เชื่อว่าหลายๆคงเคยหงุดหงิดใจกับการตามหาสิ่งต่างๆไม่เจอ โดยเฉพาะของสำคัญที่มีขนาดเล็ก เช่นกุญแจบ้าน หรือรีโมทโทรทัศน์จนหลายๆ คนถึงขั้นเปรยว่าจะเอาไปมันติดกับมือถือเวลาหาไม่เจอจะได้โทรเข้าเสียเลย แต่ในบางครั้งของที่หายไปนั้นก็ไม่ได้หายเพราะการตั้งทิ้งไว้จนลืม แต่เกิดจากการโจรกรรมหรือ จากการเดินออกไปแล้วกลับเองไม่ได้ของสัตว์เลี้ยง เด็ก หรือผู้สูงอายุ ซึ่งการตามนั้นยากยิ่งกว่า เพราะเราไม่สามารถทราบตำแหน่งได้ ปัจจุบันจึงมีการนำเอาเทคโนโลยี GPS มาใช้เพื่อการบอกตําแหน่งของวัตถุ , ค้นหาตำแหน่ง และยังสามารถใช้ติดตามวัตถุได้อีกด้วย
สำหรับการทำงานของ GPS เพื่อการบอกตําแหน่งของวัตถุ , ค้นหาตำแหน่งนั้น ในปัจจุบันมักออกแบบมาให้ทำงานคู่กับ แอปลิเคชันใน Smartphone โดยเชื่อมต่อผ่านระบบ Bluetooth หรือ WiFi เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน เพราะทุกวันนี้ทุกๆคนล้วนมีSmartphone ที่ต่ออินเตอร์เน็ตและ GPS ได้กันแทบทุกคนแล้ว ทำให้สามารถตรวจเช็คตำแหน่งหรือติดตามวัตถุได้ด้วยการใช้แค่ปลายนิ้วสัมผัส
ซึ่งหลักการทำงานและปัจจัยที่ทำให้ GPS ทำงานเพื่อการบอกตําแหน่งของวัตถุ , ค้นหาตำแหน่งได้นั้นมีดังนี้
ซึ่งเป็นการหาตำแหน่งโดยใช้ดาวเทียมในอวกาศ เป็นจุดอ้างอิง ซึ่งจำเป็นต้องใช้ดาวเทียม4ดวงขึ้นไปคอยส่งสัญญาณและวัดระยะแล้วนำมาคำนวณรวมกันเพื่อหาตำแหน่งของวัตถุเพื่อให้ได้ความแม่นยำสูงสุด และใช้หลักการทางเรขาคณิตในการคำนวณหาตำแหน่งบนพื้นโลก
การวัดระยะทางทำได้โดยดาวเทียมนั้นจะส่งสัญญาณเป็นคลื่นวิทยุเดินทางเข้าสู่เครื่องรับสัญญาณGPS ตรวจวัดระยะเวลาเดินทางของเคลื่นวิทยุก่อนจะคำนวณเป็นระยะทางออกมาโดยใช้สูตร “ ระยะทาง = ความเร็ว * เวลาที่ใช้เดินทาง” (คลื่นวิทยุเดินทางด้วยความเร็ว 186,000 ไมล์ต่อนาที)
การวัดระยะเวลาที่คลื่นวิทยุใช้ในการเดินทางของ GPS จะต้องใช้นาฬิกาที่แม่นยำสูงมาก เพื่อป้องกันความคลาดเคลื่อนที่อาจจะเกิดขึ้นได้หากวัดระยะวัตถุที่เคลื่นที่ด้วยความเร็วสูง ในการวัดเวลาจะทำโดยตรวจสอบระยะเวลาเดินทางของคลื่นสัญญาณจากดาวเทียม และเทียบกับระยะเวลาของมาจากเครื่องรับ GPS โดยใช้ Atomic clock หรือนาฬิกาอะตอมที่มีความแม่นยำสูงเพื่อคอยวัดเวลา
ดาวเทียม GPS เป็นดาวเทียมที่มีวงโคจรระดับกลาง อยู่สูงจากพื้นโลกประมาณ 20,000กิโลเมตร โดยจะโคจรรอบโลกด้วยเวลา 4-8 ชั่วโมงต่อหนึ่งรอบ ที่ความเร็ว 4 กิโลเมตร/วินาที แต่บางครั้งวงโคจรของดางเทียมก็อาจจะคลาดเคลื่อนได้เนื่องจากแรงโน้มถ่วงของดวงจันทร์และดวงอาทิตย์ที่ดึงดูดดาวเทียมไป จึงได้มีการตั้งสถานีควบคุมเพื่อคอยใช้เรดาร์ตรวจสอบการโคจรของดาวเทียม GPS ตลอดเวลา และเมื่อพบว่าดาวเทียมนั้นโคจรคลาดเคลื่อนไปจากเดิมก็จะส่งคำสั่งเพื่อไปปรับแก้ข้อมูลวงโคจรและเวลาของดาวเทียมใหม่ให้ถูกต้องตลอดเวลา
เมื่อนำหลักการทำงานทั้งหมดทำงานเข้าด้วยกันก็จะสามารถทำให้ GPS บอกตำแหน่งของวัตถุต่างๆได้อย่างแม่นยำ ซึ่งการบอกตําแหน่งของวัตถุ , ค้นหาตำแหน่งนั้นของGPS นั้นสามารถนำมาประยุกตใช้ได้มากมายเช่น
ปัจจุบัน เครื่องGPS ได้พัฒนาไปอย่างมากจนมีขนาดเล็กลงพกพาและติดตั้งได้ง่าย สามารถนำมาติดตั้งกับสิ่งของต่างๆ นอกจากรถยนต์ได้ เช่นจักรยาน กระเป๋าสตางค์ ห้อยเป็นพวงกุญแจ ฯลฯ ทำให้สามารถระบุตำแหน่งของสิ่งของได้เมื่อเราหาไม่เจอ หรือโดนขโมยไปแต่นอกจากติดตั้งกับสิ่งของแล้วปัจจุบันยังมีเครื่องรับ GPS สำหรับติดห้อยกับปลอกคอของสัตว์เลี้ยง เพื่อให้สำหรับตามหาสัตว์เลี้ยงที่หายไปได้โดยการเชื่อมต่อ เครื่อง GPS เข้ากับ Smartphoneของเราก็จะสามารถทำให้เราทราบพิกัดของสัตว์เลี้ยงและออกตามหาได้
และสุดท้ายที่เป็นความน่ากลัวที่สุดของพ่อบ้านทุกคนคือการที่สามารถใช้ตามหาตำแหน่งของคนได้ทำให้สามารถรู้ได้ว่าเราอยู่ที่ไหน และกำลังจะไปที่ไหน ซึ่งช่วยป้องกันปัญหาเด็ก หรือผู้สูงอายุหายตัวไป หรือพลัดหลงกันจนหาไม่เจอ แต่ในทางกลับกันก็สามารถใช้ตรวจเช็คคุณพ่อบ้านว่าหนีเที่ยวแล้วอ้างประชุมอยู่หรือไม่ได้อีกด้วย
การบอกตําแหน่งของวัตถุ , ค้นหาตำแหน่งของ เครื่องGPS สามารถนำใช้ในการกีฬาได้โดยเฉพาะการวิ่งและปั่นจักรยาน ซึ่งมีเส้นทางที่กำหนดให้นักกีฬาต้องไปตามเส้นทาง ตัวเครื่อง GPS จะสามารถบอกผู้ใช้ได้ว่าขณะนี้อยู่จุดไหนแล้วมีการออกนอกเส้นทางหรือไม่ เพราะการแข่งขันบางประเภท เช่น การวิ่งเทรลที่ต้องวิ่งเข้าป่าขึ้นเขานั้นไม่มีถนนหรือจุดสังเกตที่จะบอกได้ว่าเราวิ่งไปถึงจุดแล้ว เครื่อง GPS จึงเป็นตัวช่วยที่ดีของนักกีฬา
ข้อมูลจาก GPS จะสามารถตรวจเช็คเส้นทางของรถ ระยะเวลาที่ใช้ การใช้น้ำมัน แล้วนำข้อมูลเหล่านั้นมาประมวลผลเพื่อหาวิธีการจัดการที่ดีที่สุดและช่วลดต้นทุนค่าน้ำมันได้ นอกจากนี้ยังสามารถใช้เพื่อตรวจสอบการทำงานของพนักงานขับรถได้อีกด้วย
การบอกตําแหน่งของวัตถุ ที่แม่นยำด้วยระบบ GPS หรือการบอกวัตถุที่เราต้องการได้ เช่น มือถือที่หาย หรือ รถยนต์ที่ถูกขโมยไป ก็สามารถติดตามได้