แต่เดิมการแกะรอยสินค้าหรือการป้องกันภัยในระบบขนส่งอาจต้องใช้คน เวลา และเงินเป็นจำนวนมาก ทว่าในปัจจุบันมีนวัตกรรมในการตรวจดูพิกัดยานพาหนะที่ใช้ขนส่งสินค้าเกิดขึ้น แถมยังเป็นนวัตกรรมที่ภาคเอกชนสามารถนำไปใช้ได้อย่างสะดวกสบาย นั่นก็คือ ‘การติดตามสินค้าด้วยระบบ GPS’ หรือ GPS Tracking System เรามาทำความรู้จักมันกันสักนิดดีกว่า
ในส่วนมากนั้นการขนส่งสินค้า จะถูกขนส่งโดยรถยนต์หรือยานพาหนะต่างๆ เช่น รถบรรทุก รถตู้ รถกระบะ เครื่องบิน หรือทางเรือ โดยยานพาหนะเหล่านี้จะต้องเดินทางผ่านเส้นทางของแต่ละประเภทนั้นๆ ซึ่งอาจเกิดปัญหาหรือสิ่งไม่คาดคิดขึ้นได้เสมอ ดังนั้นการติดตามยานพาหนะที่บรรทุกสินค้านั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
โดยทั่วไปแล้ว อุปกรณ์ GPS จะมีแบบที่สามารถติดตั้งไว้ ที่ใดก็ได้ เป็นกล่องที่สามารถรับสัญญาณและส่งสัญญาณไปยังเครือข่ายเพื่อแสดงตำแหน่งได้ แต่จะมีราคาแพงและอาจใช้งานไม่สะดวก ยกตัวอย่างเช่น ต้องคอยเช็คเพื่อให้มีแบตเตอรี่พร้อมใช้งานอยู่เสมอ หรือในกรณีที่ต้องติดกับตัวสินค้า จำเป็นต้องติดตั้งและถอดออกทุกครั้งเมื่อส่งสินค้าเสร็จสิ้น
ดังนั้นการติดตามด้วยการเช็คยานพาหนะที่ขนส่ง เป็นตัวหลักในการติดตามที่ง่ายดายและรวดเร็วกว่า การติดตั้งเพียงครั้งเดียว ก็สามารถติดตามยานพาหนะได้ตลอดเวลา
อุปกรณ์ GPS ที่ติดตั้งอยู่บนพาหนะมีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภท ทั้ง 3 ประเภทนี้เชื่อมต่อกับสถานีภาคพื้นดินและดาวเทียมเหมือนกัน ต่างกันที่การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตเพื่อส่งข้อมูลไปยังสถานประกอบการ
เป็นอุปกรณ์ที่ไม่มีการทำงานผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ข้อมูลการเดินทางต่างๆ จะถูกเก็บไว้ในเครื่อง GPS พอพาหนะกลับมาถึงสถานประกอบการ ทางสถานประกอบการจะต้องนำอุปกรณ์ไปต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์เพื่อตรวจดูประวัติการเดินทางย้อนหลัง มันจึงเป็น GPS ชนิดที่ไม่สามารถบอกตำแหน่งพาหนะในเวลาจริง (real time) ได้
อุปกรณ์ชนิดนี้มีราคาถูก มีความปลอดภัยน้อยกว่าแบบอื่น จึงเหมาะกับการติดตามสินค้าทั่วๆ ไป เช่น ธุรกิจกระจายสินค้า (สายส่ง)
อุปกรณ์ GPS ที่ติดตั้งอยู่บนยานพาหนะชนิดนี้จะมี Simcard อยู่ภายในเครื่อง เมื่อสถานประกอบการต้องการทราบตำแหน่งของยานพาหนะ ก็สามารถใช้สมาร์ทโฟนสั่งให้อุปกรณ์ส่งพิกัดของพาหนะมาให้ได้ โดยสมาร์ทโฟนจะส่งคำสั่งผ่านระบบอินเตอร์เน็ต หรือผ่านทางเครือข่ายโทรศัพท์ไปยังอุปกรณ์
จากนั้นอุปกรณ์ก็จะส่งพิกัดกลับมา อาจเป็นทางอินเตอร์เน็ต หรือทาง SMS ผ่านเครือข่ายโทรศัพท์ก็ได้ อุปกรณ์แบบกึ่ง offline มีราคาปานกลาง สามารถตรวจสอบตำแหน่งพาหนะแบบ real time เหมาะกับการ Track สินค้าที่ลูกค้าอาจขอทราบเวลาที่สินค้าจะไปถึง ธุรกิจดังกล่าว เช่น ธุรกิจไปรษณีย์เอกชน
อุปกรณ์ GPS จะส่งข้อมูลไปยัง Server ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต แล้วสถานประกอบการก็สามารถใช้สมาร์ทโฟน PDA หรือคอมพิวเตอร์ PC เข้าดูตำแหน่งยานพาหนะแบบ real time ได้ตลอดเวลาผ่านระบบอินเตอร์เน็ต อุปกรณ์แบบ Online จึงเหมาะกับการติดตามสินค้าที่ต้องการความปลอดภัยในระดับสูง เช่น การขนส่งเงิน ทองคำ หรืออัญมณี
ธุรกิจหรือองค์กรใดบ้าง ที่ควรติดตั้งระบบ GPS ติดตามสินค้า หรือ GPS ติดตาม
หมายถึงธุรกิจรับจ้างนำพาสินค้าจากบริษัทหนึ่งหรือคนคนหนึ่งไปส่งให้กับอีกบริษัทหนึ่งหรือคนอีกคนหนึ่ง เช่น ธุรกิจไปรษณีย์เอกชน ธุรกิจแมสเซนเจอร์ที่รับขนส่งเอกสารด้วยมอเตอร์ไซค์ ทำให้สร้างความมั่นใจกับลูกค้าและความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ
ปัจจุบันมีหลายบริษัทที่รับขนเงินให้ธนาคาร โดยมีหน้าที่นำเงินจากธนาคารไปใส่ตู้เอทีเอ็ม นำเงินจากสาขาย่อยไปไว้ที่คลังของสาขาใหญ่ ตลอดจนรับเงินจากลูกค้ารายใหญ่ เช่น ห้างสรรพสินค้า หรือร้านสะดวกซื้อ มายังธนาคาร การติดตามสินค้าซึ่งก็คือเงิน ด้วยการใช้ระบบ GPS โดยเฉพาะอุปกรณ์แบบ Online จึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับธุรกิจชนิดนี้
เช่น บริษัทเหมืองทองคำ เหมืองเพชร ที่ต้องขนทองหรือเพชรจากเหมืองไปขึ้นรูปหรือไปเจียระไนที่โรงงานและลำเลียงออกไปยังหน้าร้านต่างๆ ของบริษัท การกำหนดเวลาด้วยความแม่นยำจะทำให้การวางแผนการดำเนินงานเป็นไปอย่างราบนรื่น
ธุรกิจกระจายสินค้าหรือที่เรียกภาษาปากว่า ธุรกิจสายส่ง คือ ธุรกิจที่รับสินค้าทั่วไปจากผู้ผลิต มาเก็บไว้ในคลังสินค้าของตน แล้วนำไปส่งให้กับห้างสรรพสินค้าหรือร้านค้าที่รับสินค้าจากธุรกิจสายส่ง ธุรกิจสายส่งสามารถใช้ระบบ GPS แบบ offline หรือ กึ่ง offline ได้
อาจดูเป็นเรื่องสิทธิส่วนบุคคล แต่ก็มีงานบางประเภท เช่น พนักงานเซล ที่จะต้องคอยเบิกเงินค่าเดินทางหรือค่าพัก ทำให้สามารถเช็คได้ว่าทุจริตหรือไม่ การอู้งาน เวลาในการพักรถที่จำเป็นต่อกฏหมายจากกรมการขนส่ง และความปลอดภัยของตัวบุคคล
ที่พบบ่อยสุดก็คงหนีไม่พ้น การลักลอบดูดน้ำมัน ซึ่งจะพบเยอะมากที่พนักงานเริ่มเบิกเงินค่าน้ำมันเกินการใช้งานหรือเจ้าของธุรกิจรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ และสามารถตรวจสอบได้อย่างถี่ถ้วนด้วยระบบรายงานจากระบบ GPS ที่ผู้ให้บริการ GPS นั้นเก็บข้อมูลไว้
ประโยชน์ที่เราจะได้รับจากการติดตามสินค้าด้วยระบบ GPS มีดังนี้
ระบบ GPS ช่วยให้ผู้ประกอบธุรกิจขนส่งสินค้า เช่น ธุรกิจไปรษณีย์เอกชน สามารถแจ้งลูกค้าได้ว่าในขณะนี้สินค้าอยู่ที่ไหนและจะถึงมือผู้รับเมื่อไหร่ เพราะ GPS สามารถแสดงตำแหน่งของพาหนะแบบ Real Time ได้ จำลองการเดินทางและคำนวณเวลาที่จะไปถึงจุดหมายได้อีกด้วย
เพราะสามารถคำนวณเวลาในการขับรถได้ จึงสามารถบริหารเวลาให้เกิดประโยชน์สูงสุด และช่วยสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าด้วยการบริการขนส่งที่รวดเร็วทันเวลา
เพราะสามารถตั้งระบบแจ้งเตือนไปยังสมาร์ทโฟน PDA หรือคอมพิวเตอร์ PC หากรถออกนอกเส้นทางหรือใช้ความเร็วเกินกว่าที่ทางบริษัทกำหนดเอาไว้ได้ สำหรับ GPS บางรุ่น สามารถทำให้ทางบริษัทได้ยินบทสนทนาภายในรถได้ด้วย
การติดตามสินค้าด้วยระบบ GPS เป็นการใช้เทคโนโลยีอวกาศในการบอกพิกัดยานพาหนะที่ใช้ขนส่งสินค้า จึงเป็นอุปกรณ์ที่เพิ่มความปลอดภัยให้กับสินค้าเป็นอย่างยิ่ง ตรงคอนเซ็ปต์ ใช้งานง่าย สะดวก ปลอดภัย ใช่เลย!
ติดตามสินค้า เป็นสิ่งจำเป็นกับธุรกิจขนส่งไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ การติดตามได้ว่าสินค้าอยู่ที่ใด ช่วยให้สร้างความมั่นใจและความปลอดภัยให้กับสินค้าเป็นอย่างมาก
