BLOGS

GPS รถเมล์ บันไดขั้นแรกของอนาคตรถเมล์ไทย

คุณต้องการให้ คาร์แทรค ช่วยเหลือเรื่องอะไร?

ฉันเป็น / ...
จำนวนยานพาหนะของคุณ
ขอบคุณค่ะ เจ้าหน้าที่คาร์แทรคจะติดต่อกลับหาคุณโดยเร็วที่สุด
Oops! Something went wrong while submitting the form.

เคยรอรถเมล์นานที่สุดแค่ไหน? สำหรับคนสัญจรเดินทางที่ใช้บริการรถสาธารณะเป็นหลัก มักมีความฝันว่าอยากให้มี GPS รถเมล์ คอยบอกว่า รถเมล์สายที่รอมาถึงไหนแล้ว หรือเวลานี้ยังวิ่งให้บริการอยู่หรือไม่

ซึ่งปัจจุบันไม่ใช่แค่ความฝันอีกต่อไปแล้ว เพราะรถเมล์หรือรถโดยสารประจำทางที่วิ่งในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ (ขสมก.) ส่วนใหญ่ได้นำระบบ GPS มาติดตั้งในรถเมล์สายต่าง ๆ เพื่อให้บริการแก่ประชาชนแล้ว

แม้จะยังไม่ครบทุกสายรถเมล์ที่วิ่ง แต่ระบบ GPS รถเมล์ ที่อยู่บนรถประจำทางก็ช่วยให้ผู้โดยสารเดินทางสะดวกสบายมากขึ้นกว่าแต่ก่อนเป็นอย่างมาก

รถเมล์ ความหวังคนเดินทาง ที่ไม่รู้จะมาเมื่อไหร่

ในอดีต ผู้โดยสารรถประจำทางสาธารณะบ้านเราจะไม่มีทางได้รู้เลยว่ารถเมล์คันนั้นหรือรถเมล์สายที่เรารอคอยอยู่นั้นจะมาถึงป้ายนี้เมื่อไหร่ ตอนนี้ขับรับส่งผู้โดยสารอยู่ที่ไหน มีกี่คัน หรือตอนนี้ยังออกวิ่งให้บริการอยู่หรือไม่

คำถามเหล่านี้ มาจากการ “ขาดข้อมูลปัจจุบัน (Real time)” จนเกิดความไม่รู้ซึ่งทำให้เสียเวลาในการทำกิจกรรมในแต่ละวันเป็นอย่างมาก

GPS รถเมล์ ทางออกที่ยกระดับคุณภาพชีวิต

กระทั่งต้นปี 2016 ขสมก. ได้เริ่มนำระบบ GPS รถเมล์ มาใช้งาน โดยนำร่องจากการแสดงพิกัดให้ผู้โดยสารเห็นบนรถ

และในปีต่อมา มีกลุ่มผู้พัฒนาโดยการสนับสนุนจาก CU Innovation Hub และขสมก. ได้เปิดแอพพลิเคชั่นชื่อ Viabus ที่ช่วยให้คนทั่วไป สามารถติดตามสายรถเมล์ในบริเวณที่ตัวเองอยู่ว่า มีสายอะไรบ้าง แต่ละเส้นทางไปที่ไหน แต่ละคันอยู่ที่ไหน ในเวลา ณ ปัจจุบัน หรือ Real time

ข้อมูลเหล่านี้ทำให้ผู้โดยสารที่มีแอพฯ นี้รู้ล่วงหน้าว่า จะได้ขึ้นรถเมื่อไหร่ ผ่านหน้าจอสมาร์ทโฟนของผู้โดยสารเอง ช่วยให้กำหนดเวลาเดินทางและวิธีการเดินทางได้ในระดับหนึ่งว่า ควรมายืนคอยรถเมล์เมื่อไหร่ หรือควรคอยรถเมล์ไหม

ระบบ GPS ใช้อย่างเเพร่หลาย จนกลายเป็นของทั่วไป

ไม่เฉพาะ ขสมก. เท่านั้นที่นำระบบ GPS มาใช้งาน กรมการขนส่งทางบกซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบรถบรรทุก รถตู้ และรถแท็กซี่ทั่วประเทศก็ได้นำเอาระบบนี้มาใช้ด้วย เพื่อประโยชน์ในการทำงานและติดตามดูความเคลื่อนไหวและพฤติกรรมของรถเหล่านี้ซึ่งเป็นรถสาธารณะ รวมถึงตัวพนักงานขับรถหรือโชเฟอร์ด้วย

ซึ่งระบบนี้เรียกว่า ระบบ GPS ขนส่ง เนื่องจากระบบ GPS ขนส่งนี้ จะบอกถึงความประพฤติของผู้ขับรถ เวลาการขับขี่ และการเดินทางโดยตรง ซึ่งจะมีการตัดคะแนนความประพฤติของโชเฟอร์ เมื่อมีการประพฤติผิดระเบียบ หรือออกนอกเส้นทาง

ทั้งนี้เพื่อการจัดระเบียบของการขนส่ง ระบบ GPS ของกรมการขนส่งจะต่างจากของ ขสมก.อยู่บ้าง เนื่องจากเป็นระบบที่ใช้กับเฉพาะโชเฟอร์ที่ขับรถ การเดินทาง และการตรวจจับเวลา สถานที่เท่านั้น ไม่เกี่ยวกับผู้โดยสารแต่อย่างใด ส่วน ขสมก.จะต้องมีผู้โดยสารเข้ามาเป็นผู้ใช้งาน และเป็นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรง

ไม่มี GPS ไม่ได้บัตรขับขี่!

ภายในสิ้นปี 2562 หรือ 2019 กรมการขนส่งทางบก (DLT) ออกกฎข้อบังคับให้รถโดยสารและรถบรรทุกตั้งแต่ 10 ล้อขึ้นไป ต้องติดระบบ GPS ติดตามรถ โดยไม่ได้ระบุยี่ห้อเจาะจง

กำหนดเพียงแค่ให้ระบบสามารถติดตามและควบคุมพฤติกรรมการขับรถของผู้ขับขี่ได้ตามเวลา ณ ปัจจุบัน หรือ Real-Time สามารถบันทึกข้อมูลได้อย่างแม่นยำสูง ข้อมูลที่ต้องบันทึกก็เช่น ความเร็วที่ใช้ เส้นทางที่ใช้ ระยะทาง ตำแหน่งพิกันของรถ ชั่วโมงการขับรถและเวลาพักรถ

หากผู้ประกอบการหรือเจ้าของรถโดยสารที่ไม่ปฏิบัติตาม อาจจะไม่ได้รับอนุญาตให้ต่อใบอนุญาตขับขี่ได้

กฎหมายที่เกี่ยวกับการใช้รถใช้ถนนนี้ยังมีข้อกำหนด และข้อห้ามอยู่อีกมากมาย การนำเครื่องมือเครื่องใช้ระบบใหม่ เช่น ระบบ GPS ทั้งขนส่ง และรถเมล์มาใช้นี้ก็นับว่ามีประโยชน์ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องทำความเข้าใจกับมันด้วย ทั้งผู้ควบคุมระบบ และผู้ใช้ระบบจึงก่อให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด

เชื่อว่าในอนาคต ระบบ GPS ของทั้งสององค์กรทั้ง GPSรถเมล์ และ GPS ขนส่ง จะให้ประโยชน์เพิ่มเติมกว่าปัจจุบัน ขึ้นอยู่กับระบบ GPS ติดตามรถของแต่ละแบรนด์ว่า จะมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่พิเศษอื่นๆ อะไรที่มอบให้กับลูกค้าได้

สำหรับ Cartrack เราพัฒนาและออกแบบระบบ GPS พร้อม Telematics ช่วยติดตามและจัดการการใช้ยานพาหนะได้ ที่ลดต้นทุนการขนส่งและเพิ่มกำไรธุรกิจในระบบเดียว

ติดตั้ง Cartrack คือการลงทุนวางระบบคุณภาพสูง ในราคาย่อมเยา เพราะ Cartrack มาพร้อมกับบริการระดับพรีเมี่ยมและอัพเดตเทคโนโลยีต่อเนื่องเพื่อลูกค้า แบบไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เรารับรองความคุ้มค่าที่การันตีด้วยความพอใจจากลูกค้าจริงกว่า 1,525,000 คัน ทั่วโลก

GPS รถเมล์ เข้ามามีบทบาทในยุคปัจจุบัน หลายๆประเทศใช้งานระบบ GPS กับรถเมล์ รถขนส่ง แท๊กซี่ รถรับส่ง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และในไทยเองก็เช่นกัน