BLOGS

เปิดสูตรดู GPS รถบรรทุก ยี่ห้อไหนดี และเหตุผลที่ควรเลือกใช้!

สนใจใช้งาน GPS ติดรถ Cartrack วันนี้ ปรึกษาฟรี!

ฉันเป็น / ...
จำนวนยานพาหนะของคุณ
ขอบคุณค่ะ เจ้าหน้าที่คาร์แทรคจะติดต่อกลับหาคุณโดยเร็วที่สุด
Oops! Something went wrong while submitting the form.

รถบรรทุกที่ใช้งานในไทยส่วนใหญ่ต้องติด GPS ด้วยเหตุผลด้านกฎหมายการขนส่งทางบก ที่ต้องให้ส่งข้อมูลการใช้งานรถและเวลาการที่ควบคุมการใช้งานรถ และอีกด้านก็เป็นเครื่องมือช่วยติดตามพิกัดการใช้รถได้อย่างมีประสิทธิภาพ คำถามคือ GPS รถบรรทุก ยี่ห้อไหนดี ที่จะตอบโจทย์การใช้งานและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพงานขนส่งของธุรกิจได้อย่างชัดเจนและเห็นผลลัพธ์ด้านต้นทุนหรือกำไร?

ก่อนตัดสินใจเลือกยี่ห้อ GPS ติดรถบรรทุก บทความคาร์แทรคตอนนี้ ชวนดูคุณสมบัติของ GPS รถบรรทุก ที่ธุรกิจควรมองหา เราจะรู้ได้อย่างไรว่า GPS รถบรรทุก ยี่ห้อไหนดีจริง และสาระดี ๆ สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องใช้งาน GPS

บทความตอนนี้ชวนคุยเรื่อง:

  • คุณสมบัติของ GPS รถบรรทุก ที่ธุรกิจควรมองหา
  • รู้ได้อย่างไรว่า GPS รถบรรทุก ยี่ห้อไหนดีจริง
  • ทำไมถึงควรเลือกใช้ GPS รถบรรทุก จาก Cartrack
  • GPS รถบรรทุก Cartrack เทคโนโลยีที่ตอบโจทย์

คุณสมบัติของ GPS รถบรรทุก ที่ธุรกิจควรมองหา

คุณสมบัติของ GPS รถบรรทุกที่มีประสิทธิภาพต่อการใช้งาน มีดังต่อไปนี้

1. มีความแม่นยำสูง ติดตามแบบเรียลไทม์

ท่ามกลางแบรนด์มากมายในท้องตลาด คุณอาจตัดสินใจไม่ถูกว่า GPS รถบรรทุก ยี่ห้อไหนดี แต่สิ่งแรกที่คาร์แทรคแนะนำให้คุณมองหาก็คือ GPS ยี่ห้อที่สามารถระบุตำแหน่งของรถบรรทุกได้แบบเรียลไทม์ (Rea Time) และแม่นยำสูง มีค่าความคลาดเคลื่อนต่ำ เพื่อป้องกันข้อมูลผิดพลาด 

โดยระบบ GPS ยังควรรองรับ GNSS (GPS, GLONASS, Galileo, BeiDou) ซึ่งให้ความแม่นยำที่ดีกว่า GPS อย่างเดียว  

นอกจากนี้ยังควรใช้เครือข่าย 3G ขึ้นไป รวมถึงใช้สัญญาณดาวเทียม เพื่อให้ติดตามรถได้ทั่วประเทศ แม้ในพื้นที่ห่างไกล และลดปัญหาสัญญาณขาดหาย ให้สัญญาณพิกัดรถยังคงรับส่งกันอย่างต่อเนื่อง

ความเรียลไทม์นี้ควรสามารถดูตำแหน่งรถแบบสด ๆ ได้จากสมาร์ทโฟนมือถือหรือคอมพิวเตอร์ด้วย จึงจะเข้ากับไลฟ์สไตล์การทำงานในปัจจุบัน

2. มีระบบแจ้งเตือนอัตโนมัติ 

ความสำคัญของ GPS รถบรรทุกคือ สามารถแจ้งเตือนเข้าสู่ระบบหลังบ้านให้ธุรกิจเจ้าของรถหรือผู้ดูแลรถทราบ เมื่อพบพฤติกรรมขับขี่ที่ไม่ปลอดภัย เพื่อช่วยปรับปรุงพฤติกรรมการขับขี่ ลดอุบัติเหตุ ลดการสึกหรอของรถและประหยัดค่าน้ำมัน ป้องกันการใช้รถผิดวัตถุประสงค์ โดยทั่วไปแล้ว การแจ้งเตือนอัตโนมัติมีดังนี้

  • ขับรถเร็วเกินกำหนด 
  • น้ำมันลดไวผิดปกติ (สัญญาณอันดับ 1 ของการขโมยน้ำมัน)  
  • เครื่องยนต์ถูกสตาร์ทนอกเวลางาน ใช้รถนอกเรื่องงาน หรือขโมยรถ  
  • การเข้า/ออกจุดจอดที่กำหนด (Geofencing) หรือเสี่ยงถูกโจรกรรม 
  • การเบรกกะทันหัน
  • การเร่งเครื่องแรงเกินไป
  • การเข้าโค้งแรง

3. รองรับการเชื่อมต่อ CAN Bus 

CAN Bus (Controller Area Network Bus) เป็นระบบเครือข่ายสื่อสารข้อมูลที่ใช้ภายใน รถยนต์ รถบรรทุก และเครื่องจักรอุตสาหกรรม เพื่อให้เซนเซอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ภายในรถสามารถสื่อสารกันได้โดยไม่ต้องใช้สายสัญญาณแยกกันเยอะ ๆ 

ซึ่งการสื่อสารข้อมูลกันของระบบต่าง ๆ ภายในเครื่องยนต์ ช่วยตรวจสอบสภาพรถแบบเรียลไทม์ เมื่อเกิดปัญหาข้างในเครื่องยนต์ก็จะทราบทันที แจ้งเตือนทันที แก้ไขได้ก่อนความเสียหายเกิด และลดค่าซ่อมบำรุงไปโดยปริยาย

4. รองรับเซนเซอร์น้ำมัน  

เหตุผลหลักข้อหนึ่งที่ผู้ประกอบการติดตั้ง GPS ที่รถบรรทุก เพื่อติดตามการใช้น้ำมัน ซึ่งการติดตามการใช้น้ำมันให้ได้ประสิทธิภาพคือ การติดตั้งเซนเซอร์น้ำมันที่มีคุณภาพสูง เพื่อวัดระดับน้ำมันตลอดเวลา วิเคราะห์อัตราการใช้น้ำมันต่อเที่ยว ต่อกิโลเมตร 

ประโยชน์ที่ได้รับจากการติดตั้งเซนเซอร์น้ำมันคือ ธุรกิจมีระบบติดตามน้ำมันตลอดเวลา ซึ่งจะทำให้ควบคุมต้นทุนค่าน้ำมัน และป้องกันการขโมยน้ำมัน ซึ่งเป็นภัยเงียบที่ผู้ประกอบการหลายรายคาดไม่ถึง  

5. มีระบบสำรองข้อมูลและแบตเตอรี่ในตัว

จะเกิดอะไรขึ้นถ้ารถบรรทุกที่ติดตั้ง GPS ของคุณ ไปอยู่ในพื้นที่อับสัญญาณ หรือรถเกิดอุบัติเหตุพังเสียหาย หรือถูกโจรกรรมถอดแบตเตอรี่ออก? 

GPS รถบรรทุกที่มีคุณภาพจะจัดการความกังวลข้อนี้ได้อัตโนมัติ เพราะมีระบบสำรองข้อมูลและแบตเตอรี่ในตัว 

โดยเทคโนโลยีในปัจจุบันที่มีประสิทธิภาพคือ ระบบเก็บข้อมูลแบบ Cloud ที่อัปโหลดข้อมูลเข้าสู่ระบบทันที ช่วยให้ธุรกิจได้ข้อมูลแบบ Real-Time และสามารถบันทึกข้อมูลออฟไลน์ และส่งข้อมูลเมื่อกลับมามีสัญญาณ  

ขณะที่แบตเตอรี่ที่อยู่ในตัวเครื่อง ทำให้อุปกรณ์มีไฟเลี้ยงระบบได้สักระยะหนึ่ง ที่เพียงพอต่อการส่งสัญญาณแจ้งเหตุกลับไปหาระบบหลังบ้านให้ธุรกิจทราบและรับมือได้ทันการณ์

6. รองรับ API เชื่อมต่อระบบ 

ธุรกิจส่วนมากจะมีระบบดำเนินงานเป็นของตัวเอง ระบบ GPS รถบรรทุก ยี่ห้อที่ดี ตอบโจทย์การใช้งาน ควรต้องเป็นยี่ห้อที่สามารถเชื่อมต่อกับระบบ ERP, WMS หรือซอฟต์แวร์ขนส่งอื่น ๆ  ได้ เช่น ระบบออกใบกำกับภาษี ฯลฯ

ติดตั้ง GPS รถบรรทุก ธุรกิจควรมองหาคุณสมบัติอะไรบ้าง

แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่า GPS รถบรรทุก ยี่ห้อไหนดีจริง ?

นอกเหนือจากการตรวจสอบว่า GPS รถบรรทุก ยี่ห้อไหนดีจากคุณสมบัติในข้อข้างต้นแล้ว วิธีการตรวจสอบอื่น ๆ ที่ธุรกิจสามารถทำได้คือ 

  • ตรวจสอบรีวิวจากผู้ใช้จริง ซึ่งอาจจะมาจากคนรู้จัก หรือดูในแพลตฟอร์มออนไลน์ Google, Facebook, Shopee, Lazada ฯลฯ แต่ข้อมูลเหล่านี้ควรมีการทบทวนกลั่นกรองความคิดเห็นส่วนตัวออกและว่ากันตามข้อเท็จจริงอีกที เพื่อคัดกรองรีวิวเท็จออกไปด้วยเช่นกัน
  • เปรียบเทียบฟีเจอร์ คุณภาพและราคา ฟีเจอร์ที่ต้องการใช้ คุณภาพของสินค้า บริการหลังการขาย และราคา ควรนำทั้งหมดนี้มาเปรียบเทียบกันกับยี่ห้อต่าง ๆ และพิจารณาจากตัว GPS เอง ว่าเหมาะสมในการใช้งานหรือไม่
  • ขอลองใช้งานจริง (Demo) ก่อนตัดสินใจซื้อ ผู้ให้บริการระบบ GPS ในปัจจุบันนี้ส่วนใหญ่มีให้บริการทดลองใช้หรือให้ดูระบบใช้งานจริง เพื่อให้มั่นใจว่า GPS ติดรถบรรทุกที่ตัดสินใจเลือกใช้นั้นมีประสิทธิภาพได้จริงและได้อย่างสูงสุด 

ทำไมถึงควรเลือกใช้ GPS รถบรรทุก จาก Cartrack

Cartrack เป็นระบบ GPS ติดตามรถบรรทุกที่ให้มากกว่าการระบุตำแหน่ง เพราะช่วยบริหารจัดการรถ ลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจขนส่งได้จริง  

1. ติดตามตำแหน่งแม่นยำสูงสุด 

อัปเดตเรียลไทม์ระดับวินาที และอัปเดตตามเหตุการณ์ด้วยสัญญาณจากหลายดาวเทียม (GPS, GLONASS, Galileo) และระบุตำแหน่งแม่นยำ คลาดเคลื่อนต่ำ

2. แจ้งเตือนทันที ป้องกันการทุจริตและขโมยน้ำมันได้ 

GPS ทั่วไปแค่บอกตำแหน่ง แต่ Cartrack แจ้งเตือนเหตุการณ์สำคัญหรือน่าสงสัย เช่น น้ำมันลดผิดปกติ ขับออกนอกเส้นทางที่กำหนด จอดรถเดินเบาหรือติดเครื่องไว้เฉย ๆ นานเกินไป เบรกกะทันหันหรือเร่งเครื่องแรงเกินไป  

3. ตรวจสอบน้ำมันแบบแม่นยำ  

เชื่อมต่อกับเซนเซอร์น้ำมันและ CANBus ของรถ จึงตรวจสอบข้อมูลได้ชัดเจนและหลากหลาย เช่น เติมน้ำมันกี่ลิตร เติมที่ไหน เติมเวลาไหน ไปจนถึงคำนวณอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันต่อเที่ยว ทำให้ประหยัดน้ำมันได้จริง

4. วิเคราะห์พฤติกรรมการขับขี่  

ระบบ GPS รถบรรทุก Cartrack สามารถตรวจจับและแจ้งเตือนเข้าสู่ระบบ เมื่อคนขับรถขับเร็วเกินกำหนด เบรกแรงหรือเร่งเครื่องกะทันหัน เข้าโค้งเร็วเกินไป โดยจะสรุปวิเคราะห์คะแนนความปลอดภัยของคนขับ ไปอบรมการขับขี่ได้ตรงจุด ช่วยลดอุบัติเหตุได้จริง  

5. มีระบบ Geofencing จำกัดเส้นทางขนส่ง  

Cartrack มีเทคโนโลยี Geofencing ที่ตั้งค่าพื้นที่ที่รถสามารถวิ่งได้ เช่น เส้นทางโกดังไปยังลูกค้า ระบบจะแจ้งเตือนว่า รถเข้าพื้นที่เรียบร้อย 

หรือแจ้งเตือนหากรถออกนอกพื้นที่ที่กำหนดหรือเข้าพื้นที่อันตรายที่ธุรกิจจับตาอยู่ เช่น พื้นที่ลักลอบสูบน้ำมันขาย หรือที่เรียกกันในวงการขายน้ำมันเถื่อนว่า พื้นที่ขายหมู ทำให้ธุรกิจทราบและจัดการก่อนเกิดสูญเสียทรัพย์จริง

6. มีแอปพลิเคชันใช้งานง่าย ดูข้อมูลได้ทุกที่  

Cartrack ดูตำแหน่งรถทุกคันแบบเรียลไทม์ทั้งทางสมาร์ทโฟนมือถือ ทั้งระบบ iOS และ Android และบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ไม่ต้องติดตั้งระบบใหม่ในคอมพิวเตอร์ ระบบใช้งานง่าย และเลือกได้ว่าตั้งค่าการแจ้งเตือนอะไรบ้าง

7. มีเครือข่ายสัญญาณครอบคลุมทุกพื้นที่

Cartrack รองรับ 4G และดาวเทียม GPS สำหรับพื้นที่ห่างไกล แม้รถวิ่งเข้าอุโมงค์หรือจุดอับสัญญาณก็ยังบันทึกข้อมูลไว้ เพราะมีระบบสำรองข้อมูลอัตโนมัติ  

8. บริการหลังการขาย 24/7 พร้อมทีมซัพพอร์ต  

บริการหลังการขาย เป็นเงื่อนไขสำคัญที่ธุรกิจมองหาเมื่อติดตั้ง GPS รถใช้งาน ซึ่งนับตั้งแต่การขายจนถึงการเข้าสู่สมาชิก Cartrack มีทีมงานดูแลอบรมการใช้งาน ซัพพอร์ตการใช้ระบบ และช่วยดูแลรถตลอด 24 ชั่วโมง และที่สำคัญ ฟรี อัปเดตซอฟต์แวร์ให้ทันสมัยต่อการใช้งานตลอดอายุการใช้งาน  

9. ปลอดภัยสูงสุด ข้อมูลไม่รั่วไหล  

Cartrack ได้รับการรับรองระบบมาตรฐานระดับโลก (ISO 27001 Certified) การันตีความปลอดภัยข้อมูลเข้ารหัสได้ปลอดภัย คุ้มครองข้อมูลการใช้งานสูงสุด   

Cartrack ไม่ใช่แค่ GPS แต่เป็นเครื่องมือบริหารจัดการขนส่งที่ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจที่ธุรกิจสามารถไว้ใจได้

ทำไมถึงควรเลือกใช้ GPS รถบรรทุก Cartrack

GPS รถบรรทุก Cartrack เทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ธุรกิจมีรถใช้งาน 

ธุรกิจมากกว่า 115,000 แห่ง วางใจใช้ Cartrack ติดตามและเพิ่มประสิทธิภาพรถใช้งาน รวมถึงคุณเนาวรัตน์พัฒนาการ บริษัทรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ เป็นเจ้าของเมกะโปรเจกต์มากมาย อาทิ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (เดิม) ห้างสรรพสินค้าหลายแห่ง สนามบิน ฯลฯ 

โดย Cartrack ได้รับเกียรติจาก คุณสุนทร อักษรเวช เจ้าหน้าที่ธุรการงานทะเบียนรถของ เนาวรัตน์พัฒนาการ ให้สัมภาษณ์ถึงสถานที่ทำงาน

คุณสุนทรเล่าว่า คุณเนาวรัตน์ฯ ติด GPS กับ Cartrack มาประมาณ 4 ปีแล้ว ส่วนใหญ่บริษัทใช้ GPS เพื่อติดตามรถ ว่ารถอยู่ตำแหน่งไหน จอดอยู่ตรงไหนบ้าง ใช้ความเร็วเท่าไหร่ เวลาตามรถคันนี้อยู่ที่ไหน จะกลับมาทันมั้ย ก็จะดู GPS เป็นหลัก

ในแต่ละวัน คุณสุนทรจะดูสถานะของรถว่าเป็นอย่างไร ถ้าจอดอยู่ จอดนานแค่ไหน รถจอดมากี่วันแล้ว เพราะรถที่ดูแลหลัก ๆ มีประมาณ 85 คัน ซึ่งเยอะมาก 

แต่ด้วยปริมาณที่เยอะ คุณสุนทรก็มาจัดหมวดหมู่รถใหม่ในระบบ เช่น รถตู้ก็กลุ่มนึง รถหัวลาก รถลากจูงก็กลุ่มนึง รถสิบล้อก็กลุ่มนึง

โดยก่อนจะทำได้แบบนี้ คุณสุนทรเล่าว่า ก่อนใช้ระบบจะมีเจ้าหน้าที่มาสอน ทำให้รถ 80 กว่าคัน ดูแลคนเดียวได้

ขณะที่เรื่องต่อภาษีรถ ซึ่งเป็นอีกเรื่องที่คุณสุนทรให้ความสำคัญ เหมือนกับบริษัทที่มีรถขนส่งทั่วไป เพราะถ้าเจอขนส่งปรับค่าเสียหายเป็นหมื่นได้ แต่พอใช้ Cartrack กรณีเสียค่าปรับก็ลดลง

ขนส่งอาจจะมีคำถามว่าทำไมจีพีเอสไม่เคลื่อนไหว ขอดูจีพีเอสหน่อย คุณสุนทรก็จะไปดูตำแหน่งรถในระบบ ต่อภาษีผ่าน ไม่ต้องสตาร์ทรถ ซึ่งเป็นจุดประสงค์แรกของเนาวรัตน์ที่เลือกใช้จีพีเอสของ CARTRACK เพื่อให้ปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนดได้ครบถ้วน โดยไม่ต้องกังวลว่าจะพลาดเรื่องใดไป

แต่ที่ได้อีกเรื่องบริการของ Cartrack ที่ความรวดเร็วและดูแลหลังการขายจริง ๆ พอสั่งติดตั้งใหม่หรือแจ้งซ่อม ย้ายจากคันนู้นไปคันนี้ ก็ง่าย ไว เรื่องอุปกรณ์ก็มีขนาดกำลังดี หาจุดติดตั้งเข้าไปในรถสะดวก

ธุรกิจมีรถใช้งานไม่ว่าจะมีรถคันเดียวหรือรถหลายสิบคัน อยากเริ่มใช้งาน GPS หรืออยากทราบว่าติด GPS รถ 10 ล้อ ราคาเท่าไหร่ สอบถาม Cartrack ได้คำตอบชัดเจนไม่เสียเวลา โทร 02-136-2920 หรือ 02-136-2921 ในวันจันทร์ถึงศุกร์ ตั้งแต่เวลา 8.30 - 17.30 น. หรือกรอกฟอร์มด้านบน เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับโดยเร็วที่สุดได้เลย

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเรื่อง GPS รถบรรทุก ยี่ห้อไหนดี

ถาม: “หากธุรกิจที่ทำ มีรถไม่กี่คัน จำเป็นจะต้องติดตั้ง GPS ไหม”

ตอบ: แม้ว่าธุรกิจของคุณจะมีรถเพียงไม่กี่คัน แต่การติดตั้ง GPS ยังคงมีประโยชน์อย่างมาก เช่น ควบคุมค่าใช้จ่ายน้ำมันและป้องกันการใช้รถผิดวัตถุประสงค์ ติดตามตำแหน่งรถแบบเรียลไทม์ ป้องกันการโจรกรรมรถ ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน ลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุและซ่อมบำรุงได้อย่างเหมาะสมตามการใช้งานจริง   

หรือหากรถของคุณเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูง การติด GPS ถือเป็นการป้องกันความเสี่ยงที่คุ้มค่า หรือหากธุรกิจของคุณเน้นงานบริการที่ต้องมีความแม่นยำ เช่น ขนส่งของ Delivery ฯลฯ GPS ติดรถจะช่วยให้ลูกค้าได้รับบริการที่ดีขึ้นด้วย  

ถาม: “หากสนใจติด GPS รถ 10 ล้อ ต้องมีงบประมาณขั้นต่ำเท่าไร”

ตอบ: สำหรับ Cartrack GPS รถบรรทุก ขนส่ง ราคาเริ่มต้นที่ 329 บาท ต่อเดือน หรือหากชำระค่าบริการรายปี ได้รับสิทธิจ่าย 10 เดือน ใช้ 12 เดือน ด้วย ซึ่งราคาชำระนี้จะรวมทั้งกล่อง GPS ติดรถแบบซ่อน ติดตั้งแบบไม่เกะกะการใช้งานรถ เครื่องรูดใบขับขี่ลิงก์กรมขนส่งฯ และบริการหลังการขายเปลี่ยน-ซ่อม-ค่าช่าง ฟรีตลอดการใช้งาน

ถาม: “GPS รถบรรทุก ราคาแพงถึงจะดี จริงหรือไม่”

ตอบ: ไม่จริงเสมอไป เพราะ Cartrack นำเสนอระบบติดตามรถมาตรฐานระดับโลกและได้รับการรับรองในไทย พร้อมบริการหลังการขายทุกกรณีตลอดการใช้งาน ทั้งหมดมาในราคาที่คุ้มค่าย่อมเยา ที่มีลูกค้าผู้ใช้งานประจำทั่วโลกใน 23 ประเทศ ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า GPS ติดรถบรรทุกที่ดีนั้น ไม่จำเป็นต้องแพงหรือราคาสูงเสมอไป

รถบรรทุกที่ใช้งานในไทยส่วนใหญ่ต้องติด GPS แต่ GPS รถบรรทุก ยี่ห้อไหนดี ที่จะตอบโจทย์การใช้งานและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพงานขนส่งได้ชัดเจน หาคำตอบได้ในบทความนี้