ตั้งแต่ช่วงปี 2561 เป็นต้นมา กรมการขนส่งทางบก หรือ DLT ที่ควบคุมดูแลกฎหมายขนส่งโดยตรงในประเทศไทย ได้ออกกฎหมายการขนส่งที่เข้มงวดกับการเดินรถมากขึ้น สำหรับ กฎหมายรถบรรทุก และการบังคับให้ติดตั้ง GPS รถบรรทุก ในรถทุกคัน ไม่ว่าจะเป็นรถเทรลเลอร์ รถ 6 ล้อ รถ 10 ล้อ หรือรถพ่วง
ซึ่ง คาร์แทรค ได้รวบรวมเก็บความรู้เกี่ยวกับกฎหมายรถบรรทุก สิ่งจำเป็นที่ต้องทำ และโทษปรับอื่น ๆ ที่เจ้าของธุรกิจและคนขับรถบรรทุกไม่ควรพลาด มาสรุปเป็นหมวดหมู่ให้เข้าใจง่ายขึ้นแล้วในบทความนี้
กระทรวงคมนาคมออกกฎกระทรวงเรื่องส่วนควบและเครื่องอุปกรณ์สำหรับรถ เมื่อปี พ.ศ. 2551 และยังคงใช้มาถึงปัจจุบันไว้ดังนี้
การกำหนดน้ำหนักรถบรรทุก กำหนดขึ้นเพื่อดูแลเส้นทางการจราจรใหญ่เล็กต่าง ๆ ตั้งแต่ถนนใหญ่ไปจนถึงตรอกซอกซอย ไม่ให้ผุพังหรือทรุดโทรมก่อนกำหนดจากการใช้รถ และช่วยควบคุมการใช้รถให้เหมาะสมกับแต่ละเส้นทาง
กฎหมายรถบรรทุก ยังครอบคลุมไปถึงรถบรรทุกพ่วง หรือที่เราเรียกว่า รถพ่วงด้วย เช่น
นอกจากนี้ยังมีรถกึ่งพ่วงด้วย ดังนี้
สำหรับโทษของการฝ่าฝืนกฎหมายรถบรรทุก จะคิดในลักษณะอัตราทบทวี คือ จะเริ่มต้นการปรับที่ 10,000 บาท จากนั้นจะทบเพิ่มเป็น 30,000 บาท และกำหนดโทษขั้นสูงสุด ที่ 100,000 บาท
บทลงโทษนี้ครอบคลุมทุกห่วงโซ่ด้วย หากพบการฝ่าฝืนแอบลักลอบขนส่งสินค้าที่มีน้ำหนักเกินเกณฑ์
นอกจากบริษัทที่รับผิดชอบการขนส่ง ผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น คู่ค้าของบริษัทขนส่ง ผู้ใช้บริการขนส่ง บริษัทที่เป็นปลายทางที่รถบรรทุกไปส่งสินค้าให้ ฯลฯ จะถูกเรียกปรับไปด้วย เรียกได้ว่าโดนกันตั้งแต่เจ้าของธุรกิจที่เป็นผู้จ้าง ผู้ให้บริการขนส่งรถบรรทุก และผู้รับปลายทางเลยทีเดียว
การล็อกรถคอนเทนเนอร์หรือตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยไม่ให้สิ่งของร่วงหล่น หรือรั่วไหลในกรณีที่เป็นของเหลว
เพราะการไม่ล็อกคอนเทนเนอร์ มีส่วนเพิ่มความเสี่ยงในการขับขี่ต่อตัวรถคอนเทนเนอร์เอง และผู้ขับขี่ร่วมเส้นทางคนอื่น เป็นปัญหาที่ทำให้ตัวเลขสถิติอุบัติภัยบนท้องถนนเพิ่มขึ้นในทุกปี
สำหรับบทลงโทษการไม่ใช้สลักตู้คอนเทนเนอร์ หรือทวิสล็อก (Twist-lock) ผู้ขับขี่มีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 5,000 บาท ขณะที่ผู้ประกอบการเจ้าของรถบรรทุก มีโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท
บริเวณอุปกรณ์สลักตู้คอนเทนเนอร์ หรือทวิสล็อก จะมีแผ่นสะท้อนแสงที่แสดงสถานะล็อก-ไม่ล็อก เพื่อให้ผู้ใช้รถร่วมเส้นทางได้สังเกตและระมัดระวังตัวเอง
หากอุปกรณ์สลักอยู่ในสถานะล็อก แผ่นสะท้อนแสงจะเป็นสีเหลืองหรือขาวตามแนวยาวของตัวรถ
แต่หากอุปกรณ์สลักอยู่ในสถานะไม่ล็อก แผ่นสะท้อนแสงจะเป็นสีแดงตามแนวยาวของตัวรถเช่นกัน
อุปกรณ์สะท้อนแสงและแผ่นสะท้อนแสง เป็นอุปกรณ์แสดงยานพาหนะบนท้องถนนในยามค่ำคืนที่สำคัญมาก เนื่องจากสถิติตัวเลขจากอุบัติเหตุรถชนระหว่างรถยนต์ส่วนบุคคลกับรถบรรทุกสิ่งของขนาดใหญ่ พบว่า ระยะความยาวและความกว้างของรถบดบังวิสัยทัศน์ของผู้ขับขี่หรือผู้ใช้รถใช้ถนนคันอื่น ๆ โดยเฉพาะการขับขี่ในเวลากลางคืน ก่อให้เกิดอุบัติเหตุ หลายครั้งเป็นอุบัติเหตุร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิต
ด้วยเหตุนี้ กฎหมายจึงริเริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 กำหนดให้ รถโดยสารและรถบรรทุก ต้องติดตั้งอุปกรณ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการมองเห็นตำแหน่งของรถในช่วงเวลากลางคืนหรือในสภาพที่มีแสงน้อย หรืออุปกรณ์สะท้อนแสงนั่นเอง
สำหรับรถโดยสารขนส่งบุคคล ให้ติดตั้งเฉพาะอุปกรณ์สะท้อนแสง
ส่วนรถบรรทุกทุกลักษณะต้องติดตั้งอุปกรณ์สะท้อนแสง และรถบรรทุกตั้งแต่ 2 เพลา 4 ล้อ ยาง 6 เส้น ขึ้นไป ที่มีความกว้าง 2.1 เมตร หรือยาว 6 เมตรขึ้นไป จึงจะต้องติดแผ่นสะท้อนแสงเพิ่ม
ทั้งนี้ หากเป็นรถเก่าที่ยังไม่ได้ติดตั้งให้ถูกต้อง ต้องทำให้แล้วเสร็จภายใน 1 มกราคม พ.ศ. 2562
หรือหากติดตั้งแล้ว แต่สีสันของแถบป้ายฯ ยังไม่ถูกต้อง ต้องแก้ไขภายใน 1 มกราคม พ.ศ. 2563 มิเช่นนั้นจะถูกโทษปรับโดยอ้างอิงกฎหมายรถบรรทุก ส่วน พรบ. ขนส่งทางบก ปี พ.ศ. 2522 คือ โทษปรับสูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท
กรมการขนส่งทางบก กำหนดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562 ให้ รถโดยสาร รถลากจูง และรถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไปต้องติดตั้ง GPS หรือระบบ GPS Tracking ติดตามรถ เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลการขับรถและการใช้ยานพาหนะกับศูนย์บริหารจัดการเดินรถของกรมขนส่งฯ ได้แบบเรียลไทม์
ทั้งนี้ GPS รถบรรทุก จะช่วยเรื่องการติดตามพฤติกรรมการขับรถได้แบบละเอียดและแม่นยำ ซึ่งผู้ใช้รถและเจ้าของรถสามารถนำข้อมูลไปปรับปรุงการใช้รถ ซึ่งช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้
โดยจากสถิติการร้องเรียนเหตุบนท้องถนนที่อุปกรณ์ GPS บันทึกได้ในเดือน พ.ค. 2565 พบครึ่งหนึ่งของการร้องเรียนเป็นเรื่องพฤติกรรมการขับขี่ที่เสียงของคนขับรถ เช่น พนักงานขับรถใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ มีอาการมึนเมา ง่วงนอน ขับรถเร็ว ขับรถบนทางเท้า ออกนอกเส้นทาง ฯลฯ นำมาซึ่งความเสียหาย ทั้งที่สามารถป้องกันได้ตั้งแต่เหตุยังไม่เกิด
ดังนั้น การติด GPS รถบรรทุก จึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ประกอบการที่มีรถบรรทุก เพราะนอกจากจะเพิ่มความปลอดภัยในทรัพย์สินและสามารถติดตามการขนส่งของรถแต่ละคันได้แล้ว ยังสามารถควบคุมและติดตามพฤติกรรมการขับขี่ของคนขับ และยังช่วยให้เจ้าของธุรกิจมีข้อมูลการใช้รถไว้ควบคุมค่าใช้จ่ายการขนส่งหรือต้นทุนธุรกิจได้อีกด้วย
เครื่อง GPS รถบรรทุก ของคาร์แทรค (Cartrack) รับรองโดยกรมขนส่งฯ ส่งข้อมูลเข้าสู่ระบบ DLT โดยตรง ต่อภาษีรถง่ายและสะดวก ติดตั้งฟรี รับประกันตลอดอายุการใช้งาน เปลี่ยนคันรถได้ไม่ต้องทำสัญญาใหม่
สามารถโทรสอบถามข้อมูลเจ้าหน้าที่ Cartrack ได้ที่หมายเลข 021362920, 021362921 หรือกรอกข้อมูลที่แบบฟอร์มด้านบนเพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับโดยเร็วที่สุด หรือทัก Line Cartrack GPS ได้ง่าย ๆ เรายินดีมอบความสะดวก ให้การจัดการยานพาหนะในธุรกิจของคุณเป็นเรื่องง่าย
เก็บความรู้ กฎหมายรถบรรทุก 6 ล้อ 10 ล้อ ข้อบังคับการติดตั้ง GPS รถบรรทุก สิ่งจำเป็นที่ต้องทำ และบทลงโทษ โทษปรับ ที่เจ้าของธุรกิจและคนขับรถบรรทุก ไม่ควรพลาด