BLOGS

รู้ทันโจรก่อนใคร! 7 เทคนิคป้องกันขโมยน้ำมัน ที่ธุรกิจมีรถควรรู้

สนใจใช้งาน GPS ติดรถ Cartrack วันนี้ ปรึกษาฟรี!

ฉันเป็น / ...
จำนวนยานพาหนะของคุณ
ขอบคุณค่ะ เจ้าหน้าที่คาร์แทรคจะติดต่อกลับหาคุณโดยเร็วที่สุด
Oops! Something went wrong while submitting the form.

ขโมยน้ำมัน เป็นปัญหาหลักที่สร้างความหนักใจให้กับผู้จัดการยานพาหนะและเจ้าของธุรกิจ ยิ่งด้วยสถานการณ์ค่าน้ำมันเชื้อเพลิงแพงขึ้น น้ำมันรถยิ่งกลายเป็นสินค้ามูลค่าสูงในตลาดค้าน้ำมันเถื่อนที่กระจายตัวอยู่ทั่วประเทศ

อย่างไรก็ดี การขโมยน้ำมันไม่ใช่ปัญหาที่แก้ไขไม่ได้ คาร์แทรคในฐานะผู้ให้บริการระบบจัดการน้ำมัน และเซนเซอร์น้ำมัน จึงขอชวนคุณมาดู 7 วิธี ป้องกันการขโมยน้ำมันที่ใช้ได้ผลจริงสำหรับธุรกิจมีรถและโลจิสติกส์กัน

ผลกระทบของการขโมยน้ำมัน ที่ธุรกิจมีรถเจอ

การขโมยน้ำมันส่งผลกระทบอย่างมากต่อธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจที่มีการใช้งานยานพาหนะเป็นขั้นตอนหนึ่งของการทำงาน อาจเกิดปัญหาที่ส่งผลเสียหายต่าง ๆ อาทิ

  1. สูญเสียทางการเงิน: ส่งผลต่อกำไรโดยรวมของบริษัท
  2. การปฏิบัติงานหยุดชะงัก: ยานพาหนะใช้งานไม่ได้ ทำให้เกิดความล่าช้าในการจัดส่ง
  3. ความเสียหายต่อยานพาหนะ ที่เพิ่มค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา: เช่น ถังน้ำมันถูกเจาะ หรือมีการดัดแปลงอื่น ๆ
  4. ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย: การเปลี่ยนแปลงชิ้นส่วนสำคัญของยานพาหนะแบบไม่ถูกต้อง อาจส่งผลต่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่และผู้ใช้รถคนอื่น ๆ บนท้องถนน และหากผู้ขับขี่ไม่ทราบถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นและยังคงใช้งานรถต่อไป ก็จะเป็นอันตรายได้

โดยรวมแล้ว การลักขโมยน้ำมันก่อให้เกิดผลกระทบในหลายด้าน ไม่เพียงแต่ทางธุรกิจ แต่ยังรวมถึงอันตรายต่อความปลอดภัยด้วย

สัญญาณอะไรที่บอกว่า คุณกำลังถูกขโมยน้ำมัน ?

เมื่อพูดถึง “ขโมย” คนที่ทำก็น่าจะเรียกว่า “อาชญากร” แต่เหตุขโมยน้ำมันส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้น ไม่ได้มีต้นเหตุเป็นโจรที่ไหน แต่อาจเป็น “พนักงาน” ของคุณเอง

ไม่ว่าจะเป็นการดูดน้ำมันออกจากถังน้ำมันของรถ หรือการเติมน้ำมันจริงน้อยกว่าน้ำมันตามค่าใช้จ่ายหรือการโกงบัตรน้ำมัน หรือฟลีตการ์ด (Fleet Card)

ซึ่งปัญหานี้เป็นช่องว่างที่ถูกมองข้ามไปเพราะเราไม่สามารถวัดปริมาณน้ำมันในถังได้ แล้วคุณจะรู้ได้อย่างไรว่า ธุรกิจของคุณกำลังถูกขโมยน้ำมันอยู่?

สัญญาณเตือนว่า คุณเสี่ยงถูกขโมยน้ำมันอยู่!

  • ระดับน้ำมันลดลงอย่างรวดเร็ว: น้ำมันหมดเร็วผิดปกติ โดยหาสาเหตุไม่ได้
  • บันทึกการเติมน้ำมันไม่ตรงกับความเป็นจริง: ข้อมูลการเติมน้ำมันกับการใช้งานจริงเริ่มไม่ตรงกัน
  • ค่าน้ำมันสูงผิดปกติ: ค่าใช้จ่ายน้ำมันต่อวัน ต่อสัปดาห์ ต่อเดือน ฯลฯ เริ่มสูงขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ
  • พบร่องรอยงัดถังน้ำมันหรือฝาปิด: ซึ่งไม่ใช่รอยที่ช่างซ่อมรถทำไว้
  • อัตราการเผาผลาญน้ำมันเปลี่ยนแปลง: ปริมาณน้ำมันที่ใช้ต่อระยะทางที่ขับขี่เปลี่ยนแปลงผิดปกติ
  • เส้นทางการขับขี่เปลี่ยนแปลงโดยไม่มีสาเหตุ: มีการขับรถไปเส้นทางที่ไม่ได้รับอนุมัติหรือเส้นทางแปลก ๆ
  • พนักงานขับรถมีการใช้งานรถนอกเวลาทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต

สัญญาณเตือนว่า คุณเสี่ยงถูกขโมยน้ำมันอยู่

วิธีการขโมยน้ำมันที่พบบ่อย มีอะไรบ้าง ?

วิธีการขโมยน้ำมันรถ มีหลากหลายรูปแบบ นอกจากการดูดน้ำมันแบบดั้งเดิม ที่โจรใช้ท่อพลาสติกดูดน้ำมันจากรถใช้งานไปใส่แกลลอนน้ำมันแล้ว ยังมีวิธีการอื่น ๆ ที่นิยมใช้กันอีก เช่น

  • เจาะถังน้ำมัน: โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถบริษัทที่จอดที่ลานจอดข้ามคืน วิธีนี้โจรจะสามารถขโมยน้ำมันได้เร็วและปริมาณมาก และทำให้รถเสียหายซึ่งมักมีค่าซ่อมราคาแพงตามมาด้วย
  • ทำลายฝาถังน้ำมันและสายน้ำมัน: โจรงัดฝาถังน้ำมันหรือตัดสายน้ำมันเพื่อเข้าถึงน้ำมันภายในถัง
  • ใช้บัตรเติมน้ำมันผิดประเภท: พนักงานใช้บัตรเติมน้ำมันรถของบริษัท เพื่อเติมรถส่วนตัวหรือเติมให้รถคนอื่นหรือครอบครัว ซึ่งส่งผลให้เกิดธุรกรรมในบัตรเติมน้ำมันที่ไม่ได้รับอนุญาต 
    หรือพนักงานปั๊มน้ำมันอาจรูดบัตรเติมน้ำมันซ้ำ ทำให้เกิดธุรกรรมซ้ำซ้อนและเสียค่าเติมน้ำมันเพิ่มขึ้น
  • โคลนนิ่งบัตรเติมน้ำมัน: หรือเรียกกันติดปากว่า การโคลนบัตร ซึ่งใช้วิธีเดียวกับการโคลนบัตรเครดิต บัตรเติมน้ำมันก็สามารถถูกโคลนได้ 
    หากไม่ตรวจสอบธุรกรรมเป็นประจำหรือธนาคารตรวจจับได้ ก็อาจจะถูกใช้เงินในระบบไปเรียบร้อยแล้ว
  • เข้าถึงจุดเติมน้ำมันแบบผิดกฎหมาย: บางกรณี โจรอาจเข้าถึงจุดเติมน้ำมันแบบผิดกฎหมายเพื่อดูดน้ำมันจำนวนมาก เทคนิคนี้มักพบในธุรกิจที่มีจุดเติมน้ำมันภายในองค์กรเอง หรืออุตสาหกรรมน้ำมันและเชื้อเพลิง

7 เทคนิคเพิ่มกำไรธุรกิจ ด้วยวิธีปกป้องรถจากการขโมยน้ำมันและลดการใช้น้ำมันเกิน

การดูแลน้ำมันรถให้ปลอดภัยและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำมัน เป็นองค์ประกอบสำคัญในการบริหารรถใช้งานให้คุ้มค่าหรือมีประสิทธิภาพ 

เทคนิคทั้ง 7 ข้อต่อไปนี้จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าจะพิชิต 2 เป้าหมายสำคัญที่ว่านี้ได้สำเร็จแน่นอน

เทคนิค 1: อัปเดตระบบติดตามที่ใช้งานอยู่

อัปเดตหรือลงทุนในระบบติดตามรถที่สามารถติดตามการใช้น้ำมันและเส้นทางการเคลื่อนที่ของรถได้แบบสด ๆ หรือเรียลไทม์ 

เพราะระบบติดตามรถประเภทนี้ จะจับความผิดปกติในการใช้น้ำมันได้ทันที ช่วยให้คุณหรือผู้ดูแลการใช้รถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ทัน ณ เหตุการณ์นั้น ซึ่งลดต้นทุนน้ำมันที่สูญเสียและประหยัดต้นทุนได้จริง

เทคนิค 2: ใช้ถังน้ำมันที่แข็งแกร่งทนทานหรือปรับปรุงถังน้ำมันให้แข็งแรง

ใช้ระบบล็อกที่แข็งแรง ล็อกถังน้ำมันเพื่อป้องกันขโมยน้ำมัน ไม่ให้สามารถเจาะตัวถังได้ง่าย ๆ

รวมถึงฝาถัง ไม่ให้เปิดออกได้ง่าย เพื่อป้องกันการแอบเปิดฝาเพื่อสูบน้ำมันออกจากถัง ซึ่งเป็นวิธีที่ขโมยน้ำมันมักใช้มากที่สุด

เทคนิค 3: ตรวจสอบสม่ำเสมอ

ตรวจสอบการใช้น้ำมันอย่างละเอียดเป็นประจำ การตรวจพบความผิดปกติตั้งแต่ช่วงแรก ช่วยให้สามารถแก้ไขปัญหาการขโมยน้ำมันที่อาจเกิดขึ้นก่อนบานปลายได้

เทคนิค 4: ให้ความรู้ที่ถูกต้องกับพนักงานขับรถ

สร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องแก่พนักงานขับรถเกี่ยวกับการขับขี่ที่ประหยัดน้ำมัน เช่น การรักษาความเร็วคงที่ ลดเวลาการเดินเบา และวางแผนเส้นทางที่ดีที่สุดเพื่อลดการใช้น้ำมัน 

โดยผู้จัดการจะต้องเข้าถึงข้อมูลการขับขี่ได้ง่าย เช่น ผ่านรายงานพฤติกรรมการขับขี่ ที่มาจากระบบติดตามรถ 

ซึ่งระบบติดตามและจัดการรถของ Cartrack ช่วยเก็บข้อมูลและประมวลผลออกมาเป็นสรุปข้อมูล ที่จำเป็นต่อการฝึกอบรมการขับขี่ที่ปลอดภัยให้กับพนักงานขับรถได้

เทคนิค 5: ใช้ระบบติดตามน้ำมัน

ใช้ระบบหรือซอฟต์แวร์ GPS ติดตามน้ำมัน ที่ใช้งานง่ายและที่สามารถใช้ร่วมกับระบบติดตามรถได้ เพราะจะช่วยให้ติดตามระดับน้ำมันและติดตามตัวรถได้ในเวลาเดียวกัน สามารถระบุการใช้รถและความผิดปกติของน้ำมันรถได้อย่างรวดเร็ว

เทคนิค 6: ติดกล้องวงจรปิด

ติดตั้งกล้องวงจรปิดที่มองเห็นได้ชัดเจนที่จุดจอดรถ หรือจุดเติมน้ำมันของบริษัท (สำหรับบริษัทที่มีจุดเติมน้ำมันภายในของตัวเอง) 

กล้องเหล่านี้ไม่เพียงแต่ทำหน้าที่ป้องกันการโจรกรรมเท่านั้น แต่ยังใช้เป็นหลักฐานชัดเจนหากเกิดกรณีดังกล่าวด้วย

หรือเลือกติดตั้งกล้องวงจรปิดติดรถ ซึ่งทุกวันนี้ได้มีการพัฒนาให้สามารถติดตั้งที่จุดบอดของตัวรถ หรือมุมอื่น ๆ นอกเหนือจากภาพมุมมองถนนและห้องโดยสารได้แล้ว ช่วยให้คุณติดตามผลได้ชัดเจนหากมีใครมายุ่งกับถังน้ำมัน

เทคนิค 7: กำหนดกฎกติกาที่ชัดเจน

สร้างกฎกติกาการใช้น้ำมันที่ชัดเจนและโปร่งใสสำหรับบริษัทและบังคับใช้อย่างจริงจังและเป็นทางการ เช่น ขั้นตอนการใช้บัตรเติมน้ำมัน วิธีการเติมน้ำมัน เวลาเติมน้ำมัน สถานที่เติมน้ำมัน และการรายงานเหตุผิดปกติว่าจะเกิดขึ้นได้อย่างไรอย่างชัดเจน 

เพื่อส่งเสริมความตระหนักรู้ในการทำงานและความโปร่งใส และการแสดงออกชัดเจนถึงนโยบายบริษัทที่ไม่ส่งเสริมพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้องหรือการขโมยด้วย

เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น เมื่อประหยัดน้ำมันได้สำเร็จ ?

น้ำมันทุกหยดที่สูญเสียไปจากการขโมย ไม่เพียงแค่เป็นความสูญเสียทางการเงินเท่านั้น แต่ยังเป็นค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมรถที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย ซึ่งมักมีราคาแพงกว่ามูลค่าของน้ำมันที่ถูกขโมยไปเสียอีก

หากธุรกิจตระหนักถึงประโยชน์ต่าง ๆ ของการป้องกันการขโมยน้ำมัน จะช่วยให้ธุรกิจสามารถยกระดับประสิทธิภาพการทำงานและความปลอดภัยไว้ได้ดังนี้

  • ค่าใช้จ่ายที่ประหยัดได้มากขึ้น: การจัดการน้ำมันอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันและป้องกันการใช้น้ำมันโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่งผลให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้อย่างมากในระยะยาว
  • เพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน: การติดตามการใช้น้ำมันอย่างใกล้ชิด ช่วยให้คุณปรับปรุงเส้นทาง ลดเวลารถจอดแช่ติดเครื่อง และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของรถใช้งานโดยรวม นำไปสู่ผลลัพธ์การทำงานที่ดีขึ้นและการจัดส่งที่ตรงเวลา
  • เพิ่มประสิทธิภาพการบำรุงรักษา: การจัดการน้ำมันอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยส่งเสริมการบำรุงรักษารถอย่างเหมาะสม ทำให้รถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและลดโอกาสการเกิดเหตุขัดข้องที่ไม่คาดคิด
  • สร้างวัฒนธรรมการมีความรับผิดชอบ: การนำมาตรการป้องกันการขโมยน้ำมันมาใช้ ช่วยส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งความรับผิดชอบในหมู่พนักงานขับรถและบุคลากรแผนกอื่น ๆ ทั้งหมด ส่งเสริมพฤติกรรมที่รับผิดชอบการกระทำของตัวเองและลดพฤติกรรมการทุจริต
  • ปฏิบัติตามกฎระเบียบ: การมีระบบบันทึกน้ำมันที่ถูกต้องและป้องกันความผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน ช่วยให้คุณปฏิบัติตามกฎระเบียบของอุตสาหกรรมและพื้นที่ที่ตั้งองค์กร และลดความเสี่ยงการเกิดปัญหาทางกฎหมายได้
  • สร้างความยั่งยืนทางพลังงาน: การจัดการน้ำมันอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ที่เกิดจากการใช้น้ำมันมากเกินไปและสูญเปล่า
  • ‍เพิ่มความปลอดภัยของรถใช้งาน: การป้องกันการขโมยน้ำมัน ไม่เพียงแต่ช่วยปกป้องเงินของคุณเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้รถใช้งานของคุณอีกด้วย ทำให้มั่นใจในความปลอดภัยของทั้งรถและพนักงานขับรถของคุณ
ระบบจัดการน้ำมัน Cartrack ช่วยตรวจสอบหากน้ำมันหมดเร็วผิดปกติ

ระบบจัดการรถ Cartrack: วิธีควบคุมการทุจริตน้ำมันที่เห็นผลจริง

Cartrack คือผู้ให้บริการระบบติดตามรถ GPS เซนเซอร์น้ำมัน และกล้องติดรถ ซึ่งมีคุณสมบัติในการวิเคราะห์ข้อมูลระดับโลก เราเชี่ยวชาญด้านการจัดการการใช้งานสินทรัพย์เคลื่อนที่ได้ เช่น รถ เครื่องจักร ตู้คอนเทนเนอร์ การกู้คืนจากการสูญหายหรือโจรกรรม และการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน ด้วยการตรวจสอบพฤติกรรมของผู้ขับขี่ 

ข้อมูลที่ได้จากการจัดการ สามารถนำมาวิเคราะห์ต้นทุน ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนค่าดำเนินงาน น้ำมันเชื้อเพลิง หรือแม้แต่ค่าใช้จ่ายยิบย่อยเล็กน้อยทั่วไป ที่รวมกันแล้วเป็นต้นทุนก้อนที่มีมูลค่า ระบบ Cartrack ก็สามารถบันทึกและนำมาคำนวณได้อย่างไม่ขาดตกหล่น

รวมถึงระบบตรวจสอบต้นทุน MiFleet เป็นระบบติดตามและตรวจสอบขั้นสูงในระบบจัดการรถของ Cartrack ที่ช่วยให้ธุรกิจทราบถึงค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เกี่ยวกับรถอย่างแม่นยำ เช่น ค่าผ่านทางด่วน วันที่ต่ออายุใบอนุญาตการบำรุงรักษา และที่สำคัญที่สุดคือ ค่าน้ำมัน

MiFleet ตรวจสอบธุรกรรมน้ำมันทั้งหมดแทนคนได้โดยอัตโนมัติ จับคู่ใบเสร็จค่าน้ำมันกับข้อมูลของรถ และเน้นย้ำพื้นที่ที่อาจมีการลักขโมยน้ำมัน หรือขายน้ำมันเถื่อน

ผู้จัดการหรือผู้ดูแลรถสามารถนำเข้าข้อมูลธุรกรรมน้ำมัน ตั้งค่าระดับความเสี่ยงด้านน้ำมัน และอัปเดตค่าน้ำมันทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย ช่วยป้องกันการสิ้นเปลืองค่าน้ำมันและประหยัดค่าใช้จ่ายรอบด้านด้วย

นอกเหนือจาก MiFleet แล้ว Cartrack ยังมีโซลูชันป้องกันน้ำมันหลากหลายที่ช่วยระบุสัญญาณเสี่ยงขโมยน้ำมันและหยุดพฤติกรรมดังกล่าวได้ ดังนี้

  1. ระบุพฤติกรรมขโมยน้ำมัน: Cartrack เข้าถึงรายงานการเดินทางพร้อมข้อมูลเซนเซอร์น้ำมัน ช่วยยืนยันพฤติกรรมน่าสงสัยใด ๆ เกี่ยวกับการดูดน้ำมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  1. มองเห็นภาพรวมการใช้น้ำมัน: ด้วยระบบตรวจสอบน้ำมันที่ครอบคลุมของ Cartrack คุณสามารถติดตามการใช้น้ำมันแบบเรียลไทม์ของรถทุกคันได้อย่างง่ายดายและชัดเจน

    การมองเห็นที่ชัดเจนนี้ช่วยระบุการเปลี่ยนแปลงระดับน้ำมันที่กะทันหันหรือผิดปกติได้อย่างรวดเร็ว ส่งสัญญาณเตือนภัยสำหรับการลักขโมยน้ำมันหรือการใช้ผิดประเภทที่อาจเกิดขึ้น
  1. ลดการสิ้นเปลืองน้ำมัน: ระบบตรวจสอบขั้นสูงของ Cartrack ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการใช้น้ำมันต่อกิโลเมตรที่เดินทางและต่องานที่เสร็จสมบูรณ์ของพนักงานขับรถและยานพาหนะทุกคัน ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ช่วยระบุพื้นที่ที่มีลักษณะการใช้งานรถที่น่าสงสัย ช่วยป้องกันการสิ้นเปลืองน้ำมันได้อย่างรวดเร็ว
  1. ติดตามพฤติกรรมผู้ขับขี่: เทคโนโลยีล้ำสมัยของ Cartrack ช่วยติดตามพฤติกรรมของผู้ขับขี่ได้อย่างใกล้ชิด เช่น ความเร็วในการขับขี่ การเบรกกะทันหัน และการจอดแช่ติดเครื่องเป็นเวลานาน ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนส่งผลต่อการสิ้นเปลืองน้ำมัน
  2. ติดตามรถได้ครบทุกคัน: การใช้คุณสมบัติการติดตาม GPS ของ Cartrack ช่วยติดตามตำแหน่งที่แน่นอนของรถทุกคันได้อย่างง่ายดาย

ฟังก์ชันที่มีประสิทธิภาพเหล่านี้ช่วยตรวจจับการใช้งานยานพาหนะโดยไม่ได้รับอนุญาตได้ทันที จนสามารถป้องกันการขโมยน้ำมันและการใช้งานโดยไม่ได้รับอนุญาตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ดูแลน้ำมันรถทุกหยดให้ปลอดภัย ด้วยระบบจัดการน้ำมัน Cartrack

ไม่ว่าธุรกิจของคุณจะเป็นธุรกิจขนส่งโลจิสติกส์โดยตรง หรือขนส่งเป็นส่วนหนึ่งของงานคุณ หรือสนใจสอบถามเกี่ยวกับระบบติดตามการใช้น้ำมันและรถเพื่อลดต้นทุน โทรได้ที่ 021362920 , 021362921 ในวันจันทร์-ศุกร์ เวลาทำการ หรือคลิกที่นี่เพื่อกรอกข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ Cartrack ติดต่อกลับโดยเร็วที่สุด

7 วิธี ป้องกันการขโมยน้ำมัน ใช้ได้ผลจริง ดูดน้ำมันออกจากรถ น้ำมันหมดเร็วผิดปกติ การทุจริตน้ำมันในธุรกิจมีรถ จบปัญหาพนักงานขับรถ โกงน้ำมันด้วยเทคนิคเหล่านี้