น้ำยาหล่อเย็น ที่ใช้ในรถยนต์ มีประโยชน์และวิธีเติมอย่างไร?

น้ำยาหล่อเย็น หรือ Coolant ในท้องตลาดทั่วไปบ้านเรา แบ่งได้หลากหลายคุณภาพและหลายราคา ส่วนประกอบหลักๆของน้ำยาหล่อเย็นเหล่านี้ จะประกอบไปด้วย น้ำ, หัวเชื้อป้องกันสนิม, สารหล่อเย็น, สี โดยที่น้ำยาหล่อเย็นที่มีราคาถูกในท้องตลาดทั่วไป จะมีส่วนผสมของ สารหล่อเย็น แค่ประมาณ 25-30% เท่านั้น ต่างจากน้ำยาหล่อเย็นที่มีราคาสูงขึ้นมาในระดับปานกลาง จะมีส่วนผสมของสารหล่อเย็นถึง 50% และ 100% ในน้ำยาหล่อเย็นที่มีราคาสูงมากๆ

ประโยชน์ของน้ำยาหล่อเย็นและสารหล่อเย็น

เครื่องยนต์ที่ทำงานต่อเนื่องเป็นเวลานานจะมีอุณหภูมิที่สูงมากจนเลยจุดเดือดเลยทีเดียว และอาจส่งผลเสียต่อเครื่องยนต์ทำให้ได้รับความเสียหายได้ ดังนั้นระบบหล่อเย็นในเครื่องยนต์จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะน้ำยาหล่อเย็นจะช่วยขยับจุดเดือดของน้ำที่ไหลเวียนอยู่ในระบบระบายความร้อน

ส่งผลให้น้ำในระบบระบายความร้อนเดือดช้าลง และยังถ่ายเทความร้อนในระบบหล่อเย็นได้รวดเร็วขึ้น ทำให้ยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์และลดการสึกหรอได้อย่างมาก รวมถึงป้องกันการเกิดตะกรันในหม้อน้ำ หรือสนิมที่อาจจะเกิดขึ้นในระบบหล่อเย็นอีกด้วย

น้ำยาหล่อเย็นมีกี่ประเภท?

รูปแบบของน้ำยาหล่อเย็นในปัจจุบันที่ใช้กันอยู่ทั่วไปมีหลักๆอยู่ 2 ชนิด คือ แบบที่ผสมแล้วพร้อมใช้งาน และแบบเข้มข้น

แบบที่ผสมแล้วพร้อมใช้งาน วิธีใช้เพียงแค่ถ่ายน้ำยาหล่อเย็นของเดิมออกจนหมด และจึงใส่น้ำยาหล่อเย็นแบบผสมเรียบร้อยเข้าไปแทนที่

ส่วนแบบเข้มข้น ผู้ใช้ต้องนำมาผสมเองกับน้ำที่อยู่ในระบบหล่อเย็นอยู่แล้ว ซึ่งต้องผสมในอัตราส่วนที่กำหนดไว้ นั้นหมายถึงไม่ควรเติมมาก หรือน้อยจนเกินไป เพราะการผสมหรือการเติมน้ำยาหล่อเย็นในอัตราส่วนที่ไม่ถูกต้องนั้น อาจจะส่งผลให้เกิดปัญหากับอุปกรณ์ ชิ้นส่วน ในระบบหล่อเย็นในระยะยาว

จำเป็นไหมที่เราต้องใช้น้ำยาหล่อเย็น?

น้ำเปล่า จะมีจุดเดือดที่ต่ำกว่า คือเดือดเร็วกว่า น้ำยาหล่อเย็น จึงระบายความร้อนขณะที่เครื่องยนต์ร้อนจัดได้ไม่ดีพอ ทำให้อาจเกิดอาการโอเวอร์ฮีท (Overheat) ของเครื่องยนต์ ซึ่งส่งผลให้เครื่องยนต์ต้องพักหรือหากฝืนอาจจะทำให้เครื่องยนต์ดับได้

เอธิลีน กไลคอล (ETHYLENE GLYCOL) ที่อยู่ในส่วนผสมของน้ำยาหล่อเย็น จะทำหน้าที่กันไม่ให้น้ำแข็งตัว จับตัวเป็นก้อนหรือตะกรัน และยกระดับจุดเดือด รวมไปถึงสารที่ช่วยกันการเกิดสนิม หรือการกัดกร่อนอีกด้วย ซึ่งน้ำในระบบระบายความร้อนเหล่านี้จะเครื่องที่ไปสัมผัสเครื่องยนต์ที่ร้อนจัด ให้เย็นลง

น้ำที่อยู่ในระบบระบายความร้อนจะต้องไปสัมผัสผิวโลหะนอกห้องเผาไหม้จะต้องรับความร้อนที่สูง และอาจเกิดการระเหย จะต้องเป็นน้ำที่สะอาด เพื่อหากเกิดการระเหย จะต้องไม่เป็นสารพิษ หรือกัดกร่อนโลหะ ซึ่งน้ำเปล่าทั่วไป อาจจะทำได้ไม่ดีพอ

ดังนั้นการใช้สารหล่อเย็นที่มีสารเอธิลีน อยู่จะช่วยให้น้ำมีจุดเดือดช้าลง กันน้ำแข็งตัว มีสารต้านการเกิดสนิม และกัดกร่อน ผสมอยู่ด้วย นอกจากนี้ยังมีสารที่ช่วยหล่อลื่นผิวที่เสียดสีกันในปั๊มน้ำของเครื่องยนต์ ช่วยเพิ่มอายุการใช้งานให้นานยิ่งขึ่น เราควรเติมสารหล่อเย็นในระดับที่เหมาะสมอยู่เสมอตามอายุการใช้งาน อยู่ที่ไม่เกิน 3 ปี หรือให้ศูนย์บริการดูแลให้คุณตามระยะ ก็จะช่วยให้คุณหมดห่วงมากขึ้น

‍