มาดู 4 ขั้นตอน ที่ทำตามกันได้ง่ายๆ ในการล้างรถด้วยตัวของคุณเอง!
บางคนที่ล้างรถด้วยตัวเองมักจะใช้ฟองน้ำชุบน้ำยาล้างรถแล้วขัดวนไปที่ตัวรถเลยทันที แต่การทำแบบนี้จะทำให้คราบสกปรก ทราบ หรือเม็ดหินที่ติดอยู่บนตัวรถติดไปกับฟองน้ำแล้วไปขีดข่วนส่วนอื่น ๆ ของรถ วิธีล้างรถขั้นตอนแรกที่ถูกต้องนั่นคือการชำระเอาคราบที่ฝังแน่นเหล่านั้นให้ออกจากตัวรถก่อนที่จะทำความสะอาดในขั้นตอนต่อไปนั่นเอง
วิธีล้างรถในขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่คุณจะได้ทำความสะอาดรถอย่างเต็มที่ ซึ่งการผสมน้ำยาล้างรถในอัตราส่วนที่พอเหมาะจะทำให้การทำความสะอาดนั้นง่ายขึ้น เพราะหากคุณใส่น้ำยามากเกินไปก็จะทำให้ล้างฟองน้ำยาออกยาก โดยวิธีที่ถูกต้องคือการล้างจากด้านบนสุดของรถลงมายังส่วนล่างสุดของรถเพื่อไม่ให้คราบสกปรกไปเลอะส่วนของรถที่ล้างไปเรียบร้อย
เมื่อเสร็จขั้นตอนการขัดถูไปเรียบร้อยแล้ว ให้คุณนำสายฉีดน้ำมาฉีดรอบตัวรถเพื่อเอาคราบฟองน้ำยาและคราบสกปรกที่ติดออก หากมีบริเวณไหนของรถที่ยังมีคราบฝังแน่น แล้วขัดด้วยฟองน้ำไม่ได้ คุณสามารถใช้สายฉีดน้ำที่สามารถปรับระดับแรงดันของน้ำได้มาเป็นตัวช่วยในการกำจัดคราบได้เช่นเดียวกัน หากคุณยังมองเห็นว่ายังมีบริเวณไหนของรถที่ยังไม่สะอาดหรือยังมีคราบติดอยู่สามารถขัดด้วยฟองน้ำได้อีกครั้งเพื่อให้รถสะอาดจริง โดยวิธีการฉีดน้ำที่ถูกต้องควรฉีดจากด้านบนของรถมายังด้านล่าง
มีหลายคนที่ล้างรถเสร็จแล้วปล่อยให้น้ำที่เกาะตามสีรถแห้งไปเอง แต่สิ่งที่จะตามมานั่นคือรอยหยดน้ำที่ติดสีรถและกระจกรถ ทำให้รถไม่เงางาม ฉะนั้นหลังเสร็จการล้างรถไปแล้ว ควรปิดขั้นตอนด้วยกรเช็ดรถให้แห้งทันทีด้วยผ้าสะอาด โดยผ้าที่ใช้ควรเป็นผ้าที่ไม่ทิ้งขนผ้าเอาไว้บนตัวรถ
การล้างรถที่ผิดวิธีหรือขาดความเข้าใจอาจทำให้เกิดความเสียหายขึ้นกับตัวรถ ไม่ว่าจะเป็นรอยที่อยู่ติดรถคุณไปตลอดกาล หรือทำให้สีสวยๆหลุดลอกออกได้ ดังนั้นเราจึงมีเคล็ดลับแบบไม่ลับมาฝากทุกคน
หากคุณเป็นคนที่คิดว่าการล้างรถควรล้างในเวลาที่เครื่องกำลังร้อน เราขอบอกเลยว่าคุณกำลังคิดผิด เพราะเครื่องยนต์ที่กำลังร้อนควรได้รับการพักก่อน หลังจากที่เครื่องเย็นลงแล้วให้คุณล้างรถได้ ซึ่งวิธีล้างรถที่ถูกต้องควรล้างตอนที่เครื่องเย็นด้วยน้ำเย็น เพื่อไม่เป็นการเพิ่มความร้อนให้กับเครื่องยนต์อีกด้วย
เราเชื่อว่ามีหลายคนเลยทีเดียวใช้ล้างรถด้วยผงซักฟอกหรือน้ำยาล้างรถแทนน้ำยาล้างรถ เพราะเป็นน้ำยาทำความสะอาดที่หาง่าย มีอยู่ทุกบ้าน แต่คุณรู้หรือไม่ว่าการใช้ผงซักฟอกหรือน้ำยาล้างจานนี่แหละเป็นการทำร้ายสีรถได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียวล่ะ ฉะนั้นถ้าคุณอยากให้สีรถสวย ๆ อยู่คู่กับรถของคุณไปนานแล้วล่ะก็ ไม่ควรใช้น้ำยาล้างจานหรือผงซักฟอกในการล้างรถ
หนึ่งในเคล็ดลับวิธีล้างรถที่คนล้างรถเองจะต้องรู้นั่นคือการปัดเอาฝุ่นออกจากรถด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์ที่ไม่ทิ้งคราบขนผ้าให้ติดอยู่บนตัวรถ แต่มีหลายคนที่เอาไม้ปัดฝุ่นหรือที่เราเรียกกันว่าไม้ขนไก่มาปัดเอาฝุ่นออกจากรถ ซึ่งอุปกรณ์ที่ว่ามานี้ไม่ได้ทำให้ฝุ่นหายออกไปจากตัวรถของคุณเลย ในทางตรงกันข้ามมันยังช่วยเพิ่มฝุ่น และทำให้ขนไก่ติดบนรถอีกด้วย นอกจากนี้หากมีเศษหินติดอยู่ที่แปรงอาจทำให้เศษหินมาขูดสีรถให้ถลอกได้
หลายคนที่ชอบล้างรถด้วยตัวเองแล้วเห็นคราบสกปรกฝังแน่นติดอยู่บนตัวรถ เช่น คราบโคลน คราบขี้นก หรือแม้แต่เศษหิน เศษทราย เป็นคราบที่ติดแน่นกับตัวรถที่ใช้ฟองน้ำขัดแล้วล้างไม่ออก จึงใช้มีดหรือของมีคมมาขูดเพื่อเอาคราบออกจากตัวรถ ซึ่งของมีคมเหล่านี้อาจไปขูดกับสีรถจนทำให้เกิดรอยได้ ในการล้างรถที่ถูกต้องจึงไม่ควรใช้ของมีคมมาขูด แต่ควรใช้น้ำล้างตัวรถเพื่อให้คราบอ่อนตัวลงก่อน แล้วค่อยใช้น้ำยาล้างรถผสมกับน้ำแล้วล้างออกด้วยฟองน้ำ หรือหากบ้านไหนมีสายฉีดน้ำแรง ๆ สามารถนำมาใช้ในการฉีดล้างคราบเหล่านี้ออกแทนการใช้ของมีคมได้
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบล้างรถด้วยตัวเอง อย่าลืมเอาวิธีล้างรถดี ๆ จากด้านบนนี้ไปใช้ล้างรถของตัวเองดูล่ะ แล้วคุณจะได้รถคันเดิมแต่สะอาดกว่าเดิมอย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังไม่ทำให้รถของคุณเสี่ยงต่อการถูกขีดข่วน และเป็นการเลี่ยงไม่ให้สีรถถูกทำลายอีกด้วยนะ
การล้างรถด้วยตัวเอง ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องล้างรถให้ถูกวิธี มาดูวิธีล้างรถที่ถูกต้องเพื่อใช้งานรถของคุณได้ยาวนานขึ้น แถมยังประหยัดค่าใช้จ่าย