BLOGS

กล้องหน้ารถ ติดไว้ ใช้เรียกค่าขาดประโยชน์ได้จริง!

สนใจใช้งาน GPS ติดรถ Cartrack วันนี้ ปรึกษาฟรี!

ฉันเป็น / ...
จำนวนยานพาหนะของคุณ
ขอบคุณค่ะ เจ้าหน้าที่คาร์แทรคจะติดต่อกลับหาคุณโดยเร็วที่สุด
Oops! Something went wrong while submitting the form.

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า กล้องหน้ารถ กลายเป็นอุปกรณ์ยอดฮิตที่ไม่ว่ารถคันไหนก็ต้องติด ด้วยความนิยมในการใช้รถใช้ถนนที่เพิ่มสูงขึ้นในปัจจุบัน รวมถึงข่าวตามโทรทัศน์และหน้าหนังสือพิมพ์ในทุกวันนี้ บอกได้เลยว่า รถคันที่ติดกล้องหน้ารถย่อมได้เปรียบกว่ารถที่ยังไม่ติด ทั้งในแง่ของการใช้เป็นหลักฐานเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ รวมถึงประโยชน์อีกมากมายที่กล้องบันทึกหน้ารถมอบให้คุณได้

บทความคาร์แทรควันนี้ จะพาผู้อ่านไปติดตามกันว่าภาพจากกล้องหน้ารถมีประโยชน์อย่างไรบ้าง และสำหรับใครที่ยังลังเลว่าควรจะหากล้องมาติดรถไว้ดีหรือไม่ บทความนี้จะให้คำตอบที่ชัดเจนกับคุณได้อย่างแน่นอน

บทความตอนนี้ชวนคุยเรื่อง:

  • กล้องหน้ารถ รูปแบบที่ได้รับความนิยม อัปเดต 2025
  • รู้หรือไม่ ภาพจากกล้องหน้ารถ ใช้เป็นหลักฐานสำหรับเรียกค่าขาดประโยชน์ได้
  • กล้องหน้ารถ ยังมีประโยชน์ด้านใดอีกบ้าง
  • กล้องติดรถ CARTRACK ทำได้มากกว่าบันทึกภาพ

กล้องหน้ารถ รูปแบบที่ได้รับความนิยม อัปเดต 2025

ก่อนจะไปรู้จักกับประโยชน์ของกล้องติดรถ รู้หรือไม่ว่ารูปแบบของกล้องที่สามารถติดตั้งกับยานพาหนะได้นั้น ไม่ได้มีเพียงกล้องติดหน้ารถเท่านั้น แต่ยังมีกล้องระบบ AI หรือ AI Camera ที่สามารถติดตั้งได้ตามจุดต่าง ๆ ของรถ ซึ่งรูปแบบที่นิยมใช้กันในทุกวันนี้มีมากถึง 4 รูปแบบเลยทีเดียว ดังนี้

1. กล้องส่องถนน แบบมุมมองเดียว (Road Vision)

Road Vision เป็นรูปแบบกล้องบันทึกหน้ารถที่บันทึกภาพด้านหน้ารถ พูดให้เห็นภาพก็คือ เราจะเห็นภาพจากกล้องเหมือนกับมุมมองที่คนขับรถมองเห็นถนนนั่นเอง 

โดยกล้องลักษณะนี้นิยมติดตั้งภายในห้องโดยสาร ให้ทั้งภาพและเสียง เหมาะสำหรับรถทุกประเภท ทั้งรถยนต์ รถเช่าขนาดเล็ก ไปจนถึงรถขนาดใหญ่อย่างรถบรรทุก รถเทรลเลอร์ รถขนส่งที่มีตู้คอนเทนเนอร์ เป็นต้น

โดยมีจุดประสงค์หลักคือเพื่อเก็บภาพระหว่างการขับขี่ หากเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ บนถนน หรือมีอุบัติเหตุไม่คาดคิด ภาพจากกล้องนี้จะช่วยยืนยันความบริสุทธิ์ของคนขับได้

รวมถึงกล้องหน้ารถโดยผู้ให้บริการบางเจ้า อาจมีฟังก์ชันที่สามารถดูภาพออนไลน์ได้ จึงทำให้คุณเห็นเหตุการณ์เรียลไทม์ไปพร้อม ๆ กับคนขับรถเลย

2. กล้องส่องถนนและห้องโดยสาร แบบ 2 มุมมอง (Dual Vision)

สำหรับ Dual Vision จะเป็นกล้องที่ให้ภาพแบบ 2 มุมมอง คือด้านหน้ารถและภายในห้องโดยสาร มีลักษณะการบันทึกภาพและคุณสมบัติใกล้เคียงกับ Road Viosion

แต่แตกต่างตรงที่กล้อง Dual Vision สามารถบันทึกภาพได้ยาวนานสูงถึง 20 ชั่วโมง และเก็บภาพได้ทั้งมุมมองถนนและภาพของคนขับรถคันนั้น ๆ อีกด้วย และยังบันทึกได้ทั้งภาพและเสียง

สำหรับกล้อง Dual Vision ของ Cartrack ยังมีระบบ Night Version ที่สามารถมองเห็นใบหน้าของคนขับได้ชัดเจนในช่วงเวลากลางคืนอีกด้วย

3. กล้องหลายมุมมอง (Multi Vision)

มาต่อกันที่กล้อง Multi Vision เป็นกล้องที่บันทึกภาพได้มากถึง 4 มุมมอง เก็บทั้งภาพและเสียง กล้อง 4 ตัวนี้สามารถติดตั้งได้ทั้งภายนอกและภายในรถ บันทึกภาพได้นานสูงถึง 42-83 ชั่วโมง โดยกล้องแต่ละตัวจะมีช่วงเวลาที่บันทึกภาพได้แตกต่างกัน

Multi Vision เหมาะสำหรับติดตั้งกับรถบรรทุกขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ ใช้เป็นกล้องติดรถบรรทุก รถเทรลเลอร์ รถขนส่ง รถพ่วง ฯลฯ สามารถทำงานร่วมกับเซนเซอร์พิเศษ เช่น เซนเซอร์วัดระดับน้ำมัน หรือเซนเซอร์ประตูได้ สำหรับเก็บภาพตรงจุดที่เป็นมุมอับสายตาของรถ ทั้งถังน้ำมัน หรือด้านในตู้คอนเทนเนอร์

4. กล้อง AI แบบหลายมุมมอง (AI Multi Vision)

มาต่อกันที่อีกรูปแบบของ AI Camera กล้องติดรถอัจฉริยะ AI Multi Vision ติดตั้งกล้องเพื่อเก็บภาพได้มากสูงสุดถึง 8 ตัว ทั้งด้านหน้ารถ ห้องโดยสาร และด้านนอกตัวรถ บันทึกภาพได้ตั้งแต่ 82 - 328 ชั่วโมง และเก็บได้ทั้งภาพและเสียงเช่นเดียวกัน โดยผู้ดูแลระบบสามารถดูภาพจากกล้องออนไลน์แบบเรียลไทม์ได้เลย

ความพิเศษของกล้อง AI Multi Vision คือกล้องจะสามารถตรวจจับพฤติกรรมที่เป็นอันตรายของคนขับขณะขับขี่ได้ โดยกล้องจะส่งเสียงแจ้งเตือนในห้องโดยสารทันที เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุตามมา

โดยพฤติกรรมที่กล้อง AI สามารถตรวจจับได้ เช่น หาว ตาปรือ การยกโทรศัพท์ขึ้นมาเล่น สูบบุหรี่ การไม่คาดเข็มขัดนิรภัย การนำวัตถุหรือผ้ามาคลุมที่เลนส์กล้อง หรือแม้กระทั่งเอามือตัวเองมาบังเลนส์กล้อง

ทั้ง 4 รูปแบบนี้คือประเภทของกล้องที่นิยมติดตั้งกันมากขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งหากผู้อ่านอ่านมาถึงตรงนี้และรู้สึกสนใจ ทาง Cartrack เราก็มีบริการติดตั้งกล้องติดรถ พร้อมระบบ GPS ในตัว สามารถโทรสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมด้วยตนเองได้ที่หมายเลข 02-136-2920, 02-136-2921 ในวันจันทร์ถึงศุกร์ ระหว่างเวลา 8.30 - 17.30 น. หรือกรอกฟอร์มที่ด้านบนก็ได้

ประโยชน์ของการติดตั้ง กล้องหน้ารถ Cartrack

รู้หรือไม่ ภาพจากกล้องหน้ารถ ใช้เป็นหลักฐานสำหรับเรียกค่าขาดประโยชน์ได้

สำหรับผู้ใช้รถ แม้ว่าจะมีประสบการณ์ในการใช้งานมาอย่างยาวนานหรือไม่ก็ตาม แต่หลายคนอาจยังไม่เคยรู้มาก่อนว่าภาพจากกล้องหน้ารถ สามารถนำมาใช้เป็นหลักฐานในการเรียกประโยชน์ต่าง ๆ ได้หากเกิดอุบัติเหตุและเราเป็นฝ่ายถูก

ยิ่งถ้าเป็นกรณีที่เกิดอุบัติเหตุรุนแรง จนรถของคุณไม่สามารถใช้งานได้ ทำให้คุณต้องเสียประโยชน์ในระหว่างที่ต้องนำรถเข้าซ่อมที่ศูนย์บริการหรืออู่ คุณสามารถนำหลักฐานภาพจากกล้องติดรถไปใช้เรียก “ค่าขาดประโยชน์” ได้

ค่าขาดประโยชน์คืออะไร

ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ คือ เงินชดเชยหรือสินไหมทดแทนจากอุบัติเหตุรถชน ที่ฝ่ายถูกชนสามารถเรียกร้องจากคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิดได้ ถือเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ระหว่างที่ฝ่ายถูกชนต้องนำรถเข้าซ่อมแซม

โดยผู้ที่ต้องรับผิดชอบค่าขาดประโยชน์ก็คือ บริษัทประกันภัยของคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิด แต่หากคู่กรณีไม่ได้ทำประกันไว้ ฝ่ายผู้เสียหายก็สามารถเรียกร้องจากคู่กรณีได้โดยตรง

สำหรับอัตราค่าขาดประโยชน์ขั้นต่ำที่สามารถเรียกร้องได้ กำหนดโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ซึ่งได้บังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2562 ดังนี้

  1. รถยนต์ส่วนบุคคล ไม่เกิน 7 ที่นั่ง รวมคนขับ เคลมได้อย่างน้อย 500 บาท/จำนวนวันที่รถซ่อม
  2. รถยนต์รับจ้างสาธารณะ ไม่เกิน 7 ที่นั่ง รวมคนขับ เคลมได้อย่างน้อย 700 บาท/จำนวนวันที่รถซ่อม
  3. รถขนาดมากกว่า 7 ที่นั่ง เคลมได้อย่างน้อยวันละ 1,000 บาท/จำนวนวันที่รถซ่อม
  4. รถประเภทอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ข้อ 1-3 เช่น รถจักรยานยนต์ ให้เป็นไปตามข้อเรียกร้องและข้อตกลงกันได้ โดยพิจารณาหลักฐานเป็นกรณี

หากบริษัทประกันรถของฝ่ายผิด หรือคู่กรณีที่ไม่มีประกันรถ จ่ายค่าขาดประโยชน์ให้น้อยกว่าอัตราขั้นต่ำที่กำหนดไว้ หรือไม่จ่าย จะถือว่าเข้าข่ายความผิดฐานประวิงสินไหม ซึ่งผู้ที่โดนชนสามารถแจ้งความดำเนินคดีต่อไปได้

เงื่อนไขในการเรียกร้องค่าขาดประโยชน์ มีดังนี้

  • ต้องเป็นฝ่ายถูกในอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น
  • ผู้ขับขี่รถที่เกิดอุบัติเหตุต้องมีใบอนุญาตขับขี่ยานพาหนะอย่างถูกต้อง
  • คู่กรณีเป็นยานพาหนะทางบก (รถยนต์/มอเตอร์ไซค์/รถบรรทุก)
  • รถที่ต้องการเรียกค่าขาดประโยชน์จะต้องมีการทำประกันรถไว้อย่างถูกต้อง (เป็นรถของคนอื่นได้ และประกันชั้นใดก็ได้)

เอกสารที่ใช้ในการเรียกค่าขาดประโยชน์ มีดังนี้

  1. ใบรับรองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทรัพย์สิน หรือ ใบเคลม
  2. ใบที่ระบุรายการความเสียหายของรถที่เกิดอุบัติเหตุ พร้อมรูปถ่ายตอนส่งรถซ่อมและตอนซ่อมรถ
  3. ใบนำรถยนต์เข้าซ่อม – ใบรับรถยนต์
  4. สำเนาการจดทะเบียนรถ หรือ สำเนาเล่มทะเบียนรถ
  5. สำเนาบัตรประชาชน หรือสำเนาใบขับขี่
  6. สำเนากรมธรรม์ประกันภัยรถ
  7. หนังสือเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ
  8. สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคาร (กรณีโอนค่าขาดประโยชน์ฯ เข้าบัญชี)
  9. เอกสารประกอบการใช้รถยนต์แต่ละวัน (ถ้ามี)
  10. ใบเสร็จค่าเช่ารถ (ถ้ามี)

แม้ว่าภาพจากกล้องหน้ารถจะไม่ได้อยู่ในรายการเอกสารที่ใช้เรียกร้องค่าขาดประโยชน์ในการใช้รถ แต่กล้องหน้ารถก็ยังถือเป็นประโยชน์อยู่ดี หากเราเจอคู่กรณีที่บ่ายเบี่ยง ไม่ยอมจ่ายค่าเสียหายตามที่ตกลงไว้ 

ดังนั้นเพื่อความอุ่นใจในการขับขี่และประโยชน์สูงสุดของคุณ คาร์แทรค (Cartrack) ก็ขอแนะนำให้หากล้องมาติดตั้งกันไว้ดีกว่า

กล้องหน้ารถ ยังมีประโยชน์ด้านใดอีกบ้าง

นอกจากเรื่องของการเรียกร้องค่าเสียหายแล้ว กล้องเหล่านี้ยังมีคุณสมบัติเหมือนเป็นกล้องวงจรปิดติดรถ ซึ่งมอบประโยชน์ที่คุณคาดไม่ถึงได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น

  • ใช้เป็นหลักฐาน: พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของคนขับกับคู่กรณี หรือบริษัทประกัน เพื่อจะได้ไม่ต้องจ่ายชดเชยค่าเสียหาย หากคนขับไม่ได้ทำผิดจริง

  • บันทึกภาพพฤติกรรมคนขับรถ: กรณีที่คนขับมีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น ขับกระชาก ใช้ความเร็วเกินกำหนด ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ฯลฯ สามารถนำภาพจากกล้องมาใช้ประกอบการอบรมคนขับรายบุคคล หรือการอบรมภายในองค์กร เพื่อตักเตือนและปรับปรุงพฤติกรรมเหล่านั้นให้ดีขึ้นได้

  • เป็นหูเป็นตา: การติดตั้งกล้องในจุดบอดหรือมุมอับสายตาให้กับรถที่มีขนาดใหญ่ จะช่วยให้เราเห็นความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นกับรถได้ เช่น หากพนักงานขับรถ โกงน้ำมัน ลักลอบดูดน้ำมันออกจากถัง หรือมีการนำรถไปใช้งานส่วนตัว นอกเหนือจากการทำงาน

  • ลดค่าใช้จ่ายแฝงให้ธุรกิจ: การมีภาพจากกล้องติดรถไว้ใช้ปรับปรุงพฤติกรรมของพนักงาน หรือลดความเสี่ยงในการทุจริต ก็ย่อมช่วยให้ค่าใช้แฝงที่เราอาจไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีนั้นลดลง เช่น ค่าปรับจากการทำผิดกฎจราจร ค่าน้ำมัน ค่าซ่อมบำรุง

กล้องติดรถ รูปแบบต่าง ๆ ติดตั้งโดย Cartrack

กล้องติดรถ Cartrack ทำได้มากกว่าบันทึกภาพ

หากยังไม่แน่ใจว่ากล้องติดรถยี่ห้อไหนดีที่สุด ตอบโจทย์การใช้งาน และที่สำคัญคือคุ้มราคา จ่ายง่ายสบายกระเป๋า กล้องติดรถของ Cartrack เรามีระบบ Telematics ทำหน้าที่เหมือนเป็นกล้อง GPS ติดรถไปในตัว มีกล้องหลากหลายรูปแบบให้คุณเลือกติดตั้งตามความต้องการใช้งาน

เลือกติดตั้งเฉพาะกล้องหน้ารถส่องถนน หรือถ้าต้องการเก็บภาพมุมอื่น ๆ ของรถ เช่น บริเวณถังน้ำมัน ด้านในตู้คอนเทนเนอร์ ต้องการกล้องหลังติดรถบรรทุก ฯลฯ ก็สามารถติดตั้งเซนเซอร์เฉพาะทางอื่น ๆ เพื่อใช้งานร่วมกันได้ เช่น เซนเซอร์น้ำมันเชื้อเพลิง เซนเซอร์ประตู เซนเซอร์วัดอุณหภูมิ เป็นต้น

สนใจอุปกรณ์ GPS ติดตามรถหรือกล้องติดรถ สอบถามและ ทดลองใช้ฟรี กรอกรายละเอียดได้เลย หรือต้องการติดต่อหาเรา โทร 02-136-2920, 02-136-2921 ในวันจันทร์ถึงศุกร์ ระหว่างเวลา 8.30 - 17.30 น. คาร์แทรคยินดีให้บริการ

คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับ กล้องหน้ารถ

ถาม: “สามารถนำกล้องติดรถไปใช้เป็นกล้องวงจรปิดในบ้านหรือสำนักงานได้ไหม”

ตอบ: เนื่องจากกล้องติดรถ (Fleet Camera) ของ Cartrack ได้รับการออกแบบมาสำหรับการติดตั้งเพื่อใช้งานกับรถโดยเฉพาะ สำหรับติดตามตำแหน่งรถ ไปพร้อม ๆ กับการจับภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายในรถและด้านนอก เช่น ถนน ด้านหลังรถ 

ดังนั้นเพื่อให้กล้องใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แนะนำให้ติดตั้งให้ถูกวัตถุประสงค์การใช้งานจะดีกว่า

ถาม: “ถ้าติดกล้องหน้ารถ เพื่อติดตามพฤติกรรมคนขับรถ จะเสี่ยงถูกถอดออกง่ายไหม”

ตอบ: แม้ว่ากล้องหน้ารถจะติดตั้งในตำแหน่งที่สังเกตเห็นได้ชัดเจน แต่รับรองได้เลยว่ากล้องติดหน้ารถ Cartrack จะไม่ถูกถอดออกอย่างง่ายดายแน่นอน เพราะเรามีระบบจัดการกล้อง ให้คุณสามารถดูภาพผ่านกล้องแบบออนไลน์ได้ แม้จะอยู่ห่างจากตัวรถหลายร้อยหลายพันกิโลก็ตาม

รวมถึงกล้องบางรูปแบบ เช่น กล้อง AI Multi Vision ยังมีฟังก์ชันแจ้งเตือนหากมีการพยายามปิดบังหน้ากล้อง คุณจึงรู้ความเคลื่อนไหว หรือความผิดปกติที่เกิดขึ้นได้ทันที

ถาม: “กล้องหน้ารถที่ติดตั้งภายในห้องคนขับจะเสื่อมสภาพง่ายหรือไม่ หากจำเป็นต้องจอดรถกลางแจ้งเป็นเวลานาน”

ตอบ: กล้องติดรถภายในและภายนอกของ Cartrack ทำจากวัสดุที่มีความทนทานสูง ทนต่อแรงกระแทกสูง ดังนั้นคุณภาพของวัสดุย่อมมีการเสื่อมสภาพต่างกัน ขึ้นอยู่กับการใช้งาน 

โดยเฉพาะการจอดรถกลางแจ้งที่อาจมีการสะสมความร้อนสูงภายในตัวรถ อุณหภูมิที่สูงนี้ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อการเสื่อมสภาพของอุปกรณ์กล้องที่ติดตั้งภายในรถเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อวัสดุต่าง ๆ ของตัวรถอีกด้วย 

ดังนั้น หากต้องการรักษาสภาพของรถและอุปกรณ์ในรถ ควรหลีกเลี่ยงการจอดรถกลางแจ้งหรือกลางแดดเป็นเวลานาน หรือมีผ้าคลุมบังแดดก็จะช่วยได้

ติดตาม Cartrack (คาร์แทรค) เพิ่มเติมได้ที่

Facebook: Cartrack Thailand

Instagram: @cartrack.thailand

LINE: https://page.line.me/udi4517q?openQrModal=true หรือเข้าแอปฯ LINE เลือกเพิ่มเพื่อน เลือกค้นหา พิมพ์ @udi4517q ที่ ID และแอดเพื่อคุยสอบถามข้อมูลได้ทันที

กล้องหน้ารถ อุปกรณ์สำคัญที่ควรมีติดรถ ใช้เป็นหลักฐานบันทึกภาพเมื่อเกิดอุบัติเหตุ และยังใช้เรียกค่าขาดประโยชน์ได้ด้วย คนมีรถควรเลือกติดกล้องหน้ารถให้ไว