  6. ยื่นชำระภาษี: ตรวจสอบข้อมูลรถและกรอกสถานที่จัดส่งเอกสาร
  7. เลือกวิธีการชำระเงิน: มีหลายช่องทางให้เลือก
  8. ยืนยันการชำระเงิน: หลังจากชำระเงินสำเร็จ จะได้รับใบเสร็จและป้ายภาษีส่งถึงที่อยู่ที่ระบุในระบบ ทางไปรษณีย์ภายในประมาณ 5 วันทำการ

ผ่านแอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax Plus

  1. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ผ่านระบบ iOS และ Android
  2. ลงทะเบียน: กรอกข้อมูลติดต่อและยืนยันด้วยรหัส OTP
  3. เข้าสู่ระบบ: ด้วยรหัสผ่านที่ตั้งไว้
  4. เลือก "ชำระภาษีรถ": กรอกรายละเอียดรถและข้อมูล พ.ร.บ.
  5. เลือกวิธีการชำระเงิน: และยืนยันการชำระเงิน
  6. รอรับเอกสาร: ใบเสร็จและป้ายภาษีจะถูกส่งถึงที่อยู่ที่ระบุไว้

ผ่านแอปพลิเคชัน mPay หรือ TrueMoney Wallet

  1. ดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชัน mPay หรือ TrueMoney Wallet ผ่านระบบ iOS และ Android
  2. ลงทะเบียนหรือเข้าสู่ระบบ: หากยังไม่มีบัญชี ให้ลงทะเบียนด้วยหมายเลขโทรศัพท์และข้อมูลส่วนตัว หรือหากมีบัญชีแล้ว ให้เข้าสู่ระบบด้วยข้อมูลที่ได้ลงทะเบียนไว้
  3. เติมเงินเข้าสู่บัญชี mPay: โดยสามารถเติมเงินผ่านการโอนจากบัญชีธนาคาร หรือช่องทางอื่น ๆ ที่แอปพลิเคชันรองรับ
  4. เลือกเมนู "ชำระบิล" หรือ "Pay Bill": ค้นหาและเลือก "กรมการขนส่งทางบก" หรือ "ชำระภาษีรถยนต์"
  5. กรอกรายละเอียดข้อมูลรถยนต์: หมายเลขทะเบียนรถ รหัสประจำตัวประชาชนของเจ้าของรถ ข้อมูล พ.ร.บ. (หากมี)
  6. ตรวจสอบข้อมูลและยืนยันการชำระเงิน: ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลทั้งหมด ยืนยันการชำระเงิน และรอรับการยืนยัน
  7. รอรับเอกสาร: ป้ายภาษีและใบเสร็จรับเงินจะถูกจัดส่งไปยังที่อยู่ที่ระบุไว้ภายใน 5 วันทำการ

หมายเหตุ:

  • รถอายุเกิน 7 ปี ต้องตรวจสภาพรถที่สถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ก่อนดำเนินการต่อภาษีออนไลน์
  • รถอายุไม่เกิน 7 ปี สามารถต่อภาษีออนไลน์ได้โดยไม่ต้องตรวจสภาพรถ
  • การชำระภาษีล่วงหน้า สามารถทำได้ล่วงหน้า 90 วันก่อนวันครบกำหนดชำระภาษี
  • ขั้นตอนการต่อภาษีออนไลน์แต่ละช่องทางอาจมีรายละเอียดที่เปลี่ยนแปลงได้ เนื่องจากการอัปเดตหน้าเว็บไซต์หรือระบบดิจิทัลนั้น ๆ

Cartrack GPS Tracking ช่วยแจ้งเตือนต่อภาษีรถ กับ dlt

เพื่อนคู่ใจต่อภาษีรถ ต้องจีพีเอสของ Cartrack

ต่อภาษีรถบรรทุก รถขนส่ง หรือรถยนต์ สำหรับใช้งานในธุรกิจของคุณได้ง่าย ด้วย GPS ติดตามรถ แค่ติดตั้งระบบ GPS ติดรถบรรทุก Cartrack ติดแล้ว ออกใบรับรองการติดตั้ง GPS ได้ทันที 

หรือหากทำเอกสารใบรับรองเดิมหาย หาเอกสารไม่เจอ ก็สามารถขอเอกสารได้อัตโนมัติผ่าน LINE ของ Cartrack Thailand ได้ตลอด 24 ชม. ด้วย 

ธุรกิจมีรถใช้งานที่ต่อภาษีรถเป็นประจำต้องการขอใบเสนอราคา-ขอข้อมูลระบบ Cartrack โทรเข้ามาได้ที่ 021362920 หรือ 021362921 ในวันจันทร์ถึงศุกร์ ตั้งแต่เวลา 8.30 - 17.30 น. 

คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับ GPS Tracking

ถาม: “GPS Tracking มีประโยชน์จริงไหมหรือเป็นแค่คำโฆษณา?”

ตอบ: GPS Tracking มีประโยชน์จริง ส่วนประโยชน์จะเป็นแค่คำโฆษณาหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราเลือกผู้ให้บริการ GPS Tracking ที่เชื่อถือไว้ใจได้หรือไม่ หรือนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้อย่างเหมาะสมหรือไม่

ทั้งนี้ ประโยชน์ของ GPS Tracking ขึ้นอยู่กับการใช้งานและความต้องการของผู้ใช้ โดยข้อดีที่เห็นได้ชัดมีดังนี้

  1. ติดตามยานพาหนะ: ช่วยติดตามตำแหน่งของรถแบบเรียลไทม์ และปรับเส้นทางการเดินทางเพื่อลดเวลาและค่าใช้จ่าย  
  2. จัดการทรัพย์สิน: ช่วยป้องกันการสูญหายของทรัพย์สิน เช่น รถเช่า หรือเครื่องจักร แจ้งเตือนหากมีการเคลื่อนที่โดยไม่ได้รับอนุญาต  
  3. สร้างความปลอดภัย: ใช้ติดตามบุคคลที่อยู่ในยานพาหนะคันนั้น ๆ เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ หรือสัตว์เลี้ยง และช่วยในกรณีฉุกเฉิน โดยสามารถระบุพิกัดผ่านระบบติดตามได้ 
  4. เก็บข้อมูลเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ: โดยเฉพาะสำหรับธุรกิจ สามารถวิเคราะห์ข้อมูลเส้นทาง การหยุดพัก และระยะเวลาเดินทาง ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการขนส่งหรือจัดการทีมงานฝ่ายปฏิบัติงาน  
  5. ประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่าย: ติดตามช่วยลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงและการซ่อมบำรุงที่ไม่จำเป็น เลือกเส้นทางที่ดีที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงรถติดและความล่าช้าอื่น ๆ ที่หลีกเลี่ยงได้

ถาม: “กล่อง GPS Tracking ที่ใช้ติดตั้งในรถมีขนาดเท่าไร”

ตอบ: กล่องอุปกรณ์ GPS Tracking ของ Cartrack มีขนาด 10.1 x 4.8 x 1.8 ซม. โดยเทคโนโลยีของ Cartrack ทำให้กล่อง GPS ติดตามรถขนาดเล็ก กะทัดรัด เข้ากับรถและยานพาหนะทุกประเภท

ถาม: “GPS ติดรถส่งของหรือรถขนส่ง ต้องติดประเภทเดียวกับ GPS รถบรรทุกไหม”

ตอบ: ติด GPS แบบไหน ต้องขึ้นอยู่กับประเภทของรถคันนั้น ๆ ถ้าเป็น GPS ติดรถขนส่ง แบบรถกระบะหรือรถตู้ ยังไม่จำเป็นต้องใช้แบบเชื่อมข้อมูลถึงกรมขนส่ง ฯ 

แต่ถ้าเป็นรถบรรทุกขนาดใหญ่ 10 ล้อขึ้นไป ต้องติด GPS ที่เชื่อมกับกรมขนส่ง ฯ โดยจะมีเครื่องรูดใบขับขี่ และระบบ GPS ต้องตรวจจับการใช้ความเร็วและพฤติกรรมการขับขี่ได้ด้วย

จำไม่ได้ว่าต้องต่อภาษีรถตอนไหน โดนค่าปรับแบบไม่จำเป็นบ่อยๆ? เชื่อไหมแค่ใช้ GPS Tracking ธุรกิจก็ต่อภาษีรถได้ “ง่ายขึ้นและไม่พลาด” แล้ว เจ้าของธุรกิจต้องอ่าน