งานจัดการยานพาหนะหรือรถ เป็นงานที่มีรายละเอียดยิบย่อยมากงานหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทะเบียนรถ บัตรเติมน้ำมัน ใบเสร็จค่าน้ำมัน ฯลฯ ซึ่งอาจทำให้ผู้จัดการฝ่ายยานพาหนะ แทบไม่เหลือเวลาไปโฟกัสงานสำคัญด้านอื่น อย่างการช่วยทีมงานทำงานได้ดีขึ้น ดึงศักยภาพคนหรือปรับปรุงแผนช่วยการทำงานให้ง่ายขึ้น
คาร์แทรค (CARTRACK) มีคู่มือบริหารจัดการงานแบบเข้าใจง่าย ๆ รวมถึงเครื่องมือระบบจัดการยานพาหนะที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของผู้จัดการ ทีมงาน และยานพาหนะที่ดูแล ในเวลาเดียวกันมาฝาก
Telematics และ Fleet Management Systems กำลังเป็นที่นิยมและใช้งานอย่างแพร่หลายมากที่สุดในเวลานี้ เพราะตัวระบบนี้ใช้งานง่าย ใช้ได้กับธุรกิจทุกประเภทที่มียานพาหนะ และเชื่อมต่อกับระบบจัดการต้นทุนค่าใช้จ่ายของธุรกิจได้ด้วย ก่อนอื่นมาทำความรู้จักเครื่องมือช่วยการทำงานเหล่านี้กันก่อน
Fleet Management Systems คือ ระบบบริหารจัดการยานพาหนะ เป็นข้อมูลที่เก็บข้อมูลที่บันทึกได้จากยานพาหนะ การใช้งานยานพาหนะ สเปคยานพาหนะ ประวัติการบำรุงรักษาเครื่องยนต์ และเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับยานพาหนะ จะบันทึกในระบบนี้ ซึ่งผู้ใช้งานระบบจะเข้าถึงข้อมูลนี้ได้ตลอดเวลา
ขณะที่ระบบ Telematics คือ ระบบติดตามยานพาหนะที่รวบรวมข้อมูลและสื่อสารกลับไปยังผู้จัดการฝ่ายยานพาหนะได้
เมื่อสองระบบนี้ทำงานร่วมกัน มันจะจัดการข้อมูลและแสดงผลที่น่าสนใจ ที่ช่วยให้ผู้จัดการยานพาหนะหรือใครก็ตามที่ดูแลระบบ รู้ข้อมูลการใช้งานยานพาหนะและสภาพของมัน และเข้าใจในส่วนที่ต้องปรับปรุงการใช้งานหรือพัฒนาให้ดีขึ้นได้ด้วย
หากไม่มีระบบนี้ ข้อมูลเหล่านี้จะต้องใช้เวลาประมวลผลเป็นวัน สัปดาห์ หรือนานกว่านั้น แต่เมื่อเชื่อมต่อระบบนี้กับยานพาหนะแล้ว ข้อมูลจะถูกดึงและประมวลผลได้ทันทีแบบ Real-time ผู้ใช้ระบบเพียงแค่เปิดระบบดูก็จะเห็นข้อมูลที่ต้องการทุกอย่างทันที
เป้าหมายสูงสุดที่ผู้จัดการยานพาหนะต้องการจริงๆ แล้ว คือ การลดต้นทุนให้ต่ำลง เพิ่มส่วนต่างกำไร และลดความเสี่ยงอุบัติเหตุหรือความเสียหายที่เกิดจากการใช้ยานพาหนะหรือรถ ซึ่งการใช้ Fleet Management Systems จะช่วยให้:
เมื่อยานพาหนะและการใช้งานจัดการได้ทั้งหมด ผู้จัดการยานพาหนะก็จะมีเวลาวางแผนพัฒนางานสำคัญ ๆ อย่างเช่น การเพิ่มความปลอดภัยการทำงาน การยกระดับการขนส่ง การปรับปรุงการบริการลูกค้าที่เพิ่มความพึงพอใจได้มากขึ้นอีก ฯลฯ
ระบบ Fleet Management จึงไม่เพียงแค่ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานให้ดีขึ้น แต่ยังช่วยให้ทีมงานทำงานได้ดีขึ้น และเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า ทั้งหมดรวมเป็นการพัฒนาธุรกิจให้ดีขึ้นได้ทุกด้าน
ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีขึ้นของพนักงาน เกิดขึ้นได้จากการที่ผู้จัดการสามารถปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานของพนักงาน จนพนักงานทำงานได้ดีขึ้น
หลักเกณฑ์ส่วนใหญ่ที่ธุรกิจใช้วัดว่าพนักงานทำงานได้ดีขึ้น เช่น ใช้เวลาทำงานน้อยลง ขั้นตอนการทำงานลดลง ทำชิ้นงานสำเร็จได้จำนวนมากขึ้น หรือคุณภาพของงานที่ทำดีขึ้น
การตื่นนอนมาเข้างานตามเวลาและทำงานตามที่สั่ง คือ การทำงานตามมาตรฐาน แต่การทำงานที่ดีต่างหาก คือสิ่งที่จะช่วยสร้างและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานจริง ๆ เพราะพวกเขารู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของงานหรือขององค์กร
วิธีการง่าย ๆ อย่างการทำความรู้จักตัวตนของพนักงานด้วยความจริงใจ การทำให้พวกเขารู้ว่าพวกเขาและสิ่งที่พวกเขาทำมีคุณค่าต่อองค์กรมากเพียงใด เพียงทำแบบนี้อย่างจริงใจและสม่ำเสมอก็จะช่วยสร้างความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่ง และกระตุ้นให้พวกเขาอยากพัฒนาคุณภาพการทำงานมากขึ้นเพื่อองค์กร หรือจนกระทั่งเกิดความรักและภักดีต่อองค์กรเลยทีเดียว
แล้วปัจจัยอะไรบ้างที่ช่วยพนักงานรู้สึกเป็นส่วนหนึ่ง:
A. การมีเป้าหมายในการทำงาน และการรู้ความหมายของงานที่ทำ
B. การได้พัฒนาทักษะความรู้ของตัวเองจากงานที่ทำ
C. ผู้จัดการที่ใส่ใจ แสดงความเป็นมิตรให้คนเข้าหาและพูดคุยได้ง่าย ให้คำแนะนำติเตียนที่สร้างสรรค์และไม่ทำลายกำลังใจการทำงาน
D. การโฟกัสที่จุดแข็ง/ข้อดีของคนทำงาน และส่งเสริมการพัฒนาในส่วนที่ขาด
E. กิจกรรมสร้างพลังกลุ่ม (Team building)
ผู้จัดการฝ่ายยานพาหนะเข้าถึงทีมงานหรือผู้ขับขี่ที่ดูแลอยู่มากแค่ไหน ทีมงานของผู้จัดการฯ เข้าถึงตัวผู้จัดการฯ ได้ง่ายหรือไม่ ผู้จัดการฯ ช่วยเพิ่มทักษะหรือปรับการทำงานให้ทีมงานบ้างหรือเปล่า ฯลฯ
ลองทบทวนและปรับว่า การบริหารที่ทำอยู่มีประสิทธิภาพแค่ไหน และมีอะไรที่ต้องปรับเพื่อให้ดีขึ้นอีก
สภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี ควรมีความสงบสุข เป็นมิตร กระตุ้นการทำงานในเชิงบวก และไม่เคร่งเครียดอย่างไม่สร้างสรรค์หรือเต็มไปด้วยความรู้สึกลบ ๆ หรือที่พูดกันติดปากทำนองว่า ดราม่าเล่นการเมืองภายใน
ซึ่งผู้จัดการฯ มีบทบาทอย่างมากที่จะช่วยสร้างบรรยากาศดี ๆ ให้เกิดขึ้น ง่ายที่สุดคือ การปฏิบัติตาม 2 ข้อก่อนหน้านี้ ก็จะช่วยปรับสภาพแวดล้อมให้น่าทำงานมากขึ้นทีเดียว
CARTRACK หวังว่าวิธีคิดฉบับย่อจะช่วยให้ผู้จัดการหรือผู้บริหาร นำไปต่อยอดหรือแตกแขนงสู่วิธีดำเนินการของตัวเองได้
โดยที่ CARTRACK เรามีระบบ Telematics และ Fleet Management ที่ช่วยให้ผู้จัดการทำงานง่ายขึ้น ไม่ว่าจะมียานพาหนะกี่ร้อยกี่พันคัน ก็สามารถจัดการได้ง่าย ช่วยลดต้นทุนค่านำมัน ค่าจ้างผู้ขับขี่หรือคนดูแลรถ ค่าซ่อมแซมหรือค่าปรับที่ไม่จำเป็น ประหยัดเวลาและต้นทุนธุรกิจได้ในเวลาเดียว
นอกจากนี้เรายังมีบริการติดตั้งเซนเซอร์น้ำมัน เพื่อใช้งานร่วมกับกล่อง GPS ติดตามรถ หรือกล้อง AI ซึ่งเป็นกล้อง GPS ติดรถแบบ CCTV ใช้งานกับรถยนต์หรือรถบรรทุกได้ ราคาคุ้มค่า พร้อมยกระดับการทำงานให้ธุรกิจมีรถของคุณด้วยข้อมูลที่ชัดเจนและเป็นประโยชน์
หากสนใจสอบถามข้อมูล GPS รถเพิ่มเติมหรือขอใบเสนอราคา เพียงกรอกข้อมูลติดต่อของคุณที่นี่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับโดยเร็วที่สุด ในช่วงวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30 - 17.30 น.
สำหรับลูกค้าใหม่ CARTRACK! ติดตั้งวันนี้ ฟรีค่าติดตั้งและค่าอุปกรณ์กล่อง GPS จ่ายเพียงค่าบริการ พร้อมโปรโมชันพิเศษ รับเลยทันที โปรโมชันติดตั้ง GPS ติดรถยนต์ รถตู้ รถกระบะ GPS ติดตามรถบรรทุก จ่าย 10 เดือน ใช้ต่อเนื่อง 12 เดือน* (* เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด)
ติดตาม CARTRACK (คาร์แทรค) เพิ่มเติมได้ที่
Facebook: Cartrack Thailand
Instagram: @cartrack.thailand
LINE: CARTRACK GPS หรือเข้าแอปฯ LINE เลือกเพิ่มเพื่อน เลือกค้นหา พิมพ์ @udi4517q ที่ ID และแอดเพื่อคุยสอบถามข้อมูลได้ทันที

งานจัดการยานพาหนะหรือรถ เป็นงานที่ยิบย่อย ทั้งเรื่องทะเบียนรถ บัตรเติมน้ำมัน ใบเสร็จค่าน้ำมัน ฯลฯ มีเครื่องมืออะไรที่จะช่วยแบ่งเบาภาระให้ผู้จัดการฝ่ายยานพาหนะ