13.1 คาร์แทรคจะใช้ความพยายามตามสมควรในการปฏิบัติตามหน้าที่ตามสัญญาฉบับนี้โดยใช้ความพยายามเยี่ยงผู้ประกอบการค้าพึงกระทำ เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานอุตสาหกรรมที่ยอมรับเป็นการทั่วไป หากว่าคาร์แทรคถูกห้าม หรือ ขัดขวาง ไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อม ในการปฏิบัติตามหน้าที่ตามสัญญานี้โดยเหตุใดๆ อันนอกเหนือการควบคุมแล้ว คาร์แทรคจะไม่ต้องรับผิดชอบต่อความล่าช้าหรือความผิดพลาดในการปฏิบัติตามหน้าที่ของตน
13.2 ในการทำข้อตกลงนี้ ลูกค้ายินยอมให้คาร์แทรคใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลการใช้งาน ตำแหน่งของยานพาหนะ พฤติกรรมของผู้ขับขี่ ข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ และข้อมูลอื่นๆ ที่ส่งมาจากอุปกรณ์ที่ติดตั้งในยานพาหนะของลูกค้า
13.3 ในกรณีที่ยานพาหนะของลูกค้าได้รับการติดตั้งอุปกรณ์ส่งข้อมูลแบบต่อเนื่อง ลูกค้าในฐานะเจ้าของข้อมูล ขอแต่งตั้งคาร์แทรคเป็นตัวแทนเพื่อแจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการส่งข้อมูลตามเวลาที่เกิดขึ้นจริงไปยังฐานข้อมูลของคาร์แทรค
13.4 ตลอดระยะเวลาของข้อตกลงนี้และนับแต่วันเลิกสัญญานี้เป็นต้นไป แต่ละฝ่ายและพนักงานและตัวแทนของตน ตกลงที่จะไม่เปิดเผยข้อมูลลับใดๆ ที่ได้รับจากคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งต่อบุคคลหรือองค์กรอื่นใด
13.5 ลูกค้าไม่สามารถแก้ไขข้อกำหนดของสัญญาฉบับนี้ได้ โดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากคาร์แทรค คาร์แทรคขอสงวนสิทธิ์ในการแก้ไขข้อกำหนดและเงื่อนไขเหล่านี้เป็นครั้งคราว ข้อกำหนดในการให้บริการฉบับใหม่จะปรากฏบนเว็บไซต์คาร์แทรค (www.cartrack.co.th) พร้อมกับวันที่จะมีผลซึ่งจะไม่น้อยกว่า30 (สามสิบ) วันหลังจากวันที่เผยแพร่ครั้งแรก เป็นหน้าที่ของลูกค้าที่จะเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์คาร์แทรคเป็นประจำ เพื่อตรวจสอบว่ามีการแก้ไขและมีวันที่มีผลบังคับใช้หรือไม่
13.6 ในกรณีที่มีจำนวนวันหรือระยะเวลาอื่นใดที่กำหนดไว้ในข้อตกลงนี้สำหรับการให้บริการหรือหน้าที่จะนำวันมาคำนวณโดยนับรวมวันแรกและวันสุดท้ายด้วย
13.7 ในกรณีที่คาร์แทรคดำเนินคดีทางกฎหมายกับลูกค้าหรือคนกลางจากการผิดนัดการชำระเงินตามสัญญาฉบับนี้ ลูกค้าจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด (ตามอัตราที่ค่าใช้จ่ายของลูกค้าและค่าทนายความของลูกค้า) โดยให้เป็นไปตามที่ศาลตัดสินหากศาลมีคำพิพากษาเป็นคุณแก่คาร์แทรค
13.8 ลักษณะและจำนวนภาระหนี้สินที่ลูกค้ามีต่อคาร์แทรคในเวลาใดก็ตาม จะต้องได้รับการพิจารณาและพิสูจน์ด้วยเอกสารที่ลงนามโดยผู้จัดการของคาร์แทรคซึ่งไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ความสามารถหรืออำนาจดังกล่าว ใบรับรองดังกล่าวจะต้องมีผลผูกพันกับลูกค้าในฐานะพยานหลักฐานเบื้องต้นว่าจำนวนเงินที่ระบุไว้นั้นถึงกำหนดชำระและจะต้องมีผลบังคับใช้เป็นเอกสารให้กับลูกค้าในการพิจารณาคดีของศาลที่มีอำนาจ หากลูกค้าประสงค์ที่จะโต้แย้งใบรับรองดังกล่าวหรือผลกระทบดังกล่าวภาระการพิสูจน์จะอยู่ที่ลูกค้า
13.9 คู่สัญญาแต่ละฝ่ายไม่อาจสละหรือมอบหมายสิทธิหรือข้อผูกพันในตามสัญญาฉบับนี้ โดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่ง ความยินยอมจะไม่อาจถูกยึดหน่วงไว้โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร
13.10 คาร์แทรคจะพยายามแก้ไขข้อพิพาทใดๆอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยลูกค้าอาจส่งคำร้องเรียนใดๆตรงไปยังคณะกรรมการผู้บริโภคหากลูกค้าไม่พอใจกับวิธีการร้องเรียน ลูกค้าอาจดำเนินการในศาลที่มีอำนาจ
13.11 หากเกิดข้อพิพาทไม่ว่าจะเป็นคดีแพ่งหรือคดีอาญา คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงให้นำคดีขึ้นสู่ศาลที่มีอำนาจในเขตจังหวัดกรุงเทพมหานคร
13.12 ให้ใช้กฎหมายของราชอาณาจักรไทยในการบังคับกับสัญญาฉบับนี้และให้ศาลในราชอาณาจักรไทยเป็นศาลที่มีเขตอำนาจในการพิจารณาคดีที่เกี่ยวข้องกับสัญญาฉบับนี้
13.13 ลูกค้ามีหน้าที่ในการแจ้ง คาร์แทรคเป็นลายลักษณ์อักษรเป็นเวลา 30 (สามสิบ) วันล่วงหน้า ในกรณีที่ลูกค้าไม่ต้องการรับการติดต่อเกี่ยวกับรับผลิตภัณฑ์และบริการเสริมใหม่อีกต่อไป