อุบัติเหตุบนท้องถนนจากการ ขับรถเร็ว คือสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดการสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของคนไทย พิสูจน์ได้จากการจัดอันดับผู้เสียชีวิตบนท้องถนนของโลกที่ประเทศไทยได้เป็นอันดับ 1 มาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2560 ในปี พ.ศ. 2560 ปีเดียวมีอัตราการสูญเสียบนท้องถนนเป็นผู้เสียชีวิต 15,256 คน และผู้บาดเจ็บ 1,002,193 คน
นับเป็นการสูญเสียทั้งทรัพยากรและค่ารักษาพยาบาลที่มิอาจประเมินค่าได้ สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุนั้นส่วนมากก็เนื่องมาจากอาการเมาสุรา อาการหลับในและการขับรถเร็ว เป็นหลัก
สาเหตุของการขับขี่ยานพาหนะอย่างรวดเร็วนั้นก็เนื่องมาจากหลายสาเหตุทั้งความเร่งรีบในชีวิตประจำวันที่ทำให้ผู้คนล้วนต้องแข่งขันกับเวลาจนต้องเพิ่มความเร็วในการขับขี่ หรือมาจากประสิทธิภาพของยวดยานพาหนะที่ดีมากขึ้น
ผู้ขับขี่หลายคนจึงเผลอเร่งความเร็วมากเกินไปจนสูญเสียการควบคุม กลายเป็นอุบัติเหตุที่ก่อให้เกิดความสูญเสียอย่างมากมาย ซึ่งหากผู้ขับรถจำเป็นต้องขับขี่รถด้วยความรวดเร็วจริง ๆ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติตนตามรายละเอียดต่อไปนี้เพื่อความปลอดภัย
แม้ว่าคุณจะเป็นผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่ด้วยความรวดเร็วมากเพียงใดก็ตาม แต่ก็จำเป็นต้องขับขี่โดยเคารพตามกฎจราจร เพราะกฎกระทรวง ฉบับที่ 6 ประกอบกับ ฉบับที่ 10 ตาม พ.ร.บ. จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มีระบุข้อกำหนดเรื่องประเภทเส้นทาง ประเภทรถยนต์ และความเร็วที่กำหนดอย่างชัดเจน เช่น รถยนต์ทั่วไปและรถจักรยานยนต์ เมื่อวิ่งในเขตกรุงเทพมหานคร เขตเมืองพัทยา และเขตเทศบาล จะต้องใช้ความเร็วไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นต้น
กฎดังกล่าวถูกออกแบบโดยคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ขับขี่รถยนต์และผู้ร่วมทางเป็นสำคัญ อย่างในกรณีที่ใกล้โรงเรียน แหล่งชุมชน หรือบริเวณทางโค้งทางแยก ก็ควรชะลอความเร็วลงเพื่อให้ง่ายต่อการควบคุมรถ และลดการเกิดเหตุไม่คาดฝันอันเนื่องมาจากรถยนต์คันอื่น ๆ หรือผู้สัญจร สัตว์ สิ่งกีดขวาง ตัดผ่านหน้ารถกะทันหัน
นอกจากนี้ควรสังเกตป้ายจราจรที่แนะนำเรื่องการจำกัดความเร็วในแต่ละบริเวณด้วย การขับรถเร็ว ด้วยความเคารพในกฎหมายจะทำให้คุณและผู้ร่วมทางทุกคนมีความปลอดภัย
สาเหตุสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่จะทำให้ผู้ขับรถเร็ว ประสบอุบัติเหตุก็คือรถยนต์ไม่อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานจนสูญเสียการควบคุมและทำให้เกิดอุบัติเหตุในที่สุด ดังนั้นผู้ขับขี่รถยนต์ที่ต้องการใช้ความเร็วควรตรวจสอบสภาพรถยนต์ให้อยู่ในสภาพดีอยู่เสมอ ทั้งน้ำมันเบรกอยู่ในระดับที่เหมาะสม สภาพยางไม่มีรอยรั่ว ดอกยางอยู่ในสภาพสมบูรณ์ไม่ปริแตกหรือมีร่องรอยเสียหาย
รวมไปถึงอุปกรณ์ที่ช่วยในการมองเห็นอย่างไฟส่องสว่างหรือที่ปัดน้ำฝน เพราะอุปกรณ์เหล่านี้ส่งผลต่อการมองเห็นและประสิทธิภาพในการขับขี่รถ ลองคิดดูว่าถ้าจำเป็นต้องเบรกกะทันหันแต่เบรกทำงานผิดพลาด จะเป็นอย่างไรคงไม่ต้องกล่าวถึง
ความพร้อมของร่างกายผู้ขับขี่มีความจำเป็นอย่างมากต่อการขับขี่รถยนต์ด้วยความเร็ว อย่างการนอนหลับน้อยที่ส่งผลต่อการรวบรวมสมาธิในระหว่างที่กำลัง ขับรถเร็ว ประสาทสั่งงานก็จะช้าตัดสินใจไม่รวดเร็ว ดังนั้นหากคุณเป็นผู้ที่ชื่นชอบการใช้ความเร็ว ก็ควรเตรียมความพร้อมของร่างกายให้ดีด้วย
การนอนหลับนอกจากจะช่วยระบบประสาทและสมองทำงานได้อย่างดีเยี่ยมแล้ว ยังเป็นการป้องกันอาการหลับในได้เป็นอย่างดีอีกด้วย อย่างไรก็ตามข้อเสียในการขับเร็วเป็นระยะเวลานาน ๆ นั้นเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายต้องตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ทั้งการมองหนทางอย่างชัดเจนว่าปลอดภัยต่อการใช้ความเร็วหรือไม่ มีสิ่งกีดขวางหรือสามารถวิ่งร่วมกับผู้ร่วมทางได้อย่างปลอดภัยหรือไม่
ซึ่งการขับขี่ในลักษณะดังกล่าวเป็นระยะเวลานาน ๆ ก็จะส่งผลให้ร่างกายเกิดความเมื่อยล้าได้ ดวงตาที่ต้องสู้แสงเป็นระยะเวลานาน ๆ เองก็อาจมีอาการล้าได้ ดังนั้นจำเป็นต้องหยุดพักบ้างเป็นระยะ ๆ อาจแวะจอดพักเพื่อลดมายืดเส้นยืดสายบ้าง หรือหยุดพักในที่ปลอดภัยเพื่อหลับตาลงสักครู่ก็จะเป็นการลดความเมื่อยล้าลงไปได้มาก
นอกจากนี้ในระหว่างการขับขี่รถยนต์และยานพาหนะต่าง ๆ ด้วยความเร็ว ผู้ขับขี่ควรมีสมาธิที่การขับรถอย่างแน่วแน่ จึงไม่ควรทำกิจกรรมอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นโทรศัพท์มือถือ การเปิดดูภาพเคลื่อนไหวอย่างละคร หรือคอนเสิร์ตในระหว่างการขับรถ เพราะกิจกรรมต่าง ๆ เหล่านี้อาจดึงความสนใจของผู้ขับขี่ไป และทำให้เกิดอันตรายได้
ในกรณีที่เดินทางไปยังเส้นทางที่ไม่รู้จักควรลดระดับความเร็วลงมาให้เหมาะสม เพราะผู้ขับขี่จะไม่มีทางรู้ล่วงหน้าได้ว่าหนทางข้างหน้ามีอุปสรรคหรืออันตรายแอบแฝงอยู่หรือไม่ เช่น ทางโค้ง ทางลาดชัน หลุมบ่อ เนิน จึงยังไม่ควรเร่งความเร็วให้มากเกินไป แต่ควร ขับรถเร็ว ด้วยความมั่นใจถึงความปลอดภัยก่อน ยิ่งเป็นช่วงเวลามืดค่ำหรือมีหมอกลงยิ่งต้องเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ให้เพิ่มสูงขึ้นเป็นเท่าตัว
สภาพอากาศและช่วงเวลาล้วนมีผลต่อการขับรถทั้งสิ้น แสงแดดที่แรงส่งผลต่อดวงตา ผิวถนนที่ร้อนระอุส่งผลต่อยางรถยนต์ เวลาโพล้เพล้มืดค่ำส่งผลให้การมองเห็นแย่ลง โดยเฉพาะเมื่อเกิดฝนตกไม่ว่าจะมีปริมาณน้ำฝนมากน้อยเพียงใด มักทำให้การยึดเกาะพื้นผิวถนนของยางรถยนต์ลดลงได้ เกิดอาการรถเหินน้ำ
ดังนั้นผู้ที่ชอบ ขับรถเร็ว ควรเพิ่มความระมัดระวังในขณะฝนตกให้ดี อาจโดยเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุเมื่อต้องเบรกรถกะทันหัน หรือหากฝนตกหนักจนส่งผลให้ทัศนวิสัยแย่ลงควรขับขี่ให้ช้าลงเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคน
การขับรถเร็วอาจเป็นการกระทำที่เสี่ยงอันตรายหากผู้ขับขี่ไม่เตรียมการทั้งยานพาหนะและตัวผู้ขับขี่เองให้พร้อม ปฏิบัติตามกฎการจราจรและวินัยการจราจรอย่างเคร่งครัด หากไม่มั่นใจหรืออยู่ในพื้นที่เสี่ยงก็ควรลดระดับความเร็วให้ลดลงเพื่อเพิ่มความปลอดภัย รวมถึงการหยุดพักเพื่อผ่อนคลายความเหนื่อยล้าในระหว่างการขับรถ การกระทำต่าง ๆ เหล่านี้เป็นปัจจัยที่ช่วยให้การขับขี่รถยนต์ด้วยความเร็วเป็นไปอย่างปลอดภัยตลอดการเดินทาง
ขับรถเร็ว คือสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดการสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของคนไทย หากผู้ขับรถจำเป็นต้องขับขี่รถด้วยความรวดเร็วจริง ควรขับอย่างไร?