ถึงแม้จะรับสมัครคนขับรถที่มีประสบการณ์เข้ามาทำงาน แต่คนขับรถแต่ละคนก็มีความรู้และทักษะการขับรถที่ไม่เท่ากัน การฝึกอบรมการขับรถ จึงเป็นหนึ่งในงานสำคัญที่บริษัทจะต้องทำ เพื่อสร้างมาตรฐานกติกาการขับขี่ให้เข้าใจตรงกัน และอบรมขับขี่ปลอดภัย
สำหรับบางบริษัท อาจมีพนักงานขับรถไม่กี่คน ทำให้การอบรมทำได้ง่ายและเสร็จอย่างรวดเร็ว แต่สำหรับบางบริษัทที่มีคนขับรถจำนวนมาก หรือเป็นธุรกิจขนส่งเลย การฝึกอบรมพนักงานขับรถอาจเป็นงานใหญ่
บทความคาร์แทรคตอนนี้ จะมาแนะนำเคล็ดลับหรือทริค ฝึกอบรมการขับรถ และปรับปรุงพฤติกรรมการขับขี่ ที่ไม่ว่าจะมีคนขับไม่กี่คนหรือเป็นพันคน ก็สามารถจัดการได้ง่ายในระดับที่ด้วยผู้จัดการหรือพนักงานคนเดียวก็ทำได้
พฤติกรรมการขับขี่ ตัวชี้วัดพนักงานขับรถที่สำคัญอันดับ 1
พฤติกรรมการขับขี่ ที่เกิดขึ้นหลังพวงมาลัยของคนขับ มีทั้งลักษณะการขับขี่และพฤติกรรมส่วนตัวของคนขับ ซึ่งเป็นไปได้ทั้งเจตนาและธรรมชาติของคนๆ นั้น หลายบริษัทใช้เรื่องนี้เป็น KPI การขนส่งอย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้
ข้อมูลพฤติกรรมคนขับ เป็นข้อมูลที่บริษัทหรือผู้จัดการเรื่องรถควรเข้าใจอย่างยิ่ง เพราะข้อมูลแสดงถึงความเสี่ยงการขับขี่และการใช้ยานพาหนะบนท้องถนนในแต่ละวัน รวมถึงปัจจัยการเกิดพฤติกรรมแต่ละอย่าง ได้ชัดเจนที่สุด
ปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการขับขี่
- สิ่งรบกวน สิ่งภายนอกที่เข้ามาดึงความสนใจจากคนขับรถ สิ่งรบกวนที่มีผลและเกิดขึ้นมากที่สุดทุกวันนี้ คือ การใช้โทรศัพท์มือถือ
- ขับขี่ประมาท เช่น ใช้ความเร็ว ฝ่าไฟจราจร เปลี่ยนเลนถนนโดยไม่เปิดไฟสัญญาณ ฯลฯ
- อ่อนเพลีย เหนื่อยล้า นอกจากการหลับใน อาจทำให้ตอบสนองต่อเหตุการณ์บนท้องถนนช้าลง นำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุได้
- อายุและประสบการณ์ ผลการศึกษาจากหอสมุดการแพทย์แห่งชาติสหรัฐ พบว่า อายุและประสบการณ์ของผู้ขับขี่มีผลต่อความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ
โดยผู้ขับขี่ที่มีอายุน้อยกว่าเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุรถชนมากกว่าผู้ขับขี่ที่อายุมากกว่า ซึ่งผู้ขับขี่ที่อายุมากกว่าในผลการศึกษา คือ มากกว่า 25 ปี ขึ้นไป - อาการมึนเมา การเมาและขับ เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุที่มีผู้เสียชีวิต ซึ่งคิดเป็น 50% ของสาเหตุทั้งหมด
แบบประเมินพนักงานขับรถ.. จุดคัดกรองที่ช่วยได้มาก
อย่างไรก็ดี การประเมินคนขับรถก่อนรับเข้าทำงานหรือเริ่มการทำงาน ช่วยให้บริษัทคัดกรองบุคลากรได้มากในระดับหนึ่งเลยทีเดียว
หรือแม้แต่เข้ามาทำแล้ว จะเริ่มทำงานในแต่ละครั้ง ก็ยังสามารถใช้การประเมิน เพื่อยืนยันความสามารถและความพร้อมของผู้ขับขี่ได้ แบบประเมิน มีแบบไหนบ้าง
- แบบสอบถามพฤติกรรม เช่น ลักษณะการขับขี่ในแต่ละวัน จัดว่าดีหรือไม่ ให้คะแนนจาก 0 - 5 เป็นต้น
- ความคิดเห็นต่อกฎจราจรเพื่อความปลอดภัย เทคนิคในการขับรถให้ปลอดภัยมีหลักการอยู่กี่ข้อ เป็นต้น
- แบบทดสอบวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ขับขี่ ช่วยให้รู้พฤติกรรมของผู้ขับขี่เวลาเจอสถานการณ์คับขัน ลักษณะการทำงาน การจัดสรรงานและเวลา รวมถึงการสื่อสารระหว่างเพื่อนร่วมงาน
6 เคล็ดลับ ยกระดับการขับขี่และความปลอดภัย ที่ผู้จัดการคนเดียวเอาอยู่
- สร้างกติกาการขับขี่ปลอดภัย ทั้งมาตรฐานและเป้าหมายที่สูงขึ้น สิ่งนี้ควรเป็นข้อตกลงที่บริษัท ผู้จัดการ และคนขับรถ เข้าใจร่วมกันและทบทวนสม่ำเสมอ เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ ความเสียหายของชีวิตและทรัพย์สิน
- ตรวจสอบประวัติการขับขี่ ตรวจสอบประวัติการขับขี่ก่อนรับเข้าคนขับรถใหม่เข้าทำงาน เพราะประวัติการขับขี่ที่ผ่านมามีส่วนสะท้อนถึงพฤติกรรมการขับขี่ที่เกิดขึ้นในอนาคตได้
- ฝึกอบรมพนักงานขับรถ วิธีที่ดีที่สุดในการสร้างพฤติกรรมการขับขี่ปลอดภัย คือ การให้ความรู้ความเข้าใจเรื่องการขับขี่ปลอดภัย
และการแสดงให้เห็นถึงผลการขับขี่เสี่ยงอันตราย การใช้ความเร็วเกินกำหนด การสนใจสิ่งรบกวนเวลาขับขี่ - คอยกระตุ้นผู้ขับขี่ การฝึกอบรมการขับรถช่วยกระตุ้นและส่งเสริมให้คนขับขับขี่ปลอดภัยอยู่เสมอ แต่บริษัทยังสามารถใช้วิธีอื่นได้เช่นกัน เช่น การให้รางวัลผู้ขับขี่ที่ได้คะแนนการขับขี่ที่ดี
โดยคะแนนเหล่านี้สามารถให้ได้จากข้อมูลการขับขี่ที่บันทึกจากการขับขี่โดยตรง ผ่านระบบซอฟต์แวร์ หรือ ระบบจัดการยานพาหนะ (Fleet Management System)
ข้อมูลที่น่าสนใจและน่าแก้ไขเพื่อปรับปรุงต้นทุนธุรกิจได้ เช่น คนขับที่จอดแช่นานที่สุด คนขับขี่ที่ใช้ความเร็วเกินกำหนดมากที่สุด เป็นต้น - บำรุงรักษาเครื่องยนต์
การบำรุงรักษาเครื่องยนต์อาจไม่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการขับขี่ของคนขับรถโดยตรง แต่สภาพเครื่องยนต์ที่พร้อมทำงานมากที่สุดดีต่อการขับขี่แน่นอน และเพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ขับขี่ได้ด้วย
บริษัทจะใช้วิธีตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์เองสม่ำเสมอก็ได้ แต่วิธีที่ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายที่สุด คือ การใช้ระบบจัดการยานพาหนะ ที่ตรวจสอบและบันทึกสภาพเครื่องยนต์แบบปัจจุบันหรือเรียลไทม์ (Real-time)
ช่วยแจ้งเตือนหากเครื่องยนต์อยู่ในสภาพที่ต้องส่งซ่อม หรือตั้งแจ้งเตือนระยะเวลาส่งซ่อมตามสภาพการใช้งานจริงหรือระยะเวลาที่ต้องการล่วงหน้า โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายตรวจสอบแบบสุ่มอยู่บ่อยๆ - ใช้ระบบจัดการยานพาหนะแบบเทเลเมติกส์ ทั้ง 5 ข้อ ที่กล่าวมาข้างต้น สามารถจัดการได้ด้วยการใช้ระบบจัดการยานพาหนะแบบเทเลเมติกส์ (ระบบเทเลเมติกส์ คืออะไร อ่านได้ที่นี่) ที่จะตรวจสอบสภาพรถ ณ ปัจจุบัน เก็บข้อมูลและส่งข้อมูลเข้าสู่ระบบ
ให้ผู้จัดการรถสามารถเรียกดู เพื่อใช้ปรับปรุงการใช้รถเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ลดความเสียหาย และลดต้นทุนธุรกิจที่ช่วยเพิ่มกำไรต่อได้อีกด้วย
ระบบจัดการยานพาหนะแบบเทเลเมติกส์ ช่วยปรับปรุงการขับขี่ได้อย่างไร?
- มีรายงานพฤติกรรมผู้ขับขี่ เช่น การจอดแช่ การออกตัวกระชาก การใช้ความเร็วเกิน ประวัติการเดินทาง ฯลฯ
รายงานเหล่านี้ส่งผลต่อความปลอดภัยของทรัพย์สินและชีวิต สภาพรถ และทื่สำคัญต้นทุนธุรกิจและการควบคุมต้นทุนด้วย - แจ้งเตือนพฤติกรรมการขับขี่ให้ผู้ขับขี่รู้ทันทีและบันทึกเข้าสู่ระบบด้วย ช่วยเพิ่มความปลอดภัย และใช้เป็นหลักฐานการขับขี่ปกป้องผู้ขับขี่และธุรกิจได้
- เพิ่มกล้องช่วยเตือนและบันทึกเหตุการณ์พร้อมข้อมูล เพื่อประโยชน์ของคนขับและธุรกิจได้ ขณะที่ระบบติดตามรถทั่วไปไม่รองรับกล้องที่ช่วยเตือนคนขับไว้ทำงานร่วมกัน
แต่ระบบจัดการยานพาหนะแบบเทเลเมติกส์ ทำได้ทั้งติดตาม บันทึกข้อมูล และประมวลผลข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจ รวมถึงเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ได้ เช่น กล้อง เซนเซอร์น้ำมัน เซนเซอร์อุณหภูมิ และเซนเซอร์ตรวจจับข้อมูลการใช้รถต่างๆ เป็นต้น
การยกระดับการขับขี่ปลอดภัย ด้วยการปรับปรุงคนขับรถ เป็นงานสำคัญที่สามารถใช้เครื่องมือช่วยจัดการได้ ซึ่งเครื่องมือนั้นคือ ระบบจัดการยานพาหนะ
ซึ่งระบบจัดการยานพาหนะประสิทธิภาพสูงของ Cartrack ให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจมากในผู้ใช้งานจริงตั้งแต่เดือนแรก เพราะ:
- ลดต้นทุนค่าขนส่งจากการตรวจจับการขับขี่ที่ไม่มีประสิทธิภาพ มาปรับปรุงได้ทันท่วงที
- ช่วยให้ผู้ขับขี่ปฏิบัติตามกฎจราจรได้ง่ายขึ้น
- ปกป้องคนขับด้วยระบบแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ เช่น การใช้ความเร็วเกินกำหนด การเข้าโค้งรุนแรง การจอดแช่ ฯลฯ
- มีรายงานสรุปตามระยะเวลาที่ต้องการ พร้อมคำแนะนำการขับขี่ที่เหมาะสมตามสภาพการขับขี่จริง 100%
อยากทราบข้อมูลระบบจัดการยานพาหนะ Cartrack หรือทดลองใช้จริงกับธุรกิจคุณ ติดต่อได้ที่ 021362920 , 021362921 หรือทักไลน์ @udi4517q (Cartrack GPS) พร้อมแจ้งชื่อ เบอร์ติดต่อ และจำนวนรถที่ต้องการติดตั้ง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับโดยเร็วที่สุด