BLOGS

ส่อง AI และ Machine Learning เทคโนโลยียานยนต์สมัยใหม่ ที่ผู้ใช้รถควรรู้!

คุณต้องการให้ คาร์แทรค ช่วยเหลือเรื่องอะไร?

ฉันเป็น / ...
จำนวนยานพาหนะของคุณ
ขอบคุณค่ะ เจ้าหน้าที่คาร์แทรคจะติดต่อกลับหาคุณโดยเร็วที่สุด
Oops! Something went wrong while submitting the form.

เชื่อว่าทุกวันนี้ แทบทุกคนเคยได้ยินคำว่า ปัญญาประดิษฐ์ หรือ Artificial Intteligence (AI) และ การเรียนรู้ของเครื่องจักร หรือ Machine Learning (ML) กันอยู่แล้ว เพราะสองอย่างนี้ถูกใช้กับสิ่งของเครื่องใช้รอบตัวมากมาย และส่วนใหญ่เป็นของใช้ในชีวิตประจำวันด้วย รวมถึงยานพาหนะที่ใช้กันทั่วไป บทความคาร์แทรคตอนนี้ จะชวนส่องเทคโนโลยี AI และ ML ว่าเกี่ยวข้องอย่างไรกับยานยนต์ และเทคโนโลยียานยนต์สมัยใหม่เหล่านี้ มีอะไรที่น่าสนใจหรือจะต่อยอดเป็นอะไรในอนาคตได้บ้าง

AI และ Machine Learning ต่างกันอย่างไร?

เพื่อให้เข้าใจเรื่องเทคโนโลยียานยนต์สมัยใหม่ง่ายและชัดเจนขึ้น มาทำความเข้าใจกันก่อนว่า AI และ Machine Learning ต่างกันอย่างไร

AI และ Machine Learning มักถูกพูดถึงเสมือนเป็นสิ่งเดียวกัน แต่ทว่าสองคำนี้มีความหมายแตกต่างกัน

AI หรือ Artificial Intelligence หมายถึง กลยุทธ์หรือเทคนิคใดๆ ที่มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้น เพื่อให้เครื่องจักรหรือซอฟต์แวร์สามารถพัฒนาการทำงานของตัวเองได้เอง เหมือนมนุษย์ที่ทำ

ส่วน Machine Learning หรือ ML หมายถึง ศาสตร์การพัฒนาอัลกอริทึ่ม (ขั้นตอนวิธี) หรือรูปแบบสถิติ ที่ระบบคอมพิวเตอร์ใช้เพื่อทำงานที่มีความซับซ้อนได้เอง ไม่ต้องมีคำสั่งที่ชัดเจน เสมือนเครื่องจักรเรียนรู้ได้เองว่าต้องทำอะไร เมื่อเจอกับชุดข้อมูลที่อยู่ตรงหน้า ด้วยเหตุนี้ Machine Learning จึงเป็นส่วนหนึ่งของ AI นั่นเอง

AL และ Machine Learning มีความสำคัญอย่างไร?

AI และ Machine Learning ช่วยให้ชีวิตผู้คนสะดวกสบายขึ้น ด้วยความสามารถต่างๆ หลักๆ ได้แก่

  • ปรับงานแอดมินซ้ำๆ ให้ทำได้เองอัตโนมัติ

    เช่น การกรอกเอกสาร การคัดแยกไฟล์เอกสารให้ถูกต้องตามประเภท การจัดการประชุม ฯลฯ ช่วยลดเวลาการทำงานและต้นทุนค่าใช้จ่าย รวมถึงนำเวลาที่เหลือไปใช้ทำงานที่สร้างรายได้ได้เพิ่มมากขึ้นได้
  • ช่วยให้สินค้า “ฉลาด” มากขึ้น

    ความฉลาดของสินค้าที่พบเห้นได้ทุกวันนี้ อาทิเช่น สินค้าที่พูดได้ จดจำเสียงหรือใบหน้าได้ และเปลี่ยนสิ่งเหล่านี้เป็นคำสั่ง

    เช่น เปิดปิดประตู ไฟ หน้าจอโทรศัพท์ เปิดเพลง สตาร์ทเครื่องยนต์ ฯลฯ ประโยชน์ที่ผู้ใช้งานจะได้รับเมื่อสินค้าฉลาดมากขึ้นคือ ความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น (จากการจดจำเสียงหรือใบหน้าหรือรอยนิ้วมือของผู้ใช้งานที่ถูกต้อง ถ้าเป็นของคนอื่น จะถือว่าคำสั่งไม่ถูกต้อง) ป้องกันการทุจริตได้ รวมถึงวิเคราะห์พฤติกรรมและข้อมูลไว้ใช้พัฒนาการทำงานได้ไวขึ้นและแม่นยำตามความเป็นจริงมากขึ้น
  • รักษาระดับและพัฒนามาตรฐานการบริการลูกค้าได้

    เช่น ระบบแชทบอท (Chatbot) ตอบคำถามลูกค้า ที่สามารถให้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง แม้แต่ในเวลานอกทำการของธุรกิจ

    ช่วยให้ลูกค้าได้รับความช่วยเหลือหรือข้อมูลที่ต้องการอย่างรวดเร็ว เพิ่มความพึงพอใจและกระตุ้นการตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการให้ไวมากขึ้น เนื่องจากลูกค้าได้รับข้อมูลสินค้าเพียงพอตามที่ต้องการเรียบร้อยแล้ว
  • ข้อมูลธุรกิจมีประโยชน์มากขึ้น

    ในแต่ละวันของธุรกิจ มีข้อมูลใหม่เกิดขึ้นมากมาย ซึ่งเทคโนโลยี AI จะช่วยตรวจสอบและประมวลผลข้อมูลธุรกิจได้อัตโนมัติ และออกมาเป็นข้อมูลที่น่าสนใจ ที่ธุรกิจสามารถนำไปปรับปรุงจุดด้อยหรือต่อยอดเพิ่มกำไรให้ธุรกิจได้

    เช่น ร้านสะดวกซื้อพบว่าลูกค้าผู้หญิงวัยทำงาน คือ กลุ่มคนที่ใช้จ่ายกับทางร้านมากที่สุด และพวกเขาจะเข้าร้านในช่วงเช้าของวันธรรมดามากที่สุด ซึ่งจากชุดข้อมูลนี้ ร้านสะดวกซื้อสามารถปรับปรุงและต่อยอดธุรกิจของตัวเองได้หลากหลายทางมาก

    ซึ่งนี่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่ง เพราะเมื่อนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในระบบแล้ว ธุรกิจจะมีข้อมูลเส้นทางลูกค้า (Customer journey) ทั้งหมดในมือ ที่จะสามารถนำมาปรับใช้ได้ทันที

    โดยการปรับธุรกิจให้ตอบรับกับเส้นทางลูกค้าไม่เพียงแค่เพิ่มความพึงพอใจให้กับลูกค้า แต่ยังเพิ่มความรักภักดีต่อแบรนด์ธุรกิจ (Brand loyalty) ที่นำไปสู่การเพิ่มยอดขายสินค้าและบริการได้ในที่สุด

AL และ Machine Learning มีความสำคัญอย่างไร?

AI และ Machine Learning พลิกการขับขี่สู่ เทคโนโลยียานยนต์สมัยใหม่ ได้อย่างไร?

เมื่อ AI และ Machine Learning เข้าสู่วงการขับขี่ ก็ได้เปิดประตูสู่ความล้ำหน้าของการขับขี่มากมาย และได้พัฒนาระบบติดตามรถ ให้ทำได้มากกว่าแค่การติดตามรถ ดังเช่นตัวอย่างที่บทความคาร์แทรคได้แบ่งไว้เป็นประเภทธุรกิจดังนี้

ธุรกิจรถเช่าหรือเช่าซื้อรถ

  • ระบบแชทบอทและผู้ช่วยอัตโนมัติ

    ช่วยลูกค้าจองรถผ่านระบบออนไลน์ได้ตลอด 24 ชม. ตอบคำถามหรือข้อสงสัย ให้คำแนะนำตามความต้องการและความชอบของลูกค้าได้ โดยที่ลูกค้าแทบไม่ต้องเดินทางมาที่เต๊นท์หรืออู่รถเช่าเลยก็ยังได้ สามารถจองจากที่ไหนก็ได้ และให้ทางเต๊นท์รถเช่า นำรถมาส่งตามจุดที่ต้องการ
  • บำรุงรักษารถแบบป้องกันความเสียหายก่อนเกิด

    ธุรกิจจะได้ตารางและการแจ้งเตือนล่วงหน้าการซ่อมบำรุงรถอัตโนมัติ ซึ่งมาจากข้อมูลการใช้รถ เช่น ระยะทางที่รถวิ่งไปแล้ว การตรวจสอบสภาพรถครั้งสุดท้าย ที่ระบบติดตามอยู่ตลอดเวลา โดยระบบติดตามรถแบบเทเลเมติกส์ ที่เป็นเทคโนโลยีแบบ AI

    ประโยชน์ของการบำรุงรักษารถแบบป้องกัน คือ ลดความเสียหายกะทันหัน ลดการขาดโอกาสการใช้งาน ลดความไม่พึงพอใจของลูกค้า ช่วยกำหนดเวลาการขนส่งล่วงหน้าและไม่ขาดตอน เป็นต้น
  • ทำราคาขายที่โดนใจได้หลายแบบ

    อย่างที่บอกว่า ระบบ AI จะเก็บบันทึกข้อมูลการใช้รถตลอดเวลา และคัดกรองข้อมูลรถ การใช้งาน และข้อมูลผู้ใช้งาน มาประมวลผลได้อย่างน่าสนใจ ซึ่งมักมีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับฝ่ายการตลาดในการทำโปรโมชัน ที่เข้ากับความต้องการและประเภทของลูกค้า รวมถึงสามารถตรวจสอบการชำระเงินว่าถูกต้อง ช่วยลดความเสียหายจากการโกงได้ด้วย

ระบบเรียกใช้รถสาธารณะ

ระบบเรียกใช้รถสาธารณะอย่าง Grab, LINE Man, Robinhood เหล่านี้ ขับเคลื่อนด้วยระบบ AI ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเรียกรถรับส่ง ส่งของ ส่งอาหาร เพราะ AI ทำหน้าที่

  • ค้นหาคนขับที่ใกล้ที่สุด

    และเป็นคนขับที่พร้อมทำงานด้วย โดยระบบ AI จะค้นหาคนขับที่อยู่ในพิกัดรัศมีใกล้เคียง และพร้อมรับงานด้วย จากนั้นก็จะทำการจับคู่คนขับกับงาน และแสดงผลให้ทั้งคนขับและลูกดค้าที่แจ้งความประสงค์ของงาน

    ระบบ AI สามารถเลือกจับคู่ได้อย่างละเอียดมากๆ ด้วย ตามที่ผู้ใช้งานระบุข้อมูลไว้ เช่น ประเภทของรถ เพศของคนขับ หรือแม้แต่กำหนดเวลาเรียกรถล่วงหน้าก็ทำได้เช่นกันด้วยระบบ AI
  • จัดสรรเส้นทางการขับขี่ที่ดีที่สุด

    เมื่อระบบจับคู่คนขับกับงานแล้ว ระบบ AI จะเช็คจุดหมายปลายทางกับจุดเริ่มต้นการเดินทาง และประวลผลเพื่อค้นหาเส้นทางขับขี่ที่ดีที่สุดมาให้ ที่จะช่วยให้ขับขี่ถึงที่หมายโดยเร็วที่สุด เลี่ยงทางที่จราจรติดขัดเพื่อช่วยลดการใช้น้ำมันได้ด้วย

ระบบเรียกใช้รถสาธารณะ

ธุรกิจก่อสร้าง

  • รักษามาตรฐานและยกระดับความปลอดภัย

    แม้อยากจะหลีกเลี่ยงมากแค่ไหน แต่อันตรายและอุบัติเหตุเหมือนเป็นของคู่กันกับงานก่อสร้าง ระบบ AI ช่วยให้ธุรกิจก่อสร้างหลีกเลี่ยงความเสี่ยงและอุบัติเหตุได้มากขึ้น ด้วยการบันทึกข้อมูลและประมวลผล ณ เวลานั้นหรือ Real-Time เช่น พฤติกรรมผู้ปฏิบัติงานที่ง่วงหงาวหาวนอน ใช้โทรศัพท์ เหม่อลอยไม่มองทางหรือไม่ ผู้ปฏิบัติงานถูกต้องกับยานพาหนะหรือไม่ ฯลฯ พร้อมทั้งสั่งการแจ้งเตือน เมื่อพบความผิดปกติ
  • ใช้เครื่องจักรได้เต็มที่

    ด้วยข้อมูลยานพาหนะที่ระบบ AI บันทึก จะบอกได้ทันทีว่า ยานพาหนะอยู่ในสภาพการใช้งานกี่เปอร์เซนต์ และสามารถบอกข้อมูลของยานพาหนะที่ดูแลได้ทั้งหมดทุกคัน ระบบ AI ยังสามารถแสดงข้อมูลรถที่มีที่เหมาะสมกับการใช้งานให้กับธุรกิจได้ ที่จะช่วยลดการใช้รถเกินกำลังและการใช้รถไม่คุ้มค่าด้วย
  • ควบคุมคุณภาพ

    งานก่อสร้างเป็นงานที่มีรายละเอียดมาก ระบบ AI สามารถทุ่นแรงการติดตามรายละเอียดงานเหล่านี้ได้ เช่น

    - เซนเซอร์รถปูน ที่ช่วยกำหนดปริมาณการปูนที่ถูกต้องเหมาะสมในแต่ละพื้นที่ได้ และลดงบประมาณการเทปูนที่สิ้นเปลืองได้ด้วย

    - เซนเซอร์ประตู เพื่อควบคุมการเข้าถึงหรืออุณหภูมิ เช่น อาหารแช่แข็ง สินค้ามูลค่าสูง

ธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์

  • ปรับปรุงเส้นทางการขนส่ง

    เมื่อโลกเข้าสู่การค้าขายออนไลน์มากกว่าการขายแบบออฟไลน์ ความต้องการการขนส่งก็เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน

    ในแต่ละวัน บริษัทขนส่งจึงอาจต้องมีการขนส่งหลายจุด ระบบ AI สามารถประมวลผลจุดหมายการขนส่ง และจัดเส้นทางการขนส่งให้ส่งได้ไวและขับขี่น้อยที่สุด ที่จะช่วยประหยัดน้ำมันและถนอมสภาพยานพาหนะมากขึ้น
  • ติดตามทรัพย์สิน

    ระบบ AI ช่วยติดตามทรัพย์สินได้ใกล้ชิดและทันท่วงทีมากขึ้น เช่น กล้องระบบ AI ที่ข่วยติดตามทรัพย์สินและแจ้งเตือนเมื่อมีความเคลื่อนไหวในพื้นที่ หรือระบบติดตามรถ GPS ที่ติดตามพิกัดของทรัพย์สินได้อย่างแม่นยำ รวมถึงทราบความเร็วของการเคลื่อนที่ของทรัพย์สินได้ด้วย
  • เพิ่มความปลอดภัยการขนส่ง

    ระบบ AI ช่วยดูแลคนขับ รถ และสินค้า ได้ ผ่านระบบติดตามรถและกล้อง ที่ช่วยติดตามพฤติกรรมคนขับรถที่เสี่ยงต่ออุบัติเหตุ ติดตามทรัพย์สินและพื้นที่รอบข้าง หรือระบบติดตามรถที่กำหนดพื้นที่การขับขี่ได้ และแจ้งเตือนทันทีเมื่อรถออกนอกพื้นที่ที่กำหนด

ธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์

เทคโนโลยียานยนต์สมัยใหม่ ที่ใช้ก่อน ได้ประโยชน์ก่อน

Cartrack นำ AI และ Machine Learning ใช้ในระบบ GPS ติดรถ และเซนเซอร์อุปกรณ์เสริม ที่เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ยานพาหนะได้คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพมากที่สุด อย่างยั่งยืน อาทิเช่น

  • กล้องติดรถ ระบบ AI ดูสดออนไลน์ได้ตลอดเวลา ติดตั้งได้ทั้งในห้องโดยสารและรอบคันรถ ติดได้สูงสุด 8 ตัว แจ้งเตือนเมื่อเกิดความผิดปกติทั้งกับคนขับรถ สินค้า และตัวรถ
  • เซนเซอร์ติดตามระดับน้ำมัน และซอฟต์แวร์ติดตามต้นทุนขนส่ง หรือ MiFleet เมื่อทำงานร่วมกัน ธุรกิจจะสามารถติดตามน้ำมันได้ตั้งแต่การวางแผนการเติมน้ำมัน การเติม น้ำมันเวลาอยู่ในถัง น้ำมันที่ใช้ออกไป และที่สำคัญ ค่าน้ำมันที่ใช้จ่ายไป

    ระบบเซนเซอร์และซอฟต์แวร์ MiFleet จะติดตาม ประมวลผล ชี้ข้อมูลที่น่าสนใจ รวมถึงแจ้งเตือนเมื่อพบการใช้น้ำมันที่ผิดปกติ ที่ช่วยป้องกันการทุจริตหรือขโมยน้ำมันรถได้อีกด้วย
  • ระบบติดตามรถและทรัพย์สิน ระบบติดตามรถ Cartrack เป็นมากกว่าการติดตามพิกัดรถและทรัพย์สิน เพราะสามารถเก็บข้อมูลเพื่อวิเคราะห์นำไปใช้รถได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า และแจ้งเตือนเมื่อรถและทรัพย์สินออกนอกพื้นที่ จึงติดตามกลับมาได้ทันท่วงที เมื่อเกิดเหตุผิดปกติไม่คาดฝันขึ้น
  • ระบบบำรุงรักษารถเชิงป้องกัน ระบบติดตาม Cartrack ติดตามข้อมูลยานพาหนะและเครื่องจักรตลอดเวลา จนมีข้อมูลการใช้งานที่ละเอียด และแจ้งเตือนการใช้งานและการซ่อมบำรุงที่เหมาะสม ทั้งหมดช่วยป้องกันยานพาหนะเสียหายและการเสียโอกาสการทำรายได้จากยานพาหนะด้วย
  • เซนเซอร์เฉพาะทาง เช่น เซนเซอร์เปิดปิดประตู เซนเซอร์วัดอุณหภูมิรถห้องเย็น เซนเซอร์รถปูน PTO ฯลฯ ที่ทำงานและขับเคลื่อนด้วยระบบ AI และ Machine Learning โดยเฉพาะ

เริ่มต้นใช้ระบบ AI กับยานพาหนะหรือเครื่องจักรครั้งแรก ปรึกษาเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ Cartrack ฟรีได้ที่โทร 021362920 , 021362921 ในวันจันทร์ - ศุกร์ เวลาทำการ หรือคลิกแอดและทัก LINE ของ Cartrack Thailand ที่นี่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ

เพื่อให้เข้าใจเรื่องเทคโนโลยียานยนต์สมัยใหม่ง่ายและชัดเจนขึ้น มาทำความเข้าใจกันก่อนว่า AI และ Machine Learning ต่างกันอย่างไร