ถอยห่างอีกนิด อีกนิดนั่นแหละ.. ร้องเพลงน่ะเล่นๆ แต่ถ้าเป็นการขับรถล่ะก็ ไม่เล่นนะ ต้องห่างจริงๆ!
ระยะห่างจากรถคันหน้า คือ อะไร ทำไมผู้ขับขี่ทุกคนถึงให้ความสำคัญกับระยะห่างนี้ ?
เรามาดูสถานการณ์สมมติกัน
คุณกำลังขับรถอยู่บนถนนสายหนึ่ง คุณขับขี่ด้วยสติและมีเป้าหมายที่จะมุ่งหน้าไป ด้วยเทคนิคขับขี่ที่ปลอดภัยทั้งหมดที่คุณรู้
แต่ไม่น่าเชื่อว่า ในถนนที่เป็นทางตรงก็มีมุมในการเกิดอันตรายมากเช่นกัน เมื่อคุณหันมองกระจกหลังเพื่อดูสถานการณ์ด้านหลังรถของคุณ คุณกลับพบว่า มีรถคันหนึ่งขับอยู่ด้านหลังคุณและมันอยู่ใกล้ท้ายรถของคุณมากเหลือเกิน!
คุณเริ่มกังวลว่า ใช่.. คุณควรกังวล เพราะถ้าคุณตัดสินใจเบรกรถกระทันหัน รถคันนั้นต้องชนเข้ากับท้ายรถของคุณแน่ๆ!
ซึ่งถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริง มันก็น่าหงุดหงิดและอันตรายเสียเหลือเกิน ทำไมรถคันข้างหลังไม่เว้นระยะห่างจากรถคันหน้าเลยนะ..
..หรือว่า เขาเว้นแล้วแต่ยังไม่ปลอดภัยพอ ? ถ้าอย่างนั้น รถคันข้างหลัง ควรเว้นระยะห่าง รถคันหน้า กี่เมตร หรือเท่าไหร่ ถึงจะปลอดภัย ?
ข้อมูลจากระบบบัญชีข้อมูลด้านคมนาคม MOT Data Catalog โดยกระทรวงคมนาคม ปี พ.ศ. 2563 – มิ.ย. 2564 สรุปโดยสำนักข่าวกรุงเทพธุรกิจ ซึ่ง คาร์แทรค นำมาสรุปอีกทอดให้เข้าใจง่ายกว่าเดิม สั้นๆ คือ
ทั้งนี้จากตัวเลขของอุบัติเหตุน่าสังเกตว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ เกิดบนถนนทางตรงราบเรียบที่เรามักคิดว่า “ไม่มีอะไรน่ากลัว”
รวมถึงรูปแบบอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบ่อยถึง 1 ใน 3 ของอุบัติเหตุทั้งหมด คือ การชนท้ายรถคันข้างหน้า ด้วย ซึ่งเป็นปริมาณใกล้เคียงกับที่เกิดขึ้นในประเทศต่างๆ ทั่วโลก เช่น สหรัฐอเมริกา
หลักการขับขี่สากล ทั้งในสหรัฐฯ และประเทศต่างๆ จะมีวิธีที่เรียกว่า “กฎ 3 วินาที”
กฎ 3 วินาที หรือ Three-second rule มีความหมายคือ หากคุณขับรถตามหลังรถคันอื่นอยู่ คุณจะต้องไปถึงจุดที่รถคันหน้าของคุณอยู่ ก็ต่อเมื่อคุณนับ 3 จบ แล้ว
ตัวอย่างการนับ เช่น 1 คาร์แทรค, 2 คาร์แทรค, 3 คาร์แทรค เมื่อนับจบ 3 คุณถึงจะขับถึงจุดที่รถคันหน้าของคุณอยู่
คีย์สำคัญ คือ คุณต้องไม่ขับรถไปถึงจุดนั้น ก่อนที่คุณจะนับ 3 จบ
ทั้งนี้ ระยะห่างจากรถคันหน้าด้วยเวลา 3 วินาที ถือเป็นระยะห่างที่ปลอดภัยแบบขั้นต่ำเท่านั้น
เพราะในการขับขี่จริง ยิ่งมีระยะห่างระหว่างรถคันหน้ากับรถคันหลังเท่าไหร่มากเท่าไหร่ ยิ่งปลอดภัยปลอดอุบัติเหตุมากขึ้นเท่านั้น ด้วยเหตุผลสำคัญ 2 ข้อ
ข้อแรก ในความเป็นจริง สภาพถนนไม่ได้ราบเรียบหรือมีภาวะวิสัยเหมาะสมกับการขับขี่เสมอไป อาจจะมีฝนตก น้ำขัง ถนนลื่น ที่เพิ่มความเสี่ยงการขับขี่รออยู่
อีกข้อหนึ่ง ยานพาหนะอาจจะมีขนาดใหญ่พิเศษ ที่ต้องใช้เวลามากกว่ารถยนต์ ในการควบคุมตัวรถให้เคลื่อนที่ได้อย่างเหมาะสม
นอกจากการกะระยะห่างจากรถคันหน้า 3 วินาที ซึ่งเป็นพื้นฐาน ผู้ขับขี่สามารถเพิ่มความปลอดภัยด้วยการนับได้อีก
เช่น เพิ่มจำนวนวินาทีเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วเพิ่มขึ้นจากปกติ ซึ่งที่ไทย ความเร็วปกติของท้องถนน คือ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
หรือจะนับเป็นจำนวนคัน เช่น ถ้าขับรถยนต์ ก็ห่างกัน 10 คัน ขับรถบรรทุกก็ห่าง 15 คัน
หรือถ้านับจำนวนคันไม่สะดวก ด้วยสภาพถนนหลวงที่คนขับรถกันจนเบียดเสียดแน่นเต็มถนน ผู้ขับขี่อาจใช้วิธีขับขี่รถให้ช้าลง ค่อยๆ ไป เน้นออกจากบ้านเร็วหน่อย หรือใช้เส้นทางที่รถน้อย เพื่อให้สามารถขับขี่ได้เร็วขึ้น
ปัจจุบัน เทคโนโลยีการขับขี่ก็ช่วยผู้ขับขี่รถได้ อย่างเช่นที่ CARTRACK เรามีระบบ GPS พร้อมระบบกล้องติดรถอัจฉริยะ ADAS ที่จับระยะยานพาหนะคันข้างหน้า และแจ้งเตือนผู้ขับขี่ในรถที่ติดระบบ GPS พร้อม ADAS ว่า ใกล้รถคันข้างหน้าเกินไป
ขณะที่แจ้งเตือนหรือพบเหตุการณ์การขับขี่ที่น่าสนใจ ระบบ CARTRACK จะบันทึกภาพและเก็บข้อมูลเหตุการณ์ขับขี่เหล่านี้ พร้อมส่งเข้าสู่ระบบ เพื่อให้ผู้ดูแลระบบ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของรถ หรือผู้จัดการขนส่ง เก็บไว้เป็นหลักฐานหรือเพื่อปรับปรุงการขับขี่ให้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้นต่อไปได้
ต้องการข้อมูลว่า ระบบ GPS และระบบกล้องติดรถอัจฉริยะของ CARTRACK เปลี่ยนรถของคุณให้ปลอดภัยขึ้นและประหยัดค่าน้ำมันได้อย่างไร โทรเลยที่ 02-136-2929 หรือคลิกปุ่ม “ติดต่อเราฟรีที่นี่!” และกรอกข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับโดยเร็วที่สุด
ถอยห่างอีกนิด อีกนิดนั่นแหละ.. ร้องเพลงน่ะเล่นๆ แต่ถ้าเป็นการขับรถล่ะก็ ไม่เล่นนะ ต้องห่างจริงๆ! ทำไมระยะห่างจากรถคันหน้าถึงสำคัญกับการขับรถ