รถยนต์ไร้คนขับ ที่ดูเหมือนเป็นอนาคตของการขับขี่ แต่ก็ยังสร้างความกังวลใจในเรื่องของความปลอดภัย จากกรณีที่เกิดอุบัติเหตุจากรถอูเบอร์ (Uber) แบบ “self-driving” เป็นรถแบบ รถยนต์ไร้คนขับ ที่ไม่ต้องใช้คนขับ ชนผู้หญิงที่กำลังจะข้ามถนนเสียชีวิต ที่เมืองเทมเป้ รัฐเอริโซน่า ประเทศสหรัฐฯ ผู้เสียชีวิตคือ Elaine Herzberg หญิงอายุ 49 ปี ซึ่งกำลังเข็นจักรยานของเธอเพื่อที่จะข้ามถนน และถูกรถอูเบอร์วอลโว่สีเทาคันดังกล่าวพุ่งชนเธอด้วยความเร็ว 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และถึงแม้ว่ารถกำลังวิ่งบนถนนด้วยตัวเองแบบไร้คนขับ แต่ก็มี Rafaela Vasquez นั่งอยู่หลังพวงมาลัยในขณะนั้นด้วย
ดังนั้นจึงมีการถกเถียงกันในเรื่องความปลอดภัยและความเป็นไปได้ ของยานพาหนะแบบไร้คนขับ แต่ก่อนอื่นเรามาดูข้อมูลเชิงลึกบางส่วนกัน
หมายถึงรถยนต์ที่ไม่มีคนควบคุมและสามารถนำทางไปยังจุดหมายได้โดยไม่ต้องใช้มนุษย์ ซึ่งจะใช้เซนเซอร์ในการจับสภาพของสิ่งแวดล้อมรอบข้างแทน
รถยนต์ไร้คนขับ มีหลายวิธีที่ใช้เพื่อตรวจสอบสภาพแวดล้อมและการนำทาง วิธีการเหล่านี้รวมไปถึงการใช้ GPS, ใช้เลเซอร์เซนเซอร์, มุมมองจากคอมพ์ และ Odometry ซึ่งเจ้ารถยนต์ไร้คนขับจะแปลงข้อมูลที่ได้จากเซนเซอร์ไปยังระบบประเมินผลขั้นสูงที่จะช่วยระบุเส้นทาง สิ่งกีดขวาง หรือแม้กระทั่งป้ายบอกทางที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ
นอกจากนี้ระบบควบคุมในรถยนต์แต่ละคัน จะต้องมีระบบควบคุมที่สามารถใช้เซนเซอร์เพื่อจำแนกความแตกต่างของยานพาหนะแต่ละรูปแบบบนท้องถนนได้อีกด้วย
รถยนต์ไร้คนขับได้รับการพัฒนามาเป็นเวลาหลายปี ระยะเวลาของเริ่มการทดลองเกี่ยวกับการขับขี่ด้วยระบบอัตโนมัติ คงต้องย้อนกลับไปตั้งแต่ช่วง ค.ศ. 1920 และการเริ่มทดลองตั้งแต่ปี ค.ศ. 1950 และผ่านมาถึงเทคโนโลยีที่ทันสมัยในยุคปัจจุบัน ได้ทำให้สามารถผ่านอุปสรรคต่าง ๆ มาได้ ในช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้มีการทดสอบและการพัฒนาได้มีความก้าวหน้าเพิ่มขึ้น และผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่หลายรายก็ได้เริ่มให้ความสนใจในการร่วมทดลองและพัฒนารถยนต์ไร้คนขับมากขึ้น
รถยนต์ไร้คนขับนั้นเคยได้ถูกยืนยันเรื่องความปลอดภัยว่า สามารถทำได้ดีกว่าเมื่อเทียบกับคนการขับขี่โดยมนุษย์ ด้วยซอฟแวร์และเซนเซอร์ที่จะสามารถตอบสนองต่อสภาพแวดล้อมได้เร็วกว่ามนุษย์ทั่วไป นั่นเป็นเหตุผลที่น่าสนใจว่าทำไมจึงเกิดอุบัติเหตุของ Uber ในครั้งนี้ขึ้น ทั้งที่จุดขายที่สำคัญที่สุดของรถยนต์ไร้คนขับนั้นคือความปลอดภัย
ผู้ผลิตรถยนต์ส่วนมากต่างเป็นที่ยอมรับบ้างแล้วถึงศักยภาพของรถยนต์แบบไร้คนขับ ยกตัวอย่างเช่น BMW, Tesla , Ford และ General Motors ที่เริ่มวางแผนที่จะนำเสนอรถยนต์ที่ขับเคลื่อนได้ด้วยตัวเองภายในไม่กี่ปีข้างหน้า นอกจากนี้บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีเช่น Google และ Intel ยังได้ลงทุนด้านการพัฒนาเทคโนโลยีในสาขานี้มาหลายปี
การสอบสวนอุบัติเหตุยังคงดำเนินต่อไป แต่ดูเหมือนว่ามีได้เกิดความล้มเหลวขึ้นกับระบบการขับขี่อัตโนมัติของ Uber และเมื่อรวมกับความประมาทของคนขับที่อยู่หลังพวงมาลัย ซึ่งเธอได้ละสายตาจากถนนในช่วงที่เกิดอุบัติเหตุ และนั้นทำให้เป็นเหตุให้มีคนเสียชีวิต เหตุการณ์นี้ส่งผลให้ Uber หยุดการดำเนินการรถยนต์ไร้คนขับชั่วคราวที่กำลังอยู่ในช่วงทดสอบในทุกเมืองทั่วสหรัฐอเมริกา
มันคงเป็นการด่วนสรุปเกินไปที่จะตัดสิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากการสอบสวนสาเหตุที่แท้จริงในอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นข้างต้นยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ซึ่งจริง ๆ แล้วเราอาจจะรู้สึกว่ามันยังไม่พร้อมและการลงทุนลงแรงไปมากของค่ายอุตสาหกรรมต่าง ๆ ก็ยังไม่ได้ความคืบหน้ามากนัก แต่หากมองดูแล้วเหตุการณ์ดังกล่าวข้างต้นก็ถือเป็นความผิดพลาดครั้งแรกที่ทำให้มีการเสียชีวิต ซึ่งอาจไม่ได้เป็นการตัดสินว่ารถยนต์ไร้คนขับจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
ในระหว่างนี้ผู้ผลิตรถยนต์มีแนวโน้มที่จะเพิ่มการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้แน่ใจว่ายานพาหนะเหล่านี้จะปลอดภัยและจะไม่ทำให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก และเมื่อเราดูจากสถิติที่ผ่านมาของรถยนต์ที่ขับด้วยมนุษย์ ก็คงเป็นเรื่องโหดร้ายเกินไปที่จะกล่าวหาว่ารถยนต์ไร้คนขับนั้นปลอดภัยน้อยกว่ารถยนต์ที่ขับด้วยมนุษย์จริง ๆ
ไม่ว่าคุณจะขับรถด้วยตัวเอง หรือใช้รถยนต์แบบไร้คนขับก็ตาม คุณควรต้องปกป้องทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดของคุณไว้ ด้วยบริการกู้คืนรถยนต์ที่ถูกขโมยของ คาร์แทรค จะช่วยให้คุณสบายใจมากขึ้น ด้วยอัตราการกู้คืนที่ยืนยันได้มากถึง 91% ว่าสามารถกู้คืนได้จริง
รถยนต์ไร้คนขับ เทคโนโลยีที่กลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์รายใหญ่ต่างลงแรงในการพัฒนากันมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา จะผ่านบททดสอบด่านแรก นั่นคือ ความปลอดภัย ได้หรือไม่
